โค้ด: เลือกทั้งหมด
ผู้ที่เคยติดตามอ่านเรื่องราวชีวิตและการลงทุนของ “วอร์เรน บัฟเฟตต์” อาจจะเคยผ่านตากับชื่อ “วิลเลี่ยม รูแอน” หรือ “บิล รูแอน” มาบ้าง
เขาผู้นี้เป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของ “บัฟเฟตต์” ชื่อเต็มของเขาคือ “วิลเลี่ยม เจ. รูแอน” (William J. Ruane) เป็นผู้บริหารกองทุน Sequoia ซึ่งเป็นกองทุนที่ใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบเน้นคุณค่าที่มีชื่อเสียงกองทุนหนึ่งของสหรัฐอเมริกา
แรกทีเดียว “รูแอน” จบการศึกษาทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้าจากมหาวิทยาลัยมินเนโซตา และเข้าทำงานตำแหน่งวิศวกรในบริษัทเจเนอรัล อิเลคตริค แต่เขาพบว่านี่ไม่ใช่งานที่เขาถนัด จึงได้ลาออกและเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด และเบนเข็มสู่วอลสตรีทเป็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์และก้าวสู่การเป็นผู้จัดการกองทุนในที่สุด
ครั้งหนึ่ง “รูแอน” ทราบข่าวว่า “เบนจามิน เกรแฮม” อาจารย์ด้านการลงทุนแห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบียเปิดโอกาสให้คนจากภายนอกเข้าร่วมวิชาสัมมนาในชั้นเรียนของเขาได้ “รูแอน” จึงสมัครเข้าร่วม ซึ่งในชั้นเรียนดังกล่าวมี “วอร์เรน บัฟเฟตต์” เรียนอยู่ด้วย นั่นจึงเป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่ได้พบกัน
“รูแอน” ให้ความเห็นเกี่ยวกับสัมมนาครั้งนั้นว่า “มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม การสัมมนาได้สร้างความน่าทึ่งเป็นอย่างยิ่งจากการโต้ตอบกันระหว่างเบน (เกรแฮม) กับวอร์เรน บัฟเฟตต์ ทั้งคู่ทำให้เกิดประกายความคิดที่สว่างไสว”
หลังจากที่ได้พบกันในคราวนั้น ทั้ง “รูแอน” และ “บัฟเฟตต์” ต่างก็คบหาเป็นเพื่อนกันมาอย่างยาวนาน แม้จะไม่ได้เป็นเพื่อนคู่หูที่ทำงานร่วมกันเหมือนอย่าง “ชาร์ลี มังเกอร์” แต่ก็มีโอกาสได้พบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอยู่เสมอๆ ในฐานะที่เป็นสาวกของ “เบนจามิน เกรแฮม” ด้วยกัน
เมื่อคราวที่ “บัฟเฟตต์” ตัดสินใจยุติห้างหุ้นส่วนด้านการลงทุน Buffett Partnership ลงด้วยเหตุผลว่า ตลาดหุ้นในเวลานั้นไต่ระดับขึ้นมาสูงจนเขารู้สึกว่าไม่มีอะไรน่าลงทุนอีกต่อไปแล้ว เขาจึงจัดสรรเงินลงทุนคืนให้กับบรรดาหุ้นส่วนของเขา ตอนนั้นมีบริษัทด้านการลงทุนติดต่อขอซื้อรายชื่อผู้ที่เป็นหุ้นส่วนของ Buffett Partnership แต่ “บัฟเฟตต์” ตอบปฏิเสธไป มีเพียงบุคคลเดียวเท่านั้นที่เขาแนะนำให้หุ้นส่วนของเขานำเงินไปลงทุนด้วยถ้าหากยังต้องการลงทุนอยู่ บุคคลผู้นั้นก็คือ “รูแอน”
นั่นสะท้อนให้เห็นว่า “วอร์เรน บัฟเฟตต์” เชื่อมั่นในฝีมือด้านการลงทุนของ “วิลเลี่ยม รูแอน” อยู่ไม่น้อย บทความในตอนหน้า เราจะมาติดตามเรื่องราวของ “วิลเลี่ยม รูแอน” กันต่อครับ