ไม่เข้าใจ อย่าเสี่ยง !/ประภาคาร ภราดรภิบาล

บทความต่างๆที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
ตอบกลับโพส
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
กระทู้: 1243
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 11, 2012 10:42 pm

ไม่เข้าใจ อย่าเสี่ยง !/ประภาคาร ภราดรภิบาล

โพสต์ โดย Thai VI Article » ศุกร์ ส.ค. 24, 2012 10:28 pm

โค้ด: เลือกทั้งหมด

บทความ Value Way กรุงเทพธุรกิจ Bizweek ฉบับวันที่ 27 สิงหาคม 2555
โดย ประภาคาร ภราดรภิบาล
ไม่เข้าใจ อย่าเสี่ยง ! 
   การซื้อหุ้นคือการร่วมเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของธุรกิจ คือทัศนคติที่เป็นพื้นฐานของการลงทุนในตลาดหุ้น แต่การที่จะลงทุนซื้อหุ้นเพื่อร่วมเป็นเจ้าของในบริษัทใดบริษัทหนึ่งโดยที่คุณไม่เข้าใจดีพอ ก็อาจทำให้เกิดความเสียหายกับเงินลงทุนของคุณได้เช่นกัน หลักการสำคัญอีกประการหนึ่งที่นักลงทุนควรตระหนักก็คือ ต้องเข้าใจในสิ่งที่จะลงทุน
   “ปีเตอร์ ลินซ์” บอกว่า “คุณสามารถเอาชนะผู้เชี่ยวชาญได้ หากคุณใช้มุมมองที่เหนือกว่าของคุณไปลงทุนในบริษัทหรืออุตสาหกรรมที่คุณมีความเข้าใจเป็นอย่างดี” และยิ่งถ้าคุณทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมที่คุณลงทุนอยู่ด้วยก็ยิ่งเป็นข้อได้เปรียบเพราะคุณสามารถเข้าใจกิจการเหล่านั้นได้ลึกซึ้งกว่าคนอื่นๆอีกมากมายในตลาดหุ้น “คนแต่ละคนมีข้อมูลพื้นฐานที่มีค่าอย่างไม่น่าเชื่อจากงานที่เขาทำอยู่ ซึ่งกว่านักลงทุนมืออาชีพจะรับรู้ก็ต้องใช้เวลาเป็นเดือนหรือเป็นปี” 
   “ลินซ์” รู้สึกแปลกใจที่คนเป็นหมอตัดสินใจซื้อหุ้นบริษัทสำรวจน้ำมันตามคำแนะนำของเพื่อน, หนังสือพิมพ์ หรือโบรกเกอร์ แทนที่จะใช้ความรู้ทางการแพทย์ของตัวเองซื้อหุ้นบริษัทไบโอเทคโนโลยีหรือหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของสุขภาพอนามัย ซึ่งเป็นหุ้นกลุ่มที่หมอสามารถเข้าใจและวิเคราะห์กิจการได้ดีกว่า
   สำหรับนักลงทุนทั่วไปที่ไม่ได้ทำงานในบริษัทหรืออุตสาหกรรมที่น่าลงทุน “ลินซ์” แนะนำว่า ให้เลือกลงทุนจากสิ่งใกล้ตัวหรือสิ่งที่คุ้นเคย เพราะคุณสามารถเข้าใจมันได้ดีกว่าสิ่งที่ไกลตัวและไม่รู้จักมักคุ้น เขาบอกให้สังเกตสิ่งรอบตัวตั้งแต่ในบ้าน ที่ทำงาน ร้านอาหารที่ไปรับประทาน ห้างร้านที่ไปจับจ่ายใช้สอย อาจมีบางสิ่งบางอย่างเชื่อมโยงไปถึงหุ้นที่คุณจะเลือกลงทุนได้
   ลองใช้คำแนะนำของ “ลินซ์” มาเหลียวมองรอบๆตัวของคุณดูครับ อาหารในชีวิตประจำวันของคุณตั้งแต่ข้าวสาร น้ำตาล น้ำมันพืช ซอสปรุงรส เนื้อหมู เนื้อไก่ อาหารทะเล บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมปัง ลูกอม และขนมขบเคี้ยว, เครื่องดื่มที่คุณใช้ดับกระหายไม่ว่าจะเป็นน้ำอัดลม ชาเขียว หรือน้ำผลไม้, ค่ายโทรศัพท์มือถือที่คุณใช้ติดต่อสื่อสาร, ร้านอาหารยอดนิยมที่คุณเข้าไปรับประทาน, ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือร้านสะดวกซื้อที่คุณเข้าไปจับจ่าย, ธนาคารทั้งหลายที่คุณไปทำธุรกรรมทางการเงิน, โรงแรมชั้นนำที่คุณไปใช้บริการห้องพัก ห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยง หรือห้องอาหาร, โรงพยาบาลชื่อดังที่คุณไปใช้บริการตรวจรักษา หรือไปเยี่ยมไข้คนรู้จัก, ฯลฯ เหล่านี้เป็นตัวอย่างเพียงบางส่วนของสิ่งรอบตัวที่คุณสังเกตเห็นได้และสามารถนำไปเชื่อมโยงกับบริษัทที่อยู่ในตลาดหุ้น 
   “ลินซ์” เล่าว่า ตัวของเขาเองก็เคยค้นพบหุ้นดีๆจากสิ่งรอบตัวเช่นกัน เขาพบหุ้น Taco Bell เพราะประทับใจกับเมนูอาหารเม็กซิกันของร้านนี้, หุ้น Volvo จากรถยนต์ที่ครอบครัวและเพื่อนๆของเขาขับขี่, หุ้น Apple Computer จากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ลูกของเขาใช้งานที่บ้าน และผู้จัดการบริษัทของเขาซื้อมาใช้ในสำนักงาน, หุ้น Dunkin’ Donuts เพราะเขาชอบกาแฟของที่นี่ รวมไปถึง L’eggs หุ้นถุงน่องสตรีที่ภรรยาของเขาซื้อมาใช้ และหุ้นแต่ละตัวที่ว่ามานี้ก็ล้วนทำกำไรให้เขาอย่างงดงาม     
   แต่เดี๋ยวก่อน ! “ลินซ์” ไม่ได้แนะนำให้คุณซื้อหุ้นของห้างร้านชื่อดังเพราะคุณชอบช็อปปิ้งในห้างนั้น หรือซื้อหุ้นของโรงงานเพราะว่ามันผลิตสินค้าถูกอกถูกใจคุณ หรือซื้อหุ้นของร้านอาหารเพราะคุณติดใจรสชาติอาหาร การชื่นชอบห้างร้าน, สินค้า หรือร้านอาหารนั้นยังไม่เพียงพอที่จะใช้เป็นเหตุผลในการซื้อหุ้น แต่เป็น “จุดเริ่มต้น” ที่ทำให้คุณสนใจในบริษัทเพื่อจะนำไปศึกษาและหาข้อมูลเพิ่มเติม 
   “ลินซ์” เตือนว่า อย่าเพิ่งลงทุนถ้าคุณยังไม่ได้ทำการบ้านเกี่ยวกับพื้นฐานของบริษัทนั้นให้ดีเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นด้านของกำไรในอนาคตของบริษัท, ฐานะทางการเงิน, ความสามารถในการแข่งขัน, แผนในการขยายธุรกิจ และอื่นๆ
   ถ้าคุณลงทุนในบริษัทที่คุณไม่มีความรู้ความเข้าใจ ก็ไม่ต่างอะไรกับการนำเงินไปเสี่ยงในตลาดหุ้น การลงทุนที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น “ปีเตอร์ ลินซ์” บอกไว้ว่า “ต้องเข้าใจพื้นฐานของบริษัทที่คุณเป็นเจ้าของ และต้องมีเหตุผลที่ดีในการถือหุ้น” 
[/size]



ตอบกลับโพส