โอกินาวา/วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ

บทความต่างๆที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
ตอบกลับโพส
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
กระทู้: 1243
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 11, 2012 10:42 pm

โอกินาวา/วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ

โพสต์ โดย Thai VI Article » อังคาร ต.ค. 24, 2017 8:48 pm

โค้ด: เลือกทั้งหมด

    บทความฉบับนี้ รายงานจากโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่นค่ะ

    เป็นครั้งแรกที่ดิฉันได้มาเยือนหมู่เกาะแห่งนี้ เพราะแต่เดิมการเดินทางจากประเทศไทยค่อนข้างลำบาก ต้องไปต่อเครื่องที่ฮ่องกง ไทเป หรือโตเกียว หรือไม่ก็ต้องไปแบบเครื่องเช่าเหมาลำ ปัจจุบันมีสายการบินโลว์คอสของญี่ปุ่นมาให้บริการ

    โอกินาวา หรือหมู่เกาะริกิว ประกอบด้วยเกาะประมาณ 150 เกาะ ในทะเลจีนตะวันออก ระหว่างไต้หวันกับญี่ปุ่น มีเนื้อที่ประมาณ 2,271 ตารางกิโลเมตร เกาะใหญ่ที่สุดชื่อโอกินาวา เดิมเคยเป็นดินแดนที่ได้รับอิทธิพลทั้งจากจีนและญี่ปุ่น และเป็นอาณาจักรอิสระ ชื่ออาณาจักรริวกิว ปกครองในระบอบกษัตริย์ และมี ชูริ เป็นเมืองหลวงในช่วงปี 1429-1879

    ชื่อ “ริวกิว” มาจากภาษาจีนว่า “ลิ่วฉิ้ว” แปลว่ามังกรที่มีเขาเป็นเงา ในช่วงที่รุ่งเรือง อาณาจักรริวกิวมีการค้าขายเครื่องถ้วยกับประเทศต่างๆในแถบนี้ รวมถึงไทย เขมร เวียดนาม และอินโดนีเซีย

    ในปี 1609 ญี่ปุ่น โดยซัทสึมะ เอาชนะอาณาจักรริวกิว และได้ครอบครองอาณาจักรแห่งนี้ แต่จีนก็ถือว่าหมู่เกาะแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของจีน

    อย่างไรก็ดี ญี่ปุ่นได้ผนวกโอกินาวาไว้เป็นส่วนหนึ่งของญี่ปุ่นในปี 1879 เป็นการสิ้นสุดของอาณาจักรริวกิว และญี่ปุ่นต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการลบล้างอิทธิพลจากจีน และปรับการศึกษา ชีวิตความเป็นอยู่ของคนโอกินาวาให้เป็นญี่ปุ่น

    เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่สองขึ้น จีนถูกสหรัฐชักชวนให้มาดูแลหมู่เกาะแห่งนี้ เพื่อต่อต้านญี่ปุ่น ชาวเมืองโอกินาวา เสียชีวิตไปมากมายในช่วงสงคราม เพราะการสู้รบของทั้งสองฝ่าย

    แต่เมื่อสหรัฐอเมริกาเข้ามาดูแลความสงบในภูมิภาคนี้หลังชนะสงครามโลกครั้งที่สอง ได้ตัดสินใจขอแบ่งกันดูแล หมู่เกาะริวกิวกับญี่ปุ่น และสร้างฐานทัพขึ้น โดยสหรัฐอเมริกามอบคืนโอกินาวาให้ญี่ปุ่นในปี 1972 แต่ยังเช่าใช้สนามบินเป็นฐานทัพอยู่ โอกินาวา จึงกลับคืนมาเป็นของญี่ปุ่นอย่างสมบูรณ์ มาจนถึงทุกวันนี้

    เมืองหลวงของโอกินาวาคือ นาฮะ ซึ่งอยู่ค่อนไปทางใต้ของเกาะริวกิว มีสนามบินขนาดไม่ใหญ่คือสนามบินนาฮะ ซึ่งตั้งอยู่ชานเมือง ซึ่งมีบรรยากาศคล้ายสนามบินดอนเมืองของเราคือ ใช้เป็นสนามบินของกองทัพอากาศด้วย โดยปัจจุบันมีสายการบินนานาชาติบินมาลงหลายสายการบิน จึงกำลังทำการขยายอาคาร ผู้โดยสารจากต่างประเทศจึงต้องไปลงและรับการตรวจคนเข้าเมืองที่อาคารคลังสินค้า และนั่งรถบัสรับส่งมายังอาคารหลักของผู้โดยสารภายในประเทศ อีกไม่นาน เมื่ออาคารผู้โดยสารต่างประเทศสร้างเสร็จ ก็คงจะสะดวกมากขึ้นค่ะ

    ครอบครัวญี่ปุ่นที่ดิฉันเคยพำนักด้วยเป็นช่วงเวลาสั้นๆ สมัยที่รับทุนของเจแปนแอร์ไลน์ไปเรียนภาคฤดูร้อนที่มหาวิทยาลัยโซเฟีย เคยอธิบายให้ดิฉันฟังว่า เพลงของโอกินาวาจะออกแนวเศร้า เพราะตามประวัติศาสตร์ จะถูกชาวต่างชาติผลัดกันรุกรานตลอดมา

    เศรษฐกิจของโอกินาวา พึ่งพาการท่องเที่ยวและการส่งสินค้าการเกษตร สินค้าสำคัญคือสับปะรด มันเทศ และยังมีผักและผลไม้เขตร้อนมากมาย มาถึงโอกินาวา มีกลิ่นอายเหมือนไปเที่ยวพัทยาหรือภูเก็ตค่ะ คือ มีทะเล มีชายหาด และมีอากาศร้อนชื้น เสื้อผ้า ที่มีขายก็เป็นเสื้อผ้าลายดอกไม้คอฮาวาย แบบที่เราใส่เวลาไปเที่ยวทะเล หรือไปเล่นสงกรานต์กันเลยค่ะ ส่วนของที่ระลึกก็มีลวดลายสีสันสดใส ดังประเทศแถบร้อนทั่วไป และที่เห็นวางขายมากมายคือรองเท้าแตะฟองน้ำค่ะ

    ผลไม้ที่วางขาย พืชพรรณต่างๆ เหมือนบ้านเราเกือบทั้งหมด ที่จะไม่เหมือนก็มีเพียง ป้ายติดราคาเป็นภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น

    ปัจจุบันประชากรที่นี่อายุยืนค่ะ อากาศไม่หนาว คนไม่เครียด แต่ก็ทำให้รัฐปวดหัวกับการดูแลสวัสดิการค่ะ

    ค่าครองชีพคล้ายๆกับภูมิภาคอื่นในญี่ปุ่น แต่อาจจะต่ำกว่าอยู่บ้าง เพราะถ้าเปรียบเทียบ เขาก็เป็นจังหวัดในชนบทของญี่ปุ่นนะคะ

    อิทธิพลของสหรัฐอเมริกานอกเหนือจากเรื่องการทหารแล้วก็จะมีเรื่องอาหาร และการศึกษา คนขายของในร้านเซรามิคที่ดิฉันเข้าไปซื้อ พูดภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันเชียวค่ะ พอสอบถามก็ทราบว่าเรียนจบมาจากสหรัฐอเมริกา

    นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่มากอันดับหนึ่งคือจากจีน รองลงมาเป็นเกาหลี ไต้หวัน และที่ดิฉันสังเกต ก็มีคนไทยนี่แหละค่ะที่เริ่มมากันหนาตาขึ้น

    เป็นการเที่ยวญี่ปุ่นที่ไม่แพงค่ะ ต่อไปคงได้รับความนิยมจากคนไทยเพิ่มขึ้น
[/size]



ตอบกลับโพส