โค้ด: เลือกทั้งหมด
“ในมุมมองของผมนั้น คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างสมบูรณ์ต้องประสบความสำเร็จใน 3 มิติ ประกอบด้วย ด้านการงาน ด้านการเงิน และด้านครอบครัว ผมอาจเป็นคนที่โชคดีคนหนึ่งที่เดินทางมาถึงจุดที่ตนพอใจทั้งมิติด้านการงาน ด้านการเงิน สำหรับด้านครอบครัว แม้ผมได้เดินทางมาถึงจุดที่ผมพอใจมากระดับหนึ่ง แต่ก็ยังต้องการใช้ทุกโอกาสในการแชร์ประสบการณ์ชีวิตและให้เวลาในการชี้แนะลูกทั้งสองอย่างเต็มที่เพื่อหวังว่า จะส่งผลให้เขาทั้งสองเป็นทรัพยากรคุณภาพของสังคมและประเทศชาติ ตลอดจนประสบความสำเร็จทั้งสามมิติดังกล่าวในอนาคตเช่นกัน
แม้ผมประสบความสำเร็จด้านการงานและเคยได้รับค่าตอบแทนในระดับที่น่าพอใจ แต่เส้นทางที่ทำให้ผมมีอิสรภาพทางการเงิน (ตามแนวทางการใช้ชีวิตแบบพอเพียง) ก่อนวัยเกษียณนั้นกลับได้มาจาก ‘การลงทุน’ในตลาดหลักทรัพย์ ผมเริ่มสนใจและเข้าลงทุนหุ้นมานานกว่า 23 ปี โดยช่วง 10 ปีแรกนั้น ไม่มีหลักการลงทุนที่ชัดเจนแน่นอน จึงเป็นช่วงเวลาแห่ง ‘ความล้มเหลว’ซึ่งผมต้องจ่ายค่าบทเรียนด้วยเงินสะสมเป็นจำนวนไม่น้อยทีเดียว
ผมโชคดีที่มีโอกาสรู้จักกับ ดร.นิเวศน์ เหมวิชรวรากร เมื่อกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ผมได้เรียนรู้แนวคิด มุมมอง การวิเคราะห์กิจการต่างๆ จนถึงปัจจุบัน เรียกได้ว่า ท่านเป็นผู้เปลี่ยนชีวิตการลงทุนของผมอย่างสิ้นเชิง ผมพบว่า ‘แนวทางการลงทุนแบบเน้นคุณค่า’นั้นมีความเป็นเหตุเป็นผลตามปัจจัยพื้นฐานของกิจการ สอดคล้องกับแนวคิดและแนวทางการใช้ชีวิตของตัวเองอย่างมาก ผมจึงได้ยึดถือปฏิบัติแนวทางการลงทุนแบบเน้นคุณค่าตั้งแต่นั้นมา
ผมได้รับโอกาสอันท้าทายที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อนอีกครั้งจากหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจให้นำเสนอบทความแนวทางการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ในคอลัมน์ คิด วิเคราะห์ แยกแยะตั้งแต่กลางปี 2555 ที่ผ่านมา ผมขอขอบคุณคุณสุดใจ ชาญชาตรีรัตน์ และหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย”
นี่คือ ส่วนหนึ่งของคำนำจากผู้เขียนหนังสือ “สูตร(ไม่)ลับ การลงทุน” ที่เพิ่งวางจำหน่ายผมยังได้รับเกียรติจากท่านอาจารย์ ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากรกรุณาเขียนคำนิยมทำให้ผมรู้สึกภูมิใจอย่างมาก โดยมีบางส่วนดังนี้
“ผมรู้จักคุณธันวามานานประมาณเกือบ 15 ปีมาแล้วไม่ใช่ในฐานะเพื่อนร่วมงาน หรือเพื่อนนักเรียน หรือเพื่อนในสโมสรสังคม เรารู้จักกันในฐานะที่ต่างก็เป็นคนที่สนใจในการลงทุน ในแบบที่คนไทยในขณะนั้นยังไม่รู้จัก และไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นการลงทุนที่แพร่หลายและเป็นที่ยอมรับอย่างมากในปัจจุบัน ผมยังจำได้ถึงวันที่คุณธันวามาพบผมที่สำนักงานในเย็นวันหนึ่ง คุณธันวามาพบและแนะนำตัวว่าเป็นนักลงทุนที่ได้อ่านหนังสือตีแตกของผมและเห็นด้วยกับแนวความคิดในการลงทุนแบบ Value Investmentsที่ผมนำเสนอและอยากจะทำความรู้จักเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับเรื่องของการลงทุนในโอกาสต่อ ๆ ไป…
หลังจากการพบกันครั้งแรก ความสัมพันธ์ของผมกับคุณธันวาก็ดำเนินต่อเนื่องมาตลอดและแน่นแฟ้นขึ้นตามเวลา ในขณะเดียวกัน แนวความคิดเกี่ยวกับการลงทุนแบบ VIในประเทศไทยก็ค่อยๆ ได้รับความนิยมและมีความก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ…
ภารกิจที่ยิ่งใหญ่ของคุณธันวาไม่ได้หมดลงไปจากการถอนตัวจากงานประจำคุณธันวาได้นำประสบการณ์ทั้งจากที่ได้ทำงานในสถาบันที่มีชื่อเสียงระดับโลก และจากการศึกษาหลักการลงทุนแบบVIและการลงทุนจริงมายาวนานกว่าคนส่วนใหญ่ในแวดวงการลงทุน มาเขียนเป็นบทความเพื่อเผยแพร่ความรู้ที่ถูกต้องสำหรับนักลงทุนติดต่อกันมายาวนาน จนถึงวันนี้ก็เป็นโอกาสที่ความรู้ความเข้าใจที่ลึกซึ้งเหล่านั้นจะถูกรวบรวมขึ้นเป็นหนังสือที่นักลงทุนแบบ VI จะได้ศึกษาอย่างรวบยอดได้ในที่เดียวกันในหนังสือเล่มนี้
ผมคงไม่ต้องบอกว่านี่คือหนังสือที่ Value Investorทุกคน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพจะต้องอ่านเพราะถ้าการลงทุนแบบ VI คือการลงทุนแบบที่เหมือนกับเรา ‘ซื้อและเป็นเจ้าของธุรกิจ’จะมีอะไรดีไปกว่าการเรียนรู้จากคนที่เคยเป็น CEOของสาขาของบริษัทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกบริษัทหนึ่งอย่างคุณ ธันวา เลาหศิริวงศ์‘ตำนาน’ของนักบุกเบิกไทยวีไอที่สำคัญอีกคนหนึ่ง”
มีคำกล่าวว่า หากได้เพียงหนึ่งแนวคิดสำคัญ ก็เป็นการคุ้มค่าสำหรับการอ่านหนังสือแต่ละเล่มแล้ว ผมหวังว่าหนังสือเล่มนี้ นอกจากจะทำให้ผู้อ่านได้ไอเดียการลงทุนแบบเน้นคุณค่าแล้ว ยังจะเป็นการ‘จุดประกาย’ให้กับผู้สนใจลงทุนทุกคน
เรามักคุ้นเคยกับคำกล่าวที่ว่า “การให้เป็นการดำรงชีวิตในระดับสูงสุด ผู้ให้ย่อมเป็นที่รักของชนทั้งหลาย”และ “การลงทุนที่ดีที่สุด คือการลงทุนทางความรู้”หากท่านผู้อ่านกำลังมองหา “ของขวัญ”ที่มีความหมายดีและผู้รับได้ประโยชน์เพื่อมอบให้กับคนรอบข้างที่ตนรัก และปราถนาดีในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ หนังสือ ‘สูตร (ไม่)ลับ การลงทุน’ ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดีเช่นกัน !