โค้ด: เลือกทั้งหมด
คำเตือนในการลงทุนที่เรามักจะได้ยินหรือได้เห็นกันบ่อยๆ ที่ว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน” นั้น นอกจากจะเป็นคำเตือนให้นักลงทุนระมัดระวังความเสี่ยงในการลงทุนแล้ว ในอีกด้านหนึ่งยังถือว่าเป็นคำแนะนำที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการก้าวสู่ความสำเร็จทางการลงทุนด้วย โดยเฉพาะเมื่อศึกษาวิธีการลงทุนของ “สุดยอดนักลงทุน” ที่ประสบความสำเร็จสูงๆ หรือ “เซียนหุ้น” ระดับตำนานของโลก จะพบว่าแต่ละท่านล้วนให้ความสำคัญกับการ “ลงทุนเวลา” เพื่อที่จะ “ศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน” ทั้งสิ้น
“เบนจามิน เกรแฮม – บิดาแห่งการลงทุนแบบเน้นคุณค่า” ให้คำนิยามคำว่า “การลงทุน” ไว้ว่า “เป็นการกระทำที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการวิเคราะห์อย่างละเอียด ซึ่งจะปกป้องเงินต้นและสร้างผลตอบแทนที่เพียงพอให้” และได้อธิบายเพิ่มเติมว่า การวิเคราะห์อย่างละเอียดหมายถึงการศึกษาข้อเท็จจริงโดยยึดหลักมูลค่าและความปลอดภัย เพราะฉะนั้นนักลงทุนควรต้องวิเคราะห์บริษัทและความแข็งแกร่งของบริษัทให้ดีก่อนที่จะลงทุนซื้อหุ้น
เช่นเดียวกับ “ฟิลลิป ฟิชเชอร์ – บิดาแห่งการลงทุนในหุ้นเติบโต” ก่อนที่เขาจะลงทุนในบริษัทใดบริษัทหนึ่ง เขามักจะ “ลงทุนเวลา” ในการ “หาข้อมูล” ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยใช้วิธีที่เรียกว่า “Scuttlebutt” หรือการ “สืบเสาะเจาะข้อมูล” ให้รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจากภายในหรือภายนอกบริษัท เพื่อให้รู้จักและเข้าใจบริษัทนั้นอย่างลึกซึ้ง แล้วจึงค่อยตัดสินใจลงทุน
“จอห์น เนฟฟ์” ผู้บริหารกองทุน Windsor ให้กลายเป็นกองทุนขนาดใหญ่อันดับต้นๆของอเมริกา กล่าวว่า “ผมใช้เวลาในการอ่านและวิเคราะห์ข่าวต่างๆอย่างพิถีพิถันเพื่อเฟ้นหาบริษัทหรืออุตสาหกรรมที่น่าสนใจ เมื่อได้บริษัทที่น่าสนใจผมจะพิจารณาอย่างละเอียดว่าธุรกิจของกิจการนั้นดีจริง”
ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ “วอร์เรน บัฟเฟตต์” ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการลงทุน ก็คือการที่เขาเป็นนักหาข้อมูลตัวยง “ผมอ่านรายงานประจำปีของกิจการที่ผมสนใจ และผมอ่านรายงานประจำปีของคู่แข่ง เหล่านี้ถือว่าเป็นแหล่งข้อมูลที่สำคัญ” เขาเคยให้สัมภาษณ์แบบติดตลกว่า “ในเวลาว่าง ผู้ชายคนอื่นๆอ่านหนังสือเพลย์บอย แต่ผมอ่านรายงานประจำปี”
ตอนที่ “บัฟเฟตต์” ให้ความสนใจการลงทุนในบริษัทประกันภัย GEICO เขาทุ่มเทเวลากับการหาข้อมูลอย่างรอบด้านที่เกี่ยวกับกิจการทางด้านประกันภัย เขาบอกว่า “ผมอ่านอย่างมากมาย ผมเข้าไปที่ห้องสมุด ผมเริ่มต้นด้วยการอ่านข้อมูลเกี่ยวกับการจัดอันดับของกิจการประกันภัย มองดูหลายๆบริษัท อ่านหนังสือต่างๆที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับมัน อ่านรายงานประจำปี พูดคุยกับผู้คนที่เชี่ยวชาญด้านการประกันภัย และพูดคุยกับพวกผู้บริหารเมื่อผมมีโอกาส”
นอกจากนี้ ยังเคยมีเรื่องเล่ากันว่า ครั้งหนึ่ง “บัฟเฟตต์” ลงทุนไปนั่งอยู่ที่ด้านหลังแคชเชียร์ของร้านสเต็กส์ร้านโปรดของเขาในโอมาฮา เพื่อนับจำนวนลูกค้าที่ใช้บัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรส ซึ่งนั่นถือว่าเป็นการลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลสำหรับการลงทุนในหุ้น American Express ของเขา
แล้วคุณล่ะครับ ให้ความสำคัญกับการ “ลงทุนเวลา” เพื่อศึกษาข้อมูลมากน้อยเพียงใดก่อนตัดสินใจลงทุนแต่ละครั้ง? ก่อนจองหุ้น IPO เคยอ่านหนังสือชี้ชวนหรือไม่? ก่อนซื้อหุ้นเข้าพอร์ตเคยอ่านรายงานประจำปีหรือศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทนั้นๆมากพอหรือไม่?
เวลาที่ซื้อของบางอย่างหรือสินค้าบางชนิด เรามักเลือกแล้วเลือกอีก ดูแล้วดูอีก กว่าที่จะตัดสินใจซื้อ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราเลือกซื้อตู้เย็นสักตู้หนึ่ง เราพยายามเปรียบเทียบตู้เย็นหลายๆยี่ห้อ เลือกดูทั้งขนาด รูปทรง สีสัน ความประหยัดไฟ ราคา และอื่นๆ เพื่อให้ได้ตู้เย็นที่เราคิดว่าดีและคุ้มค่าที่สุด แต่ในการซื้อหุ้นเพื่อลงทุนสร้างผลตอบแทนและสร้างความมั่งคั่งให้ตัวเราเอง บางครั้งเรากลับใช้เวลาในการหาข้อมูลน้อยเกินไป นั่นจึงเป็นที่มาของคำแนะนำจาก “ปีเตอร์ ลินซ์” ที่ว่า
“ให้ลงทุนเวลาในการเลือกหุ้นตัวใหม่ เท่าๆกับที่คุณใช้เวลาเลือกซื้อตู้เย็นใหม่สักตู้หนึ่ง”