โค้ด: เลือกทั้งหมด
บทความ Value Way กรุงเทพธุรกิจ Bizweek ฉบับวันที่ 9 ธันวาคม 2556
โดย ประภาคาร ภราดรภิบาล
สมรภูมิการลงทุน
เคยมีผู้เปรียบเทียบไว้ว่า การลงทุนในตลาดหุ้นก็เหมือนกับการรบ การขาดทุนจากตลาดหุ้นถือเป็นความพ่ายแพ้ และกำไรที่ได้คือชัยชนะจากการออกรบ ถ้าเช่นนั้นตลาดหุ้นก็คงเปรียบได้กับสมรภูมิหรือสนามรบ นักลงทุนก็คงไม่ต่างจากแม่ทัพผู้บัญชาการรบ
ในบทความนี้ผมจะขอหยิบยก “กลยุทธ์การลงทุน” ของบรรดาเซียนหุ้นชื่อดังมาเทียบเคียงกับ “ยุทธศาสตร์ในการทำสงคราม” ให้อ่านกันครับ
ก่อนที่จะเข้าสู่สมรภูมิ “ตำราพิชัยสงคราม” ของ “ซุนวู” กล่าวไว้ว่า “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง” ดังนั้นแม่ทัพจึงต้อง “รู้เขารู้เรา” เสียก่อน การ “รู้เรา” สำหรับสุดยอดแม่ทัพด้านการลงทุนอย่าง “วอร์เรน บัฟเฟตต์” ก็คือการรู้ว่าตัวเองมี “ขอบข่ายแห่งความรู้ความสามารถ” หรือ “Circle of Competence” มากน้อยแค่ไหนอย่างไรในการลงทุน “บัฟเฟตต์” จะไม่ลงทุนในสิ่งที่อยู่นอกเหนือขอบข่ายแห่งความรู้ความสามารถของเขา เหมือนช่วงปลายทศวรรษ 1990 ที่หุ้นเทคโนโลยีกำลังบูม ใครต่อใครต่างก็สนใจเข้าลงทุน แต่ “บัฟเฟตต์” ปฏิเสธที่จะลงทุนในหุ้นกลุ่มดังกล่าว ด้วยเหตุผลว่า การคาดการณ์ผลการดำเนินงานในระยะยาวของธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนั้นเป็นสิ่งที่เกินความสามารถของเขา แต่เมื่อไม่นานมานี้เขาได้เข้าซื้อหุ้นบริษัทไอบีเอ็ม ซึ่งเป็นหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี นั่นแสดงให้เห็นว่า “ขอบข่ายแห่งความรู้ความสามารถ”ของเขาขยายกว้างขึ้นจนมีความรู้ความเข้าใจมากพอที่จะเข้าลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีได้
ส่วนการ “รู้เขา” ประการแรก ก็คือ การรู้จักและเข้าใจตลาดหุ้น ถ้าเปรียบตลาดหุ้นเป็นสนามรบ แม่ทัพที่รู้จักสภาพของสมรภูมิที่จะเข้าทำการรบเป็นอย่างดี ก็จะมีความได้เปรียบในการวางกลยุทธ์เพื่อพิชิตศึก “เบนจามิน เกรแฮม” บิดาแห่งการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ได้อุปมาอุปไมยไว้ว่า ตลาดหุ้นมีความผันผวนขึ้นลงตลอดเวลาเหมือนกับคนอารมณ์ปรวนแปร ไม่อยู่กับร่องกับรอยที่ชื่อว่า “มิสเตอร์มาร์เก็ต” ถ้าเรารู้จักและเข้าใจอารมณ์ของตลาดหุ้น เราก็สามารถใช้ประโยชน์จากความผันผวนของมันได้
การ “รู้เขา” ประการต่อมาก็คือ การรู้จักกิจการที่จะลงทุน นักลงทุนจะต้องมีการศึกษาหาข้อมูลจนรู้จักและเข้าใจในกิจการที่จะลงทุนเป็นอย่างดีก่อนที่จะเข้าไปลงทุน เพราะการลงทุนในสิ่งที่ไม่รู้จักและไม่เข้าใจถือว่าเป็นความเสี่ยง ปรมาจารย์ด้านการลงทุนอย่าง “ฟิลลิป ฟิชเชอร์” ใช้เทคนิค “Scuttlebutt” หรือ “การสืบเสาะเจาะข้อมูล” เพื่อที่จะทำความรู้จักกับกิจการที่จะลงทุนให้ทะลุปรุโปร่ง โดยอาศัยข้อมูลจากทุกแหล่งที่เขาสามารถจะเข้าถึงข้อมูลได้ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า, ซัพพลายเออร์, บริษัทคู่แข่ง, พนักงาน, ผู้บริหาร หรือแม้กระทั่งพนักงานเก่าที่ออกจากบริษัทไปแล้ว
ในการเข้าสู่สมรภูมิ แม่ทัพต้องพยายามรักษากองกำลังของตนเองเอาไว้ให้ดีที่สุด ไม่ให้เกิดการสูญเสีย หรือสูญเสียให้น้อยที่สุด เพราะยิ่งสูญเสียมาก โอกาสที่จะพ่ายแพ้ก็มีสูงตามไปด้วย “วอร์เรน บัฟเฟตต์” มีกฎการลงทุนว่า “กฎข้อที่ 1 อย่าขาดทุน และกฎข้อที่ 2 อย่าลืมกฎข้อที่ 1” ความหมายของเขาก็คือ ถ้านักลงทุนสามารถรักษาเงินต้นไว้ได้โดยไม่ขาดทุน ก็ย่อมมีโอกาสที่จะได้กำไร เช่นเดียวกับ “วิลเลียม โอนีล” ที่เคยกล่าวไว้ว่า เคล็ดลับของการประสบความสำเร็จในตลาดหุ้น ไม่ใช่การซื้อหุ้นถูกตัวทุกครั้ง แต่หัวใจสำคัญอยู่ที่การขาดทุนให้น้อยที่สุด
ยังมี “ยุทธศาสตร์ในสมรภูมิการลงทุน” อีกหลายประการที่ยังไม่ได้กล่าวถึง ผมขอยกยอดไว้ให้อ่านในตอนต่อไปนะครับ