กฎการลงทุนของ “เซอร์ จอห์น เทมเพิลตัน”/ประภาคาร ภราดรภิบาล

บทความต่างๆที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
ตอบกลับโพส
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
กระทู้: 1243
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 11, 2012 10:42 pm

กฎการลงทุนของ “เซอร์ จอห์น เทมเพิลตัน”/ประภาคาร ภราดรภิบาล

โพสต์ โดย Thai VI Article » เสาร์ ก.ย. 28, 2013 8:53 pm

โค้ด: เลือกทั้งหมด

บทความ Value Way กรุงเทพธุรกิจ Bizweek ฉบับวันที่ 30 กันยายน 2556
โดย ประภาคาร ภราดรภิบาล
กฎการลงทุนของ “เซอร์ จอห์น เทมเพิลตัน”                    
   “เซอร์ จอห์น เทมเพิลตัน” หนึ่งในนักลงทุนระดับตำนานของโลก เริ่มเข้าสู่การลงทุนใน Wall Street เมื่อปี ค.ศ. 1937 และหลังจากนั้นท่านได้ก่อตั้งกองทุน “เทมเพิลตัน” ที่บุกเบิกการลงทุนไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก และประสบความสำเร็จสูงจนเป็นที่ยอมรับในวงการลงทุน ในปี ค.ศ. 1999 นิตยสาร Money Magazine ได้ขนานนามท่านว่าเป็น “นักลงทุนผู้ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษในการคัดสรรสินทรัพย์จากทั่วโลกเพื่อการลงทุน”  
   ในหนังสือ “คัมภีร์ VI : ลงทุนหุ้นแบบเน้นคุณค่า” ซึ่งเขียนโดย คุณมนตรี นิพิฐวิทยา และ คุณวิบูลย์ พึงประเสริฐ มีเนื้อหาส่วนหนึ่งที่กล่าวถึง “กฎการลงทุน” ของ “เซอร์ จอห์น เทมเพิลตัน” ซึ่งผมเห็นว่าน่าสนใจและน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านผู้อ่านที่เป็นนักลงทุน จึงขอหยิบยกมากล่าวถึงแบบย่นย่อไว้ ณ ที่นี้ครับ 
   1. ลงทุนให้ได้ผลตอบแทนรวมที่แท้จริงสูงสุด : การลงทุนให้ได้ผลตอบแทนที่แท้จริงให้สูงที่สุด นั่นคือ ผลตอบแทนจากการลงทุนหลังหักภาษีและผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อแล้ว “เซอร์ จอห์น เทมเพิลตัน” กล่าวว่า “วัตถุประสงค์หลักที่แท้จริงของการลงทุนระยะยาว คือ การลงทุนให้ได้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินเฟ้อ” เพื่อเป็นการรักษามูลค่าของเงินในวันนี้ให้ทรงคุณค่าต่อไปในวันข้างหน้า ผู้ใดที่ไม่ได้รับรู้ถึงการมีอยู่ของอัตราเงินเฟ้อและผลกระทบของมันนั้น จะส่งผลเสียต่อการลงทุนอย่างแท้จริง  
   2. ให้ลงทุน...อย่าซื้อๆ ขายๆ เก็งกำไร : “เซอร์ จอห์น เทมเพิลตัน” เตือนนักลงทุนว่า “ตลาดหุ้นหรือตลาดสินทรัพย์อื่นๆ ไม่ใช่บ่อนการพนัน แต่ถ้าคุณกำลังวิ่งเข้าวิ่งออกจากหุ้นตัวนั้นตัวนี้หลังจากที่ราคามีการเคลื่อนไหวอยู่นั้น หรือคุณกำลังซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย ตลาดที่คุณกำลังทำสิ่งเหล่านั้นจะกลายเป็นบ่อนการพนันสำหรับคุณ...และชะตาชีวิตของคุณจะเหมือนกับนักพนันทั่วไป...คุณจะพ่ายแพ้ในที่สุด”
   3. ความยืดหยุ่นและเปิดใจกว้างสำหรับการลงทุนใหม่ๆ : “เซอร์ จอห์น เทมเพิลตัน” กล่าวไว้ว่า ในการลงทุนนั้นมันมีช่วงเวลาสำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ช่วงเวลาในการซื้อหุ้นขนาดใหญ่ (Blue chip), หุ้นวัฏจักร (Cyclical), หุ้นกู้, และพันธบัตรรัฐบาล และมีช่วงเวลาที่เราจะต้องถอนเงินลงทุนส่วนใหญ่มาไว้ที่เงินสด เพราะว่าการมีเงินสดในช่วงเวลาที่การลงทุนประเภทอื่นๆ ไม่ดีนั้น สร้างโอกาสในการลงทุนได้อย่างมหาศาล  
   4. อย่าจับจังหวะตลาด : การจับจังหวะเข้าซื้อหรือขายนั้น หากทำได้จะสร้างผลตอบแทนได้อย่างมหาศาล แต่ในความเป็นจริงทำได้ยากมาก และโอกาสถูกต้องนั้นก็น้อยมากๆ เช่นกัน ดังนั้นไม่ต้องไปใส่ใจกับตลาด เพราะเราไม่ได้ซื้อหุ้นทั้งตลาด เราซื้อหุ้นรายบริษัทที่เราวิเคราะห์แล้วว่าดีและใช้วิธีรอราคาถูกๆ หรือเฉลี่ยซื้อไปเรื่อยๆ ขายก็เช่นกัน เกินราคาที่ประเมินไว้แล้วก็ทยอยขาย
   5. เมื่อจะซื้อหุ้น  ให้เฟ้นหาหุ้นคุณภาพดีที่ราคาไม่แพง : หุ้นที่มีคุณภาพ หรือ สุดยอดหุ้น (Super Stock) ในมุมมองของ “เซอร์ จอห์น เทมเพิลตัน” คือหุ้นของ...
- บริษัทที่เป็นผู้นำในด้านยอดขายในตลาดที่กำลังเติบโต 
- หรือเป็นบริษัทที่เป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยี เป็นบริษัทที่คิดค้นนวัตกรรมใหม่ที่สามารถประยุกต์ใช้ในธุรกิจได้ตลอดเวลา 
- หรือเป็นบริษัทที่มีคณะผู้บริหารที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน 
- หรือเป็นบริษัทที่สามารถนำเงินทุนที่มีอยู่มาสร้างความเติบโต และผลการดำเนินงานที่ดีได้ตลอดเวลา 
- หรือบริษัทที่มีตราสินค้าที่เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคและสามารถสร้างกำไรจากตราสินค้านั้นๆ ได้เป็นอย่างดี
   คุณสมบัติของหุ้นคุณภาพดีที่กล่าวมาข้างต้นนี้ เราไม่สามารถหยิบเอาคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่งมาพิจารณาเพียงอย่างเดียว แต่ควรพิจารณาทั้งหมดโดยรวม หากพิจารณาเพียงข้อใดข้อหนึ่งอาจทำให้มีโอกาสพลาดสูง
   6. ซื้อหุ้นที่มูลค่าของมัน ไม่ใช่จากแนวโน้มตลาดหรือสภาพเศรษฐกิจ : การที่ดัชนีราคาตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้น ไม่ได้หมายความว่าหุ้นทุกบริษัทมีราคาเพิ่มขึ้นทั้งหมด ในทางกลับกันเมื่อดัชนีราคาตลาดหลักทรัพย์ลดลงก็ไม่ได้หมายความว่าหุ้นทุกบริษัทมีราคาลดลง และตลาดหุ้นก็ไม่ได้มีทิศทางสอดคล้องไปทางเดียวกับสภาพเศรษฐกิจเสมอไปทุกครั้ง สภาพตลาดหุ้นที่ย่ำแย่ไม่ได้หมายถึงการที่เศรษฐกิจถดถอย เศรษฐกิจยังคงเติบโตได้ดีแต่ดัชนีราคาหุ้นก็อาจลดลงได้เช่นกัน เพราะฉะนั้น “ซื้อหุ้นเพราะมูลค่าสูงกว่าราคา ไม่ใช่เพราะแนวโน้มตลาดหรือสภาพเศรษฐกิจ” แล้วท่านจะเป็นผู้ชนะระยะยาว
   กฎการลงทุนของ “เซอร์ จอห์น เทมเพิลตัน” ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ติดตามกันต่อได้ในตอนหน้าครับ 
[/size]



ตอบกลับโพส