อายุยืนอย่างมีคุณภาพ (1)/ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ

บทความต่างๆที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
ตอบกลับโพส
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
กระทู้: 1243
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 11, 2012 10:42 pm

อายุยืนอย่างมีคุณภาพ (1)/ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ

โพสต์ โดย Thai VI Article » จันทร์ ต.ค. 02, 2017 6:27 pm

โค้ด: เลือกทั้งหมด

เดือนต.ค.เป็นช่วงที่มีผู้เกษียณอายุทั้งจากราชการและภาคเอกชนหลังอายุครบ 60 ปี ซึ่งรวมถึงตัวผมเองด้วย โดยต่อไป ผมจะปรับเปลี่ยนบทบาทลดการทำงานด้านเศรษฐศาสตร์ลงและสมควรที่จะต้องดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น เพราะถือได้ว่าเป็นผู้สูงอายุแล้ว โดยเดือนนี้จะเขียนถึงเรื่องสุขภาพเป็นหลักครับ

ผมได้พยายามศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับสุขภาพโดยเริ่มต้นจากศูนย์ ดังนั้นข้อมูลที่นำมาเสนอทั้งหมดจึงเป็นการสรุปข้อมูลจากบทความที่ผมคิดว่าน่าสนใจและน่าจะเป็นประโยชน์ แต่ขอให้ผู้อ่านทุกท่านรับรู้ข้อมูลดังกล่าวอย่างระมัดระวัง โดยควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้ง หากคิดจะนำข้อมูลที่ผมเสนอไปใช้กับตัวเอง วัตถุประสงค์คือ Die young at a very old age.

ที่ผ่านมา ผมเขียนถึงการออกกำลังกายโดยเฉพาะการวิ่ง ว่าเป็นการช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แม้จะแก่ตัวลงแต่ก็จะยังช่วยเหลือตัวเองได้ โดยร่างกายไม่เสื่อมสภาพเหมือนคนที่ไม่ออกกำลังกาย และนอกจากนั้น งานวิจัยต่าง ๆ ก็ยังมีข้อสรุปว่าการออกกำลังกายเป็นประจำโดยเฉพาะการวิ่งจะทำให้อายุยืนขึ้นเฉลี่ย 3.2 ปี แต่การวิ่งหรือออกกำลังกายนั้นจะไม่ช่วยมากนักในการลดความอ้วน ซึ่งตรงนี้จะต้องลดการกินอาหารไม่ใช่ถามว่า กินอะไรดี น้ำหนักจึงจะลดลง กล่าวคือ การออกกำลังกายอาจช่วยเรื่องการลดน้ำหนักได้ 15-20% แต่อีก 80-85% นั้น จะต้องพึ่งพาการลดอาหารเป็นหลัก

โดยการลดอาหารนั้นคือ ต้องลดปริมาณแป้ง น้ำตาล และไขมัน แต่การอดมื้อกินมือ หรืออดอาหาร 2 วันต่อสัปดาห์ ที่เรียกว่า intermittent fasting นั้น กำลังเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะประเมินว่า เมื่อทิ้งช่วงการกินอาหารไปยาวนานกว่า 12 ชั่วโมง ก็จะทำให้ร่างกายเผาผลาญ glucose และ glycogen ในร่างกายไปจนหมด ทำให้ร่างกายต้องแปลงไขมันให้เป็น Ketone bodies มาใช้เป็นพลังงาน ซึ่งกระบวนการดังกล่าวมีประโยชน์อย่างมากในการกระตุ้นวงจรของสมอง (neural connections) ให้แข็งแรงขึ้นเห็นได้จากปริมาณ BDNF (brain-derived neurotrophic factor)ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยฟื้นฟูสมอง โดยกาสร้างเซลสมองเพิ่มขึ้นในส่วนที่เรียนกว่า Hippocampus นอกจากนั้น การอดอาหารก็ยังทำให้เกิดกระบวนการที่เซลล้างพิษ (detoxify) และซ่อมแซมตัวเองที่เรียกว่า autophagy (การกลืนกินสิ่งที่ชำรุด และเป็นพิษในเซล) ซึ่ง ดร.Yoshinori Ohsumi เพิ่งได้รับรางวัลโนเบลในปี 2016 จากการค้นพบกระบวนการดังกล่าว

จะเห็นได้ว่าการออกกำลังกายกับการอดอาหารนั้น พิสูจน์แล้วว่าช่วยให้มนุษย์และสัตว์สุขภาพดีขึ้น และอายุยืนมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ เพราะกิจกรรมทั้งสองนั้นถือได้ว่าเป็นการกดดัน (stress) ร่างกายทั้งสิ้น มิใช่การสร้างเงื่อนไขให้ร่างกายสุขสบายและได้พักผ่อนแต่อย่างใด ซึ่งดูจะขัดแย้งกับแนวคิดหลักที่มองว่าจะต้องระมัดระวังปกป้องร่างกาย ซึ่งเป็นที่มาของการแนะนำให้กิน anti-oxidant มากๆ เพื่อช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ (free radicals) ที่เกิดจากการที่เซลต้องทำงานหนักและเผชิญกับภาวะสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ ฯลฯ

อันที่จริงนั้น ได้เคยมีการทำวิจัยมานานกว่า 80 ปี (ในช่วง 1930) โดยมหาวิทยาลัย Cornell ซึ่งนำเอาหนูมาทดลองให้อดอาหาร โดยจำกัดแคลอรีต่อวันเท่ากับ 60% ของการบริโภคแคลอรีปกติ (ลดการบริโภคแคลอรีลงจากปกติ 40%) ผลปรากฏว่า หนูที่ถูกบังคับให้อดอาหารดังกล่าวอายุยืนกว่าหนูที่กินตามปกติถึง 50% โดยเฉลี่ย คือลดแคลอรี 30-40% จะทำให้อายุยืนมากกว่าปกติ 30-40% เช่นกัน

 หากเปรียบเทียบว่ามนุษย์มีอายุยืนประมาณ 70 ปีก็แปลว่าการลดแคลอรีลง 30-40% จะทำให้มนุษย์อายุยืนขึ้นอีก 21-28ปี ซึ่งเป็นวิธียืดอายุได้ดีกว่าการออกกำลังกายเกือบ 10 เท่า (การวิ่ง 15-20 ก.ม. ต่อสัปดาห์ ช่วยให้อายุยืนมากขึ้น 3.2 ปี) การทดลองลดอาหารกับสัตว์นั้นเห็นผลเป็นทางเดียวกันมาโดยตลอดไม่ว่าจะทดลองกับ Yeast ไส้เดือน หนู หรือ ลิง แต่ที่ผ่านมา 80 ปี มีมนุษย์น้อยคนที่จะยอมลดการบริโภคแคลอรีลง 30-40% เพราะเป็นเรื่องที่ทำยากและทุกข์ทรมานมาก

จึงมีนักวิจัยกลุ่มหนึ่งพยายามหาคำตอบว่าการอดอาหารและออกกำลังกาย(คือการสร้างแรงกดดันให้กับเซลของร่างกาย) นั้น มีกระบวนการอะไรที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาที่เป็นประโยชน์ต่อการยืดอายุของเซล และทำให้เซลแข็งแรงจนทำให้ร่างการแข็งแรงและอายุยืน ซึ่งผู้ที่บุกเบิกในการทำการวิจัยในด้านนี้คือ Dr. Leonard Guarente แห่งมหาวิทยาลัย MIT และ Dr. David Sinclair แห่งมหาวิทยาลัย Harvard ประมาณ 25 ปีที่ผ่านมาชื่อของทั้งสองคนนี้คงจะไม่คุ้นหูนัก แต่ Dr.Sinclair นั้น เป็นผู้ที่ค้นพบว่าสาร Resveratrol ที่มีอยู่ในไวน์แดงทำให้อายุยืน ซึ่งเป็นเรื่องที่โด่งดังมากเมื่อ 14 ปีที่ผ่านมา

ในครั้งต่อไปผมจะขอเขียนถึงความคืบหน้าของการวิจัยของ Dr. Guarente และDr.Sinclair ในการแสวงหากลไกที่จะไม่เพียงแต่จะชะลอความแก่ โดยให้ผลในการหมุนเวลากลับคือ การทำให้เซลที่แก่เฒ่ากลับมาเป็นเซลที่หนุ่มแน่นอีกครั้งหนึ่ง(reversing aging) ซึ่งผู้ที่ไม่ต้องการรออ่านบทความสัปดาห์หน้าก็สามารถ google อ่านผลงานของทั้งสองท่านได้ล่วงหน้าครับ
[/size]



ตอบกลับโพส