OISHI
- Linzhichange
- User
- กระทู้: 1160
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 10, 2005 9:21 pm
ผมนักกินร้านชาบูชิครับ กินเพราะชอบสุกี้ ช่วงปี 05 ผมว่า MK ไม่มีการพัฒนาเมนู คุณภาพลดลง ผมเลยย้ายมากินชาบูชิเพราะเห็นว่าคุ้มและหลากหลาย ในปีที่ผ่านมาเห็นแนวโน้มคนย้ายมากินชาบูชิอย่างชัดเจน
แต่จะบอกว่าตอนนี้ชาบูชิคุณภาพแย่ลงครับ(คงเพราะมีคนเข้าเยอะมากกก) สวนทางกับ MK ที่ปรับปรุงขึ้นมาก สำหรับร้านอาหารผลกระทบแบบปากต่อปาก จะต้องใช้เวลาหลายเดือนถึงหนึ่งปี เกรงว่าถ้าไม่ทำอะไร จะเสียลูกค้าไปเรื่อย ๆ (อย่างน้อยผมกลับไปกิน MKแล้ว)
สรุปคือ แนะนำถ้าจะลงทุนธุรกิจร้านอาหาร ลองชิมบ่อย ๆ แล้วกันครับ (ถ้าเป็นเจ้าของ OISHI ต้องชิมกันหลายแบรนด้วยนะครับ เพราะมีหลายตลาดเหลือเกิน)
ปล. ชาบูชิเป็นแค่ส่วนเล็ก ๆ ของ OISHI นะครับ แต่ถ้าทำดี ๆ ตลาดสุกี้ก็น่าหอมหวลครับ
แต่จะบอกว่าตอนนี้ชาบูชิคุณภาพแย่ลงครับ(คงเพราะมีคนเข้าเยอะมากกก) สวนทางกับ MK ที่ปรับปรุงขึ้นมาก สำหรับร้านอาหารผลกระทบแบบปากต่อปาก จะต้องใช้เวลาหลายเดือนถึงหนึ่งปี เกรงว่าถ้าไม่ทำอะไร จะเสียลูกค้าไปเรื่อย ๆ (อย่างน้อยผมกลับไปกิน MKแล้ว)
สรุปคือ แนะนำถ้าจะลงทุนธุรกิจร้านอาหาร ลองชิมบ่อย ๆ แล้วกันครับ (ถ้าเป็นเจ้าของ OISHI ต้องชิมกันหลายแบรนด้วยนะครับ เพราะมีหลายตลาดเหลือเกิน)
ปล. ชาบูชิเป็นแค่ส่วนเล็ก ๆ ของ OISHI นะครับ แต่ถ้าทำดี ๆ ตลาดสุกี้ก็น่าหอมหวลครับ
- Linzhichange
- User
- กระทู้: 1160
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 10, 2005 9:21 pm
- Linzhichange
- User
- กระทู้: 1160
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 10, 2005 9:21 pm
- Linzhichange
- User
- กระทู้: 1160
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 10, 2005 9:21 pm
แคมเปญนี่ไอเดียชื่อดีจังครับ ตาสว่างข้างสนาม
มาเก็ตติ้งคอฟฟิโอคงต้องขยันหน่อยครับช่วงปีนี้
แต่ผมมองกลุ่มเป้าหมายสินค้านี้ได้ไม่ค่อยชัดเลย แต่เชื่อว่าถ้าจับดี ๆ
น่าไปได้ดีกว่าเซกิ กับอะมิโนโอเค ต่างประเทศมีกาแฟของ Starbuck
ขายขวดละร้อยกว่าบาทในซุปเปอร์ ยังขายได้เลย :lol:
แต่จะตูมตามเหมือนชาเขียว ผมว่ายาก น่าจะไปเรื่อย ๆ มากกว่า
ยังไงก็ดีกับโออิชิ เหมือนกับภาพผู้นำเรื่องเครื่องดื่มจะชัดขึ้น แตก็ต้องแลกกับเอกลักษณ์แบรนด์ลดลงไป
ตลาดเครื่องดื่มเมืองไทยผมว่ายังเล็ก ถ้าพฤติกรรมเปลี่ยน ผมว่าตลาดเครืื่องดื่มจะโตกว่านี้พอสมควร ยังโตได้อีกเยอะ
และอีกระยะนึง คงจะมีกาแฟรสใหม่ ๆ ออกมาอีกรส หวังว่าคงจะดี เหมือนกับชาเขียวรสข้าวญี่ปุ่นนะครับ
มาเก็ตติ้งคอฟฟิโอคงต้องขยันหน่อยครับช่วงปีนี้
แต่ผมมองกลุ่มเป้าหมายสินค้านี้ได้ไม่ค่อยชัดเลย แต่เชื่อว่าถ้าจับดี ๆ
น่าไปได้ดีกว่าเซกิ กับอะมิโนโอเค ต่างประเทศมีกาแฟของ Starbuck
ขายขวดละร้อยกว่าบาทในซุปเปอร์ ยังขายได้เลย :lol:
แต่จะตูมตามเหมือนชาเขียว ผมว่ายาก น่าจะไปเรื่อย ๆ มากกว่า
ยังไงก็ดีกับโออิชิ เหมือนกับภาพผู้นำเรื่องเครื่องดื่มจะชัดขึ้น แตก็ต้องแลกกับเอกลักษณ์แบรนด์ลดลงไป
ตลาดเครื่องดื่มเมืองไทยผมว่ายังเล็ก ถ้าพฤติกรรมเปลี่ยน ผมว่าตลาดเครืื่องดื่มจะโตกว่านี้พอสมควร ยังโตได้อีกเยอะ
และอีกระยะนึง คงจะมีกาแฟรสใหม่ ๆ ออกมาอีกรส หวังว่าคงจะดี เหมือนกับชาเขียวรสข้าวญี่ปุ่นนะครับ
- Linzhichange
- User
- กระทู้: 1160
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 10, 2005 9:21 pm
- Linzhichange
- User
- กระทู้: 1160
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 10, 2005 9:21 pm
Re: OISHI
ขอบคุณมากครับที่มาช่วยตอบครับ ผมวันๆใช้คอมเยอะมาก อ่านมาก บางทีขี้เกียจจะไปค้นน่ะครับ ขอบคุณในน้ำใจของเพื่อนสมาชิก คุณ tentza มากครับที่อุตส่าห์หาคำตอบมาให้ปี 2553 นี่สัดส่วนรายได้จะเป็น 56% เครื่องดื่ม และ 44% อาหาร แต่ถ้าดูกำไรจะเป็น 73% เครื่องดื่ม และ 27% อาหารครับ
ผมลองดูย้อนหลังไปถึงปี 2550 สัดส่วนก็อยู่ประมาณนี้มาโดยตลอดนะทั้งรายได้และกำไร แปลว่าทั้งธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเติบโตใกล้เคียงกัน
ที่โออิชิเสียภาษีน้อยหลักๆมาจากสิทธิประโยชน์จากการส่งเสริมการลงทุนครับ ลองอ่านหมายเหตุประกอบงบปี 2553 หมายเหตุ 28, 29 ดูครับ มีกำไรที่ไม่ต้องเสียภาษี 2 รายการรวมแล้วเท่ากับ 856 ล้านบาท ซึ่งเป็นสัดส่วนที่เยอะเมื่อเทียบกับกำไรก่อนหักภาษีของปี 2553 ทั้งหมดเท่ากับ 1057 ล้านบาท
(ก) กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิในจำนวนที่เป็นสาระสำคัญ ซึ่งเกิดจากธุรกรรมที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน โดยกำไรสุทธิจากธุรกรรมดังกล่าวไม่ต้องเสียภาษีเงินได้สำหรับปี 2553 มีจำนวน 719 ล้านบาท (2552: 693 ล้านบาท)
(ข) กลุ่มบริษัทมีขาดทุนทางภาษีที่ยังไม่ได้ใช้ยกมาจากปีก่อน และได้ถูกนำมาใช้เพื่อลดจำนวนกำไรที่ต้องเสียภาษีในปีปัจจุบันจำนวน 137 ล้านบาท (2552: 51 ล้านบาท)
โออิชินี่ ผมว่าการที่เขามุ่งส่งออก ขยายธุรกิจในตลาดโลกเป็นเรื่องที่ดีมากครับ อิชิตัน คู่แข่งหลักมีลักษณะของ Emmotional Marketing ค่อนข้างมาก Brand มีลักษณะเฉพาะ ทำให้การ
ส่งผ่าน Brand Value ออกไปต่างประเทศเป็นไปได้ยาก ถ้าตามมาคงต้องสู้กันที่ ต้นทุน การกระจายสินค้า และ คุณภาพ ซึ่งผมยังสงสัยว่าทางยุโรป และ USA เขาจะรับชาเขียวที่มีการกระบวน
การผลิตแบบ Hot Fill หรือเปล่า หรือนี่เองที่เป็นเหตุให้ทาง Oishi หันมาผลิตแบบ Cold Fill แทน?
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
Re: OISHI
วันนี้ไปเดินเซนทรัลชิดลมมา
ผ่านตู้อาหารแช่แข็งพบเกียวซ่าโออิชิแพ็กใหญ่ มีไส้หมู มีไส้กุ้ง ให้เลือก
สงสัยว่าผลิตที่ไหน หยิบห่อผลิกมาดู
โอ.....นิคมอุตสาหกรรมนวนคร
เอ๊ะ.......หรือว่าเป็นล็อตเก่าก่อนน้ำท่วม (ถ้านานขนาดนั้นคงทานไม่ได้แล้ว)
หาวันที่ผลิต
โอ........21FEB2012
ผ่านตู้อาหารแช่แข็งพบเกียวซ่าโออิชิแพ็กใหญ่ มีไส้หมู มีไส้กุ้ง ให้เลือก
สงสัยว่าผลิตที่ไหน หยิบห่อผลิกมาดู
โอ.....นิคมอุตสาหกรรมนวนคร
เอ๊ะ.......หรือว่าเป็นล็อตเก่าก่อนน้ำท่วม (ถ้านานขนาดนั้นคงทานไม่ได้แล้ว)
หาวันที่ผลิต
โอ........21FEB2012
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
Re: OISHI
ไม่รู้ว่าสิงห์มีเครือข่ายเท่าไหร่ แต่เสริมสุขมีเท่าที่โชว์ด้านล่างนี้
โดยปกติผมจะเห็นรถโค้ก รถเป็ปซี่ รถFarmhouse วิ่งกระจายสินค้านะ ไม่เคยเห็น รถสิงห์เท่าไหร่
ด้าน ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด ระบุว่า กลุ่มธุรกิจแอลกอฮอล์ของกลุ่มไทยเบฟฯ ถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ทำให้ต้องหันมาเล่นในกลุ่มที่เรียกว่านอน แอลกอฮอล์เพิ่มมากขึ้น และยิ่งประสบความสำเร็จจาก "ชาเขียวโออิชิ" ก็เหมือนเป็นการตอกย้ำว่าได้ผล
"การซื้อเสริมสุขเข้ามาอยู่ในพอร์ตของบริษัท ก็ยิ่งจะทำให้ธุรกิจในกลุ่มไทยเบฟประสบความสำเร็จมากขึ้นในแง่การกระจายสินค้า ในเมื่อเสริมสุขกระจายสินค้าน้ำดำได้ แล้วทำไมจะนำสินค้าอื่นๆ ใส่ไปด้วยไม่ได้ และมันง่ายมากที่จะขนสินค้าอื่นๆ ไปยังโชห่วย เพราะเสริมสุขมีร้านค้าพวกนี้อยู่ประมาณ 300,000-400,000 ร้าน"
โดยปกติผมจะเห็นรถโค้ก รถเป็ปซี่ รถFarmhouse วิ่งกระจายสินค้านะ ไม่เคยเห็น รถสิงห์เท่าไหร่
ด้าน ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด ระบุว่า กลุ่มธุรกิจแอลกอฮอล์ของกลุ่มไทยเบฟฯ ถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ทำให้ต้องหันมาเล่นในกลุ่มที่เรียกว่านอน แอลกอฮอล์เพิ่มมากขึ้น และยิ่งประสบความสำเร็จจาก "ชาเขียวโออิชิ" ก็เหมือนเป็นการตอกย้ำว่าได้ผล
"การซื้อเสริมสุขเข้ามาอยู่ในพอร์ตของบริษัท ก็ยิ่งจะทำให้ธุรกิจในกลุ่มไทยเบฟประสบความสำเร็จมากขึ้นในแง่การกระจายสินค้า ในเมื่อเสริมสุขกระจายสินค้าน้ำดำได้ แล้วทำไมจะนำสินค้าอื่นๆ ใส่ไปด้วยไม่ได้ และมันง่ายมากที่จะขนสินค้าอื่นๆ ไปยังโชห่วย เพราะเสริมสุขมีร้านค้าพวกนี้อยู่ประมาณ 300,000-400,000 ร้าน"
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
Re: OISHI
เพิ่งไปสำรวจ 7-11 มาสาขานึงเหมือนกันครับ เห็นว่า ก็แข่งกันไปสำหรับชาเขียว อิชิตันคงได้ส่วนแบ่งไปบ้าง
ผมว่าที่น่าสนใจของโออิชิคือตัว CHAKUZA เพราะว่าตลาดชาพร้อมดื่มประมาณ 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็นชาเขียว ประมาณ 8,000 ล้าน (OIHSI 50%) และ ชาดำ (Lipton 50%)
อีกประมาณ 2,000 ล้านบาท แต่ตลาดน้ำอัดลม 36,000 ล้านบาท OISHI ตั้งเป้า CHAKUZA ไว้ที่ 10% ของตลาดน้ำอัดลม
จากที่ผมไปดูมาเห็นว่า ยอดขายต่อวันดีกว่ายอดขายของ SPRITE แล้ว ผมว่าเขาทำได้ไม่เลวเลย ทั้งการทำ Marketing และ Co-promotion กับ concert วงดนตรีญี่ปุ่นต่างๆ
แต่ผมดูแค่สาขาเดียวอาจะบอกอะไรได้ไม่มาก ต้องหมั่นเวียนดูสาขาอื่นบ้าง เพื่อที่จะได้ข้อมูลมากขึ้น
ผมว่าที่น่าสนใจของโออิชิคือตัว CHAKUZA เพราะว่าตลาดชาพร้อมดื่มประมาณ 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็นชาเขียว ประมาณ 8,000 ล้าน (OIHSI 50%) และ ชาดำ (Lipton 50%)
อีกประมาณ 2,000 ล้านบาท แต่ตลาดน้ำอัดลม 36,000 ล้านบาท OISHI ตั้งเป้า CHAKUZA ไว้ที่ 10% ของตลาดน้ำอัดลม
จากที่ผมไปดูมาเห็นว่า ยอดขายต่อวันดีกว่ายอดขายของ SPRITE แล้ว ผมว่าเขาทำได้ไม่เลวเลย ทั้งการทำ Marketing และ Co-promotion กับ concert วงดนตรีญี่ปุ่นต่างๆ
แต่ผมดูแค่สาขาเดียวอาจะบอกอะไรได้ไม่มาก ต้องหมั่นเวียนดูสาขาอื่นบ้าง เพื่อที่จะได้ข้อมูลมากขึ้น
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
Re: OISHI
ผมไปแวะสาขาสีลมปากซอยคอนแวนมา กล่องโออิชิ มีฝามากกว่าอิชิตันประมาณ 50% โดยการกะแบบสายตา
ที่สถานีรถไฟฟ้าสยาม มีกล่องรับฝาของโออิชิอยู่ เป็นกล่องใส มีฝาแล้วนับได้ประมาณ 53 ฝา
เท่าที่ทราบมาอิชิติตันได้ยอดขายมาบ้างแต่กำไรไม่แน่ใจว่าจะได้เท่าไหร่ มาร์จินที่อิชิตันให้ทางร้านสะดวกซื้อสูงกว่าโออิชิมาก
ผมว่าในอนาคตคุณตันคงมาเอาคืนยากทั้ง Trade Term และ ราคา หากต้องการปรับให้ดีขึ้น
ที่สถานีรถไฟฟ้าสยาม มีกล่องรับฝาของโออิชิอยู่ เป็นกล่องใส มีฝาแล้วนับได้ประมาณ 53 ฝา
เท่าที่ทราบมาอิชิติตันได้ยอดขายมาบ้างแต่กำไรไม่แน่ใจว่าจะได้เท่าไหร่ มาร์จินที่อิชิตันให้ทางร้านสะดวกซื้อสูงกว่าโออิชิมาก
ผมว่าในอนาคตคุณตันคงมาเอาคืนยากทั้ง Trade Term และ ราคา หากต้องการปรับให้ดีขึ้น
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
Re: OISHI
คุณตันเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า จะเอา อิชิตัน เข้าตลาดภายใน 5 ปี คร่าวๆก็ประมาณ 2559 ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง
สามปีก่อนเข้าตลาด ก็ประมาณปี 2556 อิชิตัน คงต้องการทำกำไรบ้าง ไม่อย่างนั้นจะขายหุ้นไม่ได้ราคา
ผมเข้าใจว่าคุณตันต้องการ share มากกว่า profit ในสองปีแรกเพื่อสร้างวอลุ่มสนับสนุนโรงงานของตัวเอง
หลังจากเดินเครื่องโรงงานตัวเองแล้ว คุณตัน คงต้องเริ่มจ่ายดอกเบี้ย ค่าแรง ค่าวัตถุดิบเอง คงไม่สะดวกสบายเหมือนการจ้างผลิต
แต่ทั้งนี้มาร์จิ้นของอิชิตัน ก็น่าจะปรับตัวดีขึ้นเพราะผลิตเอง และ ในความคิดผม เรื่องการแข่งขันด้านราคา เหมือนปี 54 ที่โออิชิ
ต้องลดราคาอย่างมากเพื่อรับน้องอิชิตัน คงลดลง อิชิตันเองก็คงเล่นบทหนักมากไม่ได้หลังปี 2556 หากต้องการแต่งตัวเข้าตลาด
ดังนั้นผมคิดว่าผลกระทบของกำไรคงจะ bottom ไปแล้วในปี 2554 ผมเชื่อว่า price war เป็น lose-lose ในระยะยาว ดังนั้นเราไม่น่าจะได้เห็นอีก ยกเว้น ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพลี่ยงพล้ำจริงๆ คงจะเลือกเล่นราคาเพราะเป็น survival strategy
ปี 54 นอกจาก price war แล้วยังมีน้ำท่วมใหญ่อีก ปีนี้หากไม่มีน้ำท่วม ไม่มี price war และ ตลาดชาพร้อมดื่มยังคงโตต่อไปได้
20% ต่อปีเหมือนเคย ผมว่าผู้ผลิตทุกรายคงยิ้มได้กว้างขึ้นกว่าปีที่แล้ว
ส่วนที่ว่าราคาไหนเหมาะสมกับการลงทุน อันนี้ขึ้นกับมุมมองของแต่ละคน
สามปีก่อนเข้าตลาด ก็ประมาณปี 2556 อิชิตัน คงต้องการทำกำไรบ้าง ไม่อย่างนั้นจะขายหุ้นไม่ได้ราคา
ผมเข้าใจว่าคุณตันต้องการ share มากกว่า profit ในสองปีแรกเพื่อสร้างวอลุ่มสนับสนุนโรงงานของตัวเอง
หลังจากเดินเครื่องโรงงานตัวเองแล้ว คุณตัน คงต้องเริ่มจ่ายดอกเบี้ย ค่าแรง ค่าวัตถุดิบเอง คงไม่สะดวกสบายเหมือนการจ้างผลิต
แต่ทั้งนี้มาร์จิ้นของอิชิตัน ก็น่าจะปรับตัวดีขึ้นเพราะผลิตเอง และ ในความคิดผม เรื่องการแข่งขันด้านราคา เหมือนปี 54 ที่โออิชิ
ต้องลดราคาอย่างมากเพื่อรับน้องอิชิตัน คงลดลง อิชิตันเองก็คงเล่นบทหนักมากไม่ได้หลังปี 2556 หากต้องการแต่งตัวเข้าตลาด
ดังนั้นผมคิดว่าผลกระทบของกำไรคงจะ bottom ไปแล้วในปี 2554 ผมเชื่อว่า price war เป็น lose-lose ในระยะยาว ดังนั้นเราไม่น่าจะได้เห็นอีก ยกเว้น ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพลี่ยงพล้ำจริงๆ คงจะเลือกเล่นราคาเพราะเป็น survival strategy
ปี 54 นอกจาก price war แล้วยังมีน้ำท่วมใหญ่อีก ปีนี้หากไม่มีน้ำท่วม ไม่มี price war และ ตลาดชาพร้อมดื่มยังคงโตต่อไปได้
20% ต่อปีเหมือนเคย ผมว่าผู้ผลิตทุกรายคงยิ้มได้กว้างขึ้นกว่าปีที่แล้ว
ส่วนที่ว่าราคาไหนเหมาะสมกับการลงทุน อันนี้ขึ้นกับมุมมองของแต่ละคน
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
- Linzhichange
- User
- กระทู้: 1160
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 10, 2005 9:21 pm
Re: OISHI
ผมมีความรู้สึกว่าหลังจาก.oishi ไม่มีคุณตันแล้ว บริษัทยังมี initative อย่างต่อเนื่อง ไม่ได้แย่เหมือนที่ตลาดคิด
โออิชิผูกตัวเองกับความเป็นญี่ปุ่น เช่นยากูซ่า นินจา ซามูไร อะไรเป็นกลยุทธ์ที่ยั่งยืนกว่าอีก
ยังมีอะไรให้เล่นอีกเยอะเลยครับ ตลาดนี้สนุกมาก
โออิชิผูกตัวเองกับความเป็นญี่ปุ่น เช่นยากูซ่า นินจา ซามูไร อะไรเป็นกลยุทธ์ที่ยั่งยืนกว่าอีก
ยังมีอะไรให้เล่นอีกเยอะเลยครับ ตลาดนี้สนุกมาก
ก้าวช้า ๆ และเชื่อในปาฎิหารย์ของหุ้นเปลี่ยนชีวิต
There is no secret ingredient. It's just you.
There is no secret ingredient. It's just you.
Re: OISHI
3000 ล้าน ผู้บริหารบอกว่าจะเอาไป
1) ขยาย line การผลิตเครื่องดื่มแบบ Cold-aseptic filling อีก 1 line
2) ทำครัวกลางแห่งที่สอง
3) ขยายธุรกิจร้านอาหาร
ส่วนตัวผมว่ามีมากกว่านั้น เรื่องนี้จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
โดยย่อจากการประชุม
- เงินประกันจะทยอยได้ในปีนี้
- ธุรกิจอาหารมีโอกาสที่มาร์จิ้นจะขยายตัวได้เนื่องจากจะเน้นการขยาย hi-margin brands และ ปิด Low-margin brands
- เรื่องการ synnergy กับทาง SSC นั้นผู้บริหารกำลังคิดอยู่ (ประมาณว่า ไม่ต้องห่วง)
- CHAKUZA ตอนนี้กำลังผลิต 22 ล้านกระป๋องต่อเดือน เดินเต็มกำลัง
- เรื่องแตกพาร์, จ่ายปันผลเป็นหุ้น และ เพิ่มสภาพคล่อง ผู้บริหารรับไว้พิจารณา แต่ไม่ได้รับปากใดๆ
1) ขยาย line การผลิตเครื่องดื่มแบบ Cold-aseptic filling อีก 1 line
2) ทำครัวกลางแห่งที่สอง
3) ขยายธุรกิจร้านอาหาร
ส่วนตัวผมว่ามีมากกว่านั้น เรื่องนี้จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
โดยย่อจากการประชุม
- เงินประกันจะทยอยได้ในปีนี้
- ธุรกิจอาหารมีโอกาสที่มาร์จิ้นจะขยายตัวได้เนื่องจากจะเน้นการขยาย hi-margin brands และ ปิด Low-margin brands
- เรื่องการ synnergy กับทาง SSC นั้นผู้บริหารกำลังคิดอยู่ (ประมาณว่า ไม่ต้องห่วง)
- CHAKUZA ตอนนี้กำลังผลิต 22 ล้านกระป๋องต่อเดือน เดินเต็มกำลัง
- เรื่องแตกพาร์, จ่ายปันผลเป็นหุ้น และ เพิ่มสภาพคล่อง ผู้บริหารรับไว้พิจารณา แต่ไม่ได้รับปากใดๆ
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
Re: OISHI
ตอนนี้จ้าง ThaiBev ผลิตอยู่ผมว่ามาร์จิ้นไม่น่ามาก เดาๆ น่าจะได้แค่ประมาณ 1.5-2 บาทต่อกระป๋องนะครับ อันนี้เป็น OI Margin ไม่ใช่ Net Marginchild_temple เขียน:Chakuza 22 ล้านกระป๋องต่อเดือน ถ้าเฉลี่ยต่อปี ตีว่า 200 ล้านกระป๋อง คูณราคาขาย ตีว่า 10 บาท (15 บาทเป็นราคาขายปลีกไม่นับ) ก็จะมีรายได้ จากชาผสมโซดา 2000 ล้านต่อปี มาร์จิ้นตรงส่วนนี้เท่าไหร่ิผบห ได้บอกไว้เปล่าครับ
อีกอย่างตอนนี้เป็นฤดูร้อน BEV ขายดีมาก ถ้าจะมองแบบ conservative ซักหน่อยผมว่าคูณ 8 แล้วกัน อย่าเพิ่งคูณ 10-12 เดือนเลย
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
Re: OISHI
มีอีกสองประเด็นลืมเขียนไป
- เกี๊ยวซ่าขายดีมากทำไม่ทัน
- ตอนนี้เริ่มจดทะเบียนในต่างประเทศสำหรับ Brand OISHI แล้ว ถ้าจำไม่ผิดที่ยุโรปเรีบยร้อยแล้ว และจะทำการกระจายสินค้าผ่านช่องทางของ ThaiBEV
- เกี๊ยวซ่าขายดีมากทำไม่ทัน
- ตอนนี้เริ่มจดทะเบียนในต่างประเทศสำหรับ Brand OISHI แล้ว ถ้าจำไม่ผิดที่ยุโรปเรีบยร้อยแล้ว และจะทำการกระจายสินค้าผ่านช่องทางของ ThaiBEV
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
Re: OISHI
อีกประเด็นครับ
- ตอนนี้แบบกล่องโรงงานที่นวนครยังผลิตไม่ได้ต้องจ้างผลิตไปก่อน ดังนั้นหากเห็นของที่ออกมาตอนนี้เป็นของจ้างผลิต
ส่วนโรงงานนวนครจะกลับมาผลิตได้ประมาณเดือนกันยาปีนี้ครับ
- ตอนนี้แบบกล่องโรงงานที่นวนครยังผลิตไม่ได้ต้องจ้างผลิตไปก่อน ดังนั้นหากเห็นของที่ออกมาตอนนี้เป็นของจ้างผลิต
ส่วนโรงงานนวนครจะกลับมาผลิตได้ประมาณเดือนกันยาปีนี้ครับ
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
Re: OISHI
เถ้าแก่น้อยรุ่นที่มี seal ที่ปากถุงเป็นขนาดใหญ่ครับ รู้สึกว่าจะสี่สิบบาท รุ่นยี่สิบบาทเถ้าแก่น้อยก็ไม่มี seal เหมือนกันครับRocker เขียน:ความเห็นเรื่อง สาหร่าย ครับ
หลังจากลองทาน 2 รสแล้ว รู้สึกว่า อร่อยใช้ได้ แต่ รสชาติ ยังสู้ เถ้าแก่น้อยไม่ได้ครับ เถ้าแก่น้อย มันกรอบกว่า และเค็มกว่า
รวมถึงเรื่อง Packaging ด้วย รูปแบบ สวยกว่า เถ้าแก้น้อยแต่ การจัดเก็บ ไม่สามารถเก็บได้เหมือนเถ้าแก้น้อย
คือของเค้า Seal พลาสติกแต่ Oishi ต้องทานให้หมด หากเก็บไว้จะไม่กรอบเพราะอากาศเข้า
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่จะส่งผลให้ยอดขายโตไม่ใช่ รสชาติ อย่างเดียว อยู่ที่ Promotion ด้วย เชื่อว่าในระยะยาวOishi จะสามารถแย่ง Market Share เถ้าแก่น้อยได้
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
- Linzhichange
- User
- กระทู้: 1160
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 10, 2005 9:21 pm
Re: OISHI
แปะไว้หน่อย ดูจากกลยุทธ์ เหมือนจะให้ OISHI เป็น Pepsico อารมณ์ญี่ปุ่น ๆ
เมืองไทยเป็นแหล่งอาหารโลก น่าจะมีบริษัทอย่างนี้เยอะ ๆ
เมืองไทยเป็นแหล่งอาหารโลก น่าจะมีบริษัทอย่างนี้เยอะ ๆ
ก้าวช้า ๆ และเชื่อในปาฎิหารย์ของหุ้นเปลี่ยนชีวิต
There is no secret ingredient. It's just you.
There is no secret ingredient. It's just you.
Re: OISHI
จาก Post Today ครับ
โออิชิ'จี้ไทยเบฟเพิ่มฟรีโฟลตหุ้นกก.ถูกลดบำเหน็จ
โออิชิทำหนังสือถึงไทยเบฟฯกระทุ้งลดสัดส่วนถือหุ้น เพิ่มฟรีโฟลต ถึงเกณฑ์ตลาด 15% ผู้ถือหุ้นโหวต
ลดบำเหน็จกรรมการจากที่ขอ 50 ล้าน เหลือ 40 ล้าน
นายณรงค์ ศรีสอ้าน ประธานกรรมการบริษัท โออิชิ (OISHI) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัท
(บอร์ด) จะทำหนังสือถึงบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 89.26% ให้พิจารณาลด
สัดส่วนการถือหุ้นในโออิชิลงเพื่อเพิ่มจำนวนหุ้นในตลาด (ฟรีโฟลต) ให้ได้ตามเกณฑ์ที่ตลาดกำหนดไว้ที่ 15%
และเป็นการเพิ่มจำนวนหุ้นหมุนเวียนในการซื้อขายด้วย นอกจากนี้บริษัทก็ศึกษาวิธีอื่นควบคู่ไปด้วย
โออิชิ'จี้ไทยเบฟเพิ่มฟรีโฟลตหุ้นกก.ถูกลดบำเหน็จ
โออิชิทำหนังสือถึงไทยเบฟฯกระทุ้งลดสัดส่วนถือหุ้น เพิ่มฟรีโฟลต ถึงเกณฑ์ตลาด 15% ผู้ถือหุ้นโหวต
ลดบำเหน็จกรรมการจากที่ขอ 50 ล้าน เหลือ 40 ล้าน
นายณรงค์ ศรีสอ้าน ประธานกรรมการบริษัท โออิชิ (OISHI) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัท
(บอร์ด) จะทำหนังสือถึงบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 89.26% ให้พิจารณาลด
สัดส่วนการถือหุ้นในโออิชิลงเพื่อเพิ่มจำนวนหุ้นในตลาด (ฟรีโฟลต) ให้ได้ตามเกณฑ์ที่ตลาดกำหนดไว้ที่ 15%
และเป็นการเพิ่มจำนวนหุ้นหมุนเวียนในการซื้อขายด้วย นอกจากนี้บริษัทก็ศึกษาวิธีอื่นควบคู่ไปด้วย
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
Re: OISHI
โออิชิ ก้าวล้ำไปอีกขั้น คว้าการ์ตูนยอดนิยมอันดับ 1 ญี่ปุ่น “วันพีช” ขึ้นกล่องยูเอชที
บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำเครื่องดื่มชาเขียวพร้อมดื่ม ต้นตำรับญี่ปุ่น พร้อมแล้วกับการกลับมาเดินหน้าเต็มสูบในการป้อนสินค้าคุณภาพสู่ตลาด ภายหลังโรงงานผลิตชาเขียวพร้อมดื่มยูเอชทีทั้งหมดได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม สร้างความแตกต่างครั้งใหม่ ด้วยการปรับโฉมบรรจุภัณฑ์ชาเขียวพร้อมดื่มยูเอชที โดยการนำการ์ตูนยอดฮิตจากญี่ปุ่น “วันพีซ (One piece)” มาไว้บนกล่องบรรจุภัณฑ์ เป็นเจ้าแรกในเมืองไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดตัวจริง ที่ไม่หยุดนิ่งในการนำเสนอความแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใครให้กับผู้บริโภค
นายอนิรุทธิ์ มหธร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ปัจจุบันตลาดมีการแข่งขันสูง และมีผู้เล่นเข้ามามากขึ้น หน้าที่ของผู้นำตลาด คือการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้ก้าวล้ำนำหน้าคู่แข่งอย่างสม่ำเสมอ บรรจุภัณฑ์แบบกล่องยูเอชที ถือเป็นเซ็กเมนต์ที่ยังมีโอกาสเติบโต ปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดคิดเป็น 20% ของตลาดเครื่องดื่มชาเขียวโดยรวม และโออิชิ กรีนที มีแชร์อยู่ในกลุ่มนี้ถึง 90% การปรับแพ็คเกจจิ้งใหม่ในครั้งนี้ ถือเป็นการจับคู่กันของชาเขียวพร้อมดื่ม ต้นตำรับญี่ปุ่น ขายดีอันดับหนึ่งของไทย และการ์ตูนยอดนิยมอันดับหนึ่ง “วันพีซ”ของญี่ปุ่น ที่นำเสนอภาพลักษณ์ใหม่ ที่โดดเด่นโดนใจ และมีความเป็นเอกลักษณ์ให้กับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้อย่างลงตัว สำหรับการปรับโฉมบรรจุภัณฑ์ โดยใช้ลายเส้นการ์ตูน “วันพีซ” ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมทางการตลาดครั้งสำคัญที่ช่วยสะท้อนดีเอ็นเอความเป็นเครื่องดื่มชาเขียวแท้ ต้นตำรับญี่ปุ่น ที่มีความสนุกสนาน สดใส สไตล์ญี่ปุ่นของโออิชิ ให้เด่นชัดในใจผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น”
นับเป็นครั้งแรกของตลาดเครื่องดื่มเมืองไทย เมื่อโออิชิ กรีนที ตอกย้ำความเป็นผู้นำที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ด้วยการนำการ์ตูนชื่อดัง “วันพีซ (One Piece)” ซึ่งเป็นการ์ตูนยอดฮิตติดอันดับหนึ่งจากเกาะญี่ปุ่นมากว่าสองทศวรรษ เขียนโดยอาจารย์ เออิจิโร่ โอดะ ถือเป็นหนังสือการ์ตูนที่มียอดพิมพ์สูงที่สุด ในญี่ปุ่น ถึง 260 ล้านเล่ม ด้วยความสนุกสนานของเรื่องราว และคาแรกเตอร์ที่โดดเด่นมีสไตล์ วันพีช จึงถูกนำมาเป็นสัญลักษณ์มากมาย จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นญีปุ่น และโด่งดังจนมีการสร้าง วันพีช มิวเซียม ที่โตเกียวโดม ตอกย้ำความเป็นตำนานของการ์ตูนอันดับหนึ่งของประเทศญีปุ่น ที่ยังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยอีกด้วย โดยโออิชิ กรีนที เลือกตัวการ์ตูน 6 คาแร็คเตอร์ ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและเป็นขวัญใจนักอ่าน มาโลดเล่นอยู่บนกล่องบรรจุภัณฑ์ชาเขียวพร้อมดื่มยูเอชที รูปโฉมใหม่ เพื่อสะท้อนบุคลิกของเครื่องดื่มโออิชิ กรีนที ในแต่ละรสชาติ
นายสุธี ธรรมสิทธิ์บูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า “สำหรับแนวทางการทำตลาดในปีนี้ เราได้วางแผนการจัดกิจกรรมสื่อสารการตลาดครบทุกช่องทาง โดยใช้งบประมาณรวมกว่า 70 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมาย อายุระหว่าง 8 – 12 ปี ตลอดจนผู้ที่ชื่นชอบการ์ตูน “วันพีช”ได้รับทราบและจดจำ โออิชิ กรีนที ในบรรจุภัณฑ์กล่องยูเอชที ด้วยราคาจำหน่ายที่มีความเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายในช่วงวัยนี้ ผ่านช่องทางสื่อโฆษณาต่างๆ เช่น โทรทัศน์ เคเบิลทีวี วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อนอกบ้านต่างๆ เช่น สื่อในสถานีรถไฟฟ้า โรงภาพยนตร์ บิลบอร์ด และกิจกรรมสนุกๆ ผ่านสื่อออนไลน์ รวมถึงการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้รับรู้ถึง โออิชิ ในภาพลักษณ์ใหม่ โดยจะประเดิมด้วยกิจกรรมแรกคือการจัดงาน Oishi Cosplay 6 : World Summit Cosplay Idol ที่จะจัดให้มีขึ้นในวันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคมนี้ ที่บริเวณลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ อย่างยิ่งใหญ่ พร้อมโชว์ชุดฟินาเล่สุดพิเศษจาก 5 ซุป’ตาร์ ที่จะร่วมไปทัวร์ยกแก๊งกับ “โออิชิ ไปแต่ตัว ทัวร์ยกแก็ง 555” ในปีนี้ รวมถึงการใช้สิทธิ์ในการนำคาแร็คเตอร์ต่างๆ มาจัดทำสินค้าพรีเมียม เพื่อสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่องทางต่างๆ อย่างต่อเนื่อง”
โดยขณะนี้ ผลิตภัณฑ์ชาเขียวพร้อมดื่มยูเอชทีของโออิชิ ได้เริ่มทยอยวางจำหน่ายแล้วตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าปลีกทั่วประเทศ ในราคากล่องละ 10 บาท ติดตามข่าวสาร กิจกรรม และ ความเคลื่อนไหวได้ที่ http://www.facebook.com/oishigroup และ http://www.facebook.com/oishidrinkstation.com
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
Re: OISHI
ผมว่าที่ Q1 ไม่ค่อยดีเท่าปีที่แล้วเพราะของขาดครับ
โรงงานที่นวนครผลิตไม่ได้ต้องให้ที่อมตะผลิต ลองย้อนดูข่าวเก่านะครับ
4Q11 OISHI ทำได้ 0.23 Baht/Share นะครับ
1Q12 OISHI ทำได้ 1.32 Baht/Share
ถ้าดู YOY อาจจะลดลงเพราะผลของน้ำท่วมใน 4Q11 ส่งผลอยู่ แต่ถ้าดู QOQ ผมว่าก็ไม่เลวเลยที่ฟื้นตัวได้ดี
แต่ที่ราคาขนานนี้ผมเห็นด้วยกับคุณ Rocker ครับว่าเป็นการซื้ออนาคต
โรงงานที่นวนครผลิตไม่ได้ต้องให้ที่อมตะผลิต ลองย้อนดูข่าวเก่านะครับ
4Q11 OISHI ทำได้ 0.23 Baht/Share นะครับ
1Q12 OISHI ทำได้ 1.32 Baht/Share
ถ้าดู YOY อาจจะลดลงเพราะผลของน้ำท่วมใน 4Q11 ส่งผลอยู่ แต่ถ้าดู QOQ ผมว่าก็ไม่เลวเลยที่ฟื้นตัวได้ดี
แต่ที่ราคาขนานนี้ผมเห็นด้วยกับคุณ Rocker ครับว่าเป็นการซื้ออนาคต
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
Re: OISHI
OISHI Performance by Quarter
1Q11 = 1.8 Baht/Share
2Q11 = 0.89 Baht/Share
3Q11 = 1.40 Baht/Share
4Q11 = 0.23 Baht/Share
1Q12 = 1.32 Baht/Share
ตอน 1Q12 เกี้ยวซ่าเพิ่งมาวางขายเดือนมีนาคม ร้านอาหารเปิดใหม่หลายร้านเดือนมีนาคม โรงงานนวนคร เพิ่งกลับมาเดินเครื่องเต็มกำลังกลางมีนาคม
ทัวร์ยกแก็งค์ กับ ห้าซุปตา เปิตตัวกลางมีนาคม
ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 2 เมษายน 2555
นายแมทธิว กิจโอธาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โออิชิได้เร่งดำเนินการปรับปรุงและฟื้นฟูโรงงานผลิตและบรรจุเครื่องดื่มชาเขียว ซึ่งประสบกับเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยโรงงานผลิตและบรรจุเครื่องดื่มชาเขียวของบริษัทฯ ได้รับความเสียหายอย่างมาก ส่งผลกระทบทำให้ไม่สามารถผลิตสินค้าได้ และได้เริ่มเข้าไปฟื้นฟูโรงงานตั้งแต่เดือนธันวาคมในปีที่ผ่านมา ซึ่งในขณะนี้สามารถกลับมาผลิตสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องของผู้บริโภคได้อย่างสมบูรณ์ 100 %
1Q11 = 1.8 Baht/Share
2Q11 = 0.89 Baht/Share
3Q11 = 1.40 Baht/Share
4Q11 = 0.23 Baht/Share
1Q12 = 1.32 Baht/Share
ตอน 1Q12 เกี้ยวซ่าเพิ่งมาวางขายเดือนมีนาคม ร้านอาหารเปิดใหม่หลายร้านเดือนมีนาคม โรงงานนวนคร เพิ่งกลับมาเดินเครื่องเต็มกำลังกลางมีนาคม
ทัวร์ยกแก็งค์ กับ ห้าซุปตา เปิตตัวกลางมีนาคม
ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 2 เมษายน 2555
นายแมทธิว กิจโอธาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โออิชิได้เร่งดำเนินการปรับปรุงและฟื้นฟูโรงงานผลิตและบรรจุเครื่องดื่มชาเขียว ซึ่งประสบกับเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยโรงงานผลิตและบรรจุเครื่องดื่มชาเขียวของบริษัทฯ ได้รับความเสียหายอย่างมาก ส่งผลกระทบทำให้ไม่สามารถผลิตสินค้าได้ และได้เริ่มเข้าไปฟื้นฟูโรงงานตั้งแต่เดือนธันวาคมในปีที่ผ่านมา ซึ่งในขณะนี้สามารถกลับมาผลิตสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องของผู้บริโภคได้อย่างสมบูรณ์ 100 %
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
- Linzhichange
- User
- กระทู้: 1160
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 10, 2005 9:21 pm
Re: OISHI
ผมคิดว่า Q1/12 ทำได้ดีกว่าที่ผมคิดซะอีก
เพราะ Q1 ของขาดมากมาย ชาเขียวขวดหายากมาก ๆ ร้านค้าบ่นอุบเลย ยิ่งระบบสายส่งเอามารวมกับเสริมสุข แบบมึน ๆ ก็ยิ่งขลุกขลิกกันเข้าไปใหญ่
ที่คุณ Pro_Baby แนะนำผมนั่งอ่าน Marketeer เดือนเมษา สนุกมากเลยครับ ศึกชาเขียว ห้ามพลาดจริง ๆ
ผมชอบ Magazine เล่มนี้เทียบกับเล่มอื่น ๆ ในตลาด เพราะมีการทำวิจัยของตัวเองด้วย
ใครชอบพวก consumer products นี่เป็นอีกทางเลือกนึงให้เสพข้อมูลครับ
อีกเรื่องคือพอมาเห็น One piece บนกล่อง UHT เป็นการตลาดที่เด็ดขาดมาก
หลังจากยุคคุณตันมา 2-3ปี บริษัทพยายามค้นหาตัวเอง งง ๆ มาระยะนึง
ตอนนี้ผมคิดว่า โออิชิ ยกระดับตัวเองขึ้นไปอีกขั้นแล้ว
การแข่งขันทำให้บริษัทดีขึ้นมาก ผมว่าอิชิตัน เป็นแรงบวกให้โออิชิมากกว่าด้านลบ
เพราะ Q1 ของขาดมากมาย ชาเขียวขวดหายากมาก ๆ ร้านค้าบ่นอุบเลย ยิ่งระบบสายส่งเอามารวมกับเสริมสุข แบบมึน ๆ ก็ยิ่งขลุกขลิกกันเข้าไปใหญ่
ที่คุณ Pro_Baby แนะนำผมนั่งอ่าน Marketeer เดือนเมษา สนุกมากเลยครับ ศึกชาเขียว ห้ามพลาดจริง ๆ
ผมชอบ Magazine เล่มนี้เทียบกับเล่มอื่น ๆ ในตลาด เพราะมีการทำวิจัยของตัวเองด้วย
ใครชอบพวก consumer products นี่เป็นอีกทางเลือกนึงให้เสพข้อมูลครับ
อีกเรื่องคือพอมาเห็น One piece บนกล่อง UHT เป็นการตลาดที่เด็ดขาดมาก
หลังจากยุคคุณตันมา 2-3ปี บริษัทพยายามค้นหาตัวเอง งง ๆ มาระยะนึง
ตอนนี้ผมคิดว่า โออิชิ ยกระดับตัวเองขึ้นไปอีกขั้นแล้ว
การแข่งขันทำให้บริษัทดีขึ้นมาก ผมว่าอิชิตัน เป็นแรงบวกให้โออิชิมากกว่าด้านลบ
ก้าวช้า ๆ และเชื่อในปาฎิหารย์ของหุ้นเปลี่ยนชีวิต
There is no secret ingredient. It's just you.
There is no secret ingredient. It's just you.
Re: OISHI
จาก OPP DAY มีประเด็นที่น่าสนใจเยอะมากนะครับ ผมแนะนำว่าถ้าสนใจจะลงทุนจริงๆ ให้ดู VDO CLIP ได้ที่ Link นี้
http://www.dcs-digital.com/setweb/index.php หรือ http://www.youtube.com/settrade
ประเด็นที่ผมสนใจจาก OPP DAY คือ
1) Cost Saving ที่ OISHI จะได้จากการเปลี่ยน Line การผลิตจาก Hot Fill มาเป็น Cold Aseptic Filling ต่อขวดประหยัดค่าขวดได้ 1.8 บาท โดยค่าขวดจะลดจาก 3 มาเป็น 1.2 บาท
2) Margin ของการขยายไปตลาดอเมริกา กับ ยุโรปน่าจะดีขึ้นเพราะราคา Market Price ที่โน่นสูงกว่า
3) Margin Improvement ของร้านอาหารที่ ปีนี้เน้นการเปิด Shabushi ที่มี net profit margin มากกว่า 10% เกี๊ยวซ่า และ Sandwich ที่กลับมาผลิตได้อีกครั้ง รวมทั้ง Snack สาหร่าย โอโนริ ที่เพิ่งเปิดตัวไปล้วนทำ net profit margin ได้ดีกว่าร้าน โออิชิบุฟเฟ่ ที่มาร์จิ้นเป็น low single digit
4) โออิชิเริ่มกระจาย CHAKUZA ผ่าน SSC (เสริมสุข) เดือนนี้ (พฤษภา 2555) เป็นเดือนแรก
5) การกลับมาผลิต ชาเขียวแบบกล่องUHT ได้เร็วกว่าที่คาดไว้
ุ6) คุณแมธทิวพูดถึงการออก packaging ใหม่ประเภท Returnable (สามารถคืนได้) ซึ่งผมเดาว่าน่าจะเป็นพวกขวดแก้ว และน่าจะเน้นการขายผ่านเสริมสุขเข้าไปในเครือข่ายร้านค้าย่อย และ ร้านอาหาร
7) การขายในตลาดต่างประเทศจะขายผ่าน THAIBEV INTER ที่มีพนักงานขายกว่า 800 คนในหลายประเทศ ตอนนี้ยอดส่งออกของ OISHI อยู่ที่แค่ 100 ล้านบาท
8) ทางบริษัทจะผลักดันเกี๊ยวซ่าให้โตในระดับเดียวกับเกี๊ยวกุ้ง
9) ยอดขายบริษัทจะโตประมาณ CAGR 27-28% ต่อจากนี้ไปอีก 4-5 ปี
10) ตอนนี้การขายผ่าน Modern Trade คิดเป็น 50% และ Traditional Trade คิดเป็น 50% การเข้ามาของเสริมสุขน่าจะทำให้สัดส่วนของ TT มากขึ้น
ถ้าได้ฟังแล้วก็อย่าฝันหวานแต่ด้านเดียวนะครับ การลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน เราก็มาติดตามกันต่อไปว่าท่านผู้บริหารจะทำได้อย่างที่ท่านให้ข้อมูลไว้หรือเปล่า
http://www.dcs-digital.com/setweb/index.php หรือ http://www.youtube.com/settrade
ประเด็นที่ผมสนใจจาก OPP DAY คือ
1) Cost Saving ที่ OISHI จะได้จากการเปลี่ยน Line การผลิตจาก Hot Fill มาเป็น Cold Aseptic Filling ต่อขวดประหยัดค่าขวดได้ 1.8 บาท โดยค่าขวดจะลดจาก 3 มาเป็น 1.2 บาท
2) Margin ของการขยายไปตลาดอเมริกา กับ ยุโรปน่าจะดีขึ้นเพราะราคา Market Price ที่โน่นสูงกว่า
3) Margin Improvement ของร้านอาหารที่ ปีนี้เน้นการเปิด Shabushi ที่มี net profit margin มากกว่า 10% เกี๊ยวซ่า และ Sandwich ที่กลับมาผลิตได้อีกครั้ง รวมทั้ง Snack สาหร่าย โอโนริ ที่เพิ่งเปิดตัวไปล้วนทำ net profit margin ได้ดีกว่าร้าน โออิชิบุฟเฟ่ ที่มาร์จิ้นเป็น low single digit
4) โออิชิเริ่มกระจาย CHAKUZA ผ่าน SSC (เสริมสุข) เดือนนี้ (พฤษภา 2555) เป็นเดือนแรก
5) การกลับมาผลิต ชาเขียวแบบกล่องUHT ได้เร็วกว่าที่คาดไว้
ุ6) คุณแมธทิวพูดถึงการออก packaging ใหม่ประเภท Returnable (สามารถคืนได้) ซึ่งผมเดาว่าน่าจะเป็นพวกขวดแก้ว และน่าจะเน้นการขายผ่านเสริมสุขเข้าไปในเครือข่ายร้านค้าย่อย และ ร้านอาหาร
7) การขายในตลาดต่างประเทศจะขายผ่าน THAIBEV INTER ที่มีพนักงานขายกว่า 800 คนในหลายประเทศ ตอนนี้ยอดส่งออกของ OISHI อยู่ที่แค่ 100 ล้านบาท
8) ทางบริษัทจะผลักดันเกี๊ยวซ่าให้โตในระดับเดียวกับเกี๊ยวกุ้ง
9) ยอดขายบริษัทจะโตประมาณ CAGR 27-28% ต่อจากนี้ไปอีก 4-5 ปี
10) ตอนนี้การขายผ่าน Modern Trade คิดเป็น 50% และ Traditional Trade คิดเป็น 50% การเข้ามาของเสริมสุขน่าจะทำให้สัดส่วนของ TT มากขึ้น
ถ้าได้ฟังแล้วก็อย่าฝันหวานแต่ด้านเดียวนะครับ การลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน เราก็มาติดตามกันต่อไปว่าท่านผู้บริหารจะทำได้อย่างที่ท่านให้ข้อมูลไว้หรือเปล่า
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
Re: OISHI
ตามแผนที่ผู้บริหารแจ้งไว้จะเปิดประมาณ 10 สาขาภายในสิ้นปีนี้ครับzz99 เขียน:ไม่ค่อยเห็นข่าวทางการตลาดของ คาคาชิ เลยครับ ไม่ทราบว่าเพื่อนท่านใดมีรายละเอียดเกี่ยวกับ project นี้เพิ่มเติมบ้างครับ เช่น มีแผนการณ์จะเปิดประมาณกี่สาขาต่อปี แล้วจะเน้นไปที่ลูกค้ากลุ่มไหนเป็นหลัก
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
Re: OISHI
โออิชิกำลังจะขึ้นโรงงานใหม่ที่สระบุรี ลงทุนประมาณ 1000 ล้าน ทั้งนี้เนื่องจากคาดว่ากำลังผลิตชาเขียวในปัจจุบันจะไม่พอที่จะตอบสนองความต้องการในอีกสิบสองเดือนข้างหน้า โรงงานนี้จะทำการผลิดแบบ Cold Aseptic Drink ทำให้ประหยัดค่าขวดได้มากขึ้น รายละเอียดตาม link ด้านล่างครับ
http://www.set.or.th/set/newsdetails.do ... country=TH
http://www.set.or.th/set/newsdetails.do ... country=TH
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
Re: OISHI
จัดตั้งบริษัท OISHI International Holding ที่ฮ่องกง เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2555 วัตถุประสงค์เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจต่างประเทศ
Source: www.set.or.th ข่าวแจ้งตลาดวันที่ 24 พฤษภาคม 2555
Source: www.set.or.th ข่าวแจ้งตลาดวันที่ 24 พฤษภาคม 2555
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน