ใครพอทราบว่าทำไม TCB ซิลลิ่งครับ หรือแค่เหยื่อนักเกร็งกำไร..

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ล็อคหัวข้อ
No Name

โพสต์ โดย No Name » พฤหัสฯ. พ.ย. 06, 2003 12:35 pm

ขอบคุณ คุณ ayethebing

อ่านวิจัยจาก TISCO แล้วเห็นด้วยเรื่องข้อมูลต่างๆ ส่วนเรื่องราคาไม่ได้สนใจมากนัก เพราะเป้นนักลงทุนระยะยาวมาก ซึ่งอนาคต TCB มีแนวโน้มดีมาก

ยอดขายปีนี้ไม่เติบโต เพราะใช้กำลังการผลิตเต้มที่แล้ว ส่วนปีหน้ายอดขายจะเติบโตขึ้น จากการขยายกำลังการผลิต ส่วนการลงทุนในจีน ตามโครงการจะคุ้มทุนใน1 ปีครึ่ง



kk

โพสต์ โดย kk » พฤหัสฯ. พ.ย. 06, 2003 6:19 pm

ไม่ทราบว่า อยากจะอ่านข่าวของ TCB ด้วยคนนะครับ ผมซื้อไว้ตั้งนานแล้ว วันนี้มาดูราคาเห็นเพิ่มเป็น 22 บาทกว่าๆ ตกใจเลย ครับ เลยอยากจะขอทราบข้อมูลเพิ่มหน่อย นะครับ



No Name

โพสต์ โดย No Name » พฤหัสฯ. พ.ย. 06, 2003 9:18 pm

ขอเพิ่มเติมข้อมูลคุณ sirivijj

ปัจจุบัน Bridgestone เป็นผุ้ผลิตอีกราย แต่ผลิตคาร์บอนคนละประเภทซึ่งส่วนใหญ่ใช้ในยางรถแข่ง ไม่ได้มีผลกระทบกับ TCB เพราะ Bridgestone ยังขอให้ TCB ผลิตให้เพิ่มอีกต่างหาก ทั้งที่ TCB ใช้เต็มกำลังการผลิต

หุ้น TCB ไม่ค่อยมีสภาพคล่อง แต่รายใหญ่อยากได้ ก็ต้องหลอกล่อให้รายย่อยขาย โดยลากขึ้นลากลงหลายรอบ เมื่อได้จำนวนมากแล้ว หุ้นก็พุ่งดังที่เห็น

สำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ไม่หวั่นไหวและมั่นคง ย่อมจะได้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวครับ



No Name

โพสต์ โดย No Name » ศุกร์ พ.ย. 07, 2003 10:29 am

ข้อมูลใหม่ใน research ของ TISCO คือ TCB มีการขยายกำลังการผลิตในปีนี้ประมาณ 15% และข้อมูลใหม่ที่ผมเพิ่งทราบ คือ TCB มีโครงการขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีกในปี 2548 ซึ่งจะทำให้เป็นโรงงานที่ผลิตคาร์บอนที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ใครที่สามารถดึงข้อมูลของ TISCO ฉบับเต็มมาในนี้ไได้ น่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่าน ผมขอโทษด้วยที่ดึงข้อมูลไม่เป็น



No Name

โพสต์ โดย No Name » ศุกร์ พ.ย. 07, 2003 12:44 pm

คุณลูกอีสาน

สิ่งที่ผ่านมาขอให้ผ่านไป ตั้งสติให้ดีแล้วเริ่มใหม่

ส่วนตัว ผมถือหุ้น TCB หลายแสนหุ้น โดนรายใหญ่โยกหลอกหลายครั้ง แต่ไม่เคยหวั่นไหว ไม่ขายแต่ซื้อเพิ่มตลอด เพราะมั่นใจในศักยภาพบริษัทและได้ติดตามมานานพอควร

ข้อมูลที่ใหม่จริงๆ คือ บริษัทจะมีโครงการขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีกในปี 2548 ซึ่งทำให้บริษัทเป้นผู้ที่มีโรงงานใหญ่ที่สุดในโลก จากประมาณการของ TISCO ค่า PE จะลดลงเหลือ ุ6-7 เท่าในปี 2548
จากปัจจุบันน่าจะอยู่ที่ 15 เท่า

TR ได้ประโยชน์จากการถือหุ้น TCB โดย TR ถือหุ้น 25% จะบันทึกตามวิธีส่วนได้เสีย ซึ่งคิดตามสัดส่วนกำไรของ TCB แต่ไม่ได้อะไรจากการที่หุ้น TCB ขึ้นนอกจากจะขายหุ้นออก ซึ่งคงไม่ขายแน่นอน
สรุป คือ TR จะได้ประโยชน์ในระยะยาวแต่ในระยะสั้นจะไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการที่หุ้น TCB ขึ้น จนกว่า TCB มีกำไรเพิ่มและจ่ายปันผลเพิ่มครับ

สำหรับธุรกิจหลักของ TR ยังคงเผชิญการแข่งขันสูงครับ



No Name

โพสต์ โดย No Name » ศุกร์ พ.ย. 07, 2003 3:11 pm

คุณลูกอีสาน

สำหรับผมจะไม่ขายหุ้นเพียงเพราะซิลลิ่ง 2 วันครับ แต่จะขายเมื่อปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนไปในทางไม่ดี หรือ ราคาแพงเกินไป หรือ มีหุ้นตัวใหม่ที่น่าสนใจกว่า

เพราะการขายหุ้นเพียงเพราะราคาวิ่งแรง อาจทำให้พลาดโอกาสถือหุ้นที่จะกำไร 3-4 เท่าในอนาคตได้
สำหรับผม ไม่ใช่เรื่องใจนิ่งหรือไม่นิ่งครับ ขอให้ให้ความสำคัญกับอนาคตของบริษัทให้มาก



No Name

โพสต์ โดย No Name » อาทิตย์ พ.ย. 09, 2003 9:58 pm

ขอบคุณครับ

ถ้าว่างจะแวะเข้ามาแสดงความเห็นในสิ่งที่รู้ หากเป็นประโยชน์กับบางท่านในห้องนี้



์No Name

โพสต์ โดย ์No Name » พุธ พ.ย. 12, 2003 9:59 pm

คุณ FE

เห็นด้วยเรื่องหุ้นหลายตัวเอาปัจจัยดีในอนาคต มาตีค่าเป้นราคาในปัจจุบัน

เพราะตลาดหุ้นเป็นเรื่องของอนาคต

ทำไมนักลงทุนซื้อหุ้น STANLY ทั้งที่ PE 20 กว่าเท่า

เพราะนักลงทุนคาดการณ์ว่า กำไรของ STANLY จะเติบโตสูงมาก จนค่า PE ลดลงในอนาคต

หากสิ่งที่คาดไว้ไม่เป็นจริง ย่อมส่งผลต่อราคาหุ้นเช่นกัน

ในฐานะที่เป้นนักลงทุนระยะยาวและเน้นปัจจัยพื้นฐาน ผมจึงต้องคอยติดตามผลการดำเนินและข่าวต่างๆ ของบริษัทที่ลงทุนไว้ เพื่อจะไช้ในการตัดสินใจที่จะขายหุ้นออกหรือซื้อหุ้นเพิ่มครับ



No Name

โพสต์ โดย No Name » พฤหัสฯ. พ.ย. 13, 2003 12:23 pm

เห็นด้วยกับคุณ Chatchai ว่า อนาคตเป้นสิ่งไม่แน่นอน

ผมจึงสรุปในตอนท้ายไงครับว่า

ในฐานะนักลงทุนระยะยาวและเน้นปัจจัยพื้นฐาน ผมจึงต้องติดตามผลการดำเนินงาน ปัจจัยต่างๆที่อาจส่งผลกระทบต่อบริษัท เพื่อใช้ในการตัดสินใจ ผมจะยังคงถือหุ้นนั้นอยู่ตราบใดที่แน้วโน้มธุรกิจยังดี หากมีปัจจัยลบจะต้องนำมาวิเคราะห์ว่า จะส่งกระทบต่อบริษัทอย่างไร

การลงทุนในหุ้นเป็นเรื่องของอนาคตต้องยอมรับว่ามีความไม่แน่นอนสูง นักลงทุนที่ดีและประสบความสำเร็จจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่จะรับความไม่แน่นอนที่จะเกิดในอนาคตครับ



No Name

โพสต์ โดย No Name » พุธ พ.ย. 19, 2003 11:29 pm

คุณลูกอีสาน ครับ

ไม่ต้องแปลกใจในตัวผมนะครับที่ผมยังไม่ขายหุ้น TCB แม้แต่หุ้นเดียว

ผมเห็นด้วยที่ว่า ค่า PE ณ.ราคานี้ แพงเกือบ 20 เท่า แต่ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า เป็นค่าที่คิดจากกำไรสุทธิของปีนี้ซึ่งมีข้อจำกัดของกำลังการผลิต

ในอนาคต การขยายกำลังการผลิตในประเทศ รวมทั้งการผลิตในจีนจะช่วยให้บริษัทมีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ PE ลดต่ำลง

ในตลาดหุ้นมีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยุ่เกินคาดหมาย อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน นักลงทุนที่ดีจะต้องเตรียมพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

ขอแสดงความยินดีอีกครั้งกับผุ้ถือหุ้น TCB ทุกท่านด้วยใจจริง



be TVI

โพสต์ โดย be TVI » พฤหัสฯ. พ.ย. 20, 2003 12:57 am

ผมก็เป็นอีกคนที่เริ่มลงทุนตอนกลางปีนี้ และ TCB ผมซื้อเป็นตัวที่ 2 ของ port ผมได้หุ้นตัวนี้ก็เพราะเข้ามาอ่านในนี้ ขอขอบคุณอีกครั้งครับสำหรับข้อมูลความรู้ ความคิดเห็น แต่ผมก็อ่าน form56-1 ประกอบการตัดสินใจด้วยครับ (บางครั้งผมคอยสังเกตุยางรถยนต์อยู่บ่อยๆซึ่งปั๊ม TCB made in Thailand ด้วยครับ) แต่เห็นราคาขึ้นมาขนาดนี้ก็หวั่นๆเหมือนกันครับทังที่ไตรมาสนี้ก็ไม่ได้กำไรมากมาย ไม่รู้จะเอายังไงดี ถ้าเป็นไปได้ผมว่าเอาแบบราคาค่อยๆขึ้นดีกว่าครับ



No Name

โพสต์ โดย No Name » พฤหัสฯ. พ.ย. 20, 2003 10:31 am

ดีใจกับคุณ be TVI ที่ได้หุ้น TCB จากการอ่านในห้องนี้

กำไรไตรมาสที่ 3 ปี 2546 ใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งเป้นไปตามที่ผมได้คาดไว้ เนื่องจากข้อจำกัดของกำลังการผลิต ไม่มีสิ่งใดน่าเป็นห่วง

สิ่งที่เราจะต้องติดตาม คือ กำไรในปี 2547 ซึ่งน่าจะเติบโตขึ้นจากการขยายกำลังการผลิตครับ หากกำไรไม่ดี ถึงเวลานั้น ค่อยพิจารณาขายออก

สำหรับผม ยังคงถือหุ้นต่อ เนื่องจากแนวโน้มธุรกิจของ TCB ยังดีมาก



be TVI

โพสต์ โดย be TVI » พฤหัสฯ. พ.ย. 20, 2003 8:10 pm

ผมทนไม่ไหวแล้วครับ ขายไปแล้วครับตอนเปิดเลย แต่แค่ 38% ครับ ที่เหลือเป็นกำไรปล่อยมันไปตามสบาย เลยทำ"ครายเครียดเรโช"ซะก่อน

กะว่าจะถือให้นานที่สุด อยากจะเป็นนักลงทุนที่ดี มีวินัย แต่ก็ไม่สามารถทนเห็นราคานี้ได้ :)



No Name

โพสต์ โดย No Name » พฤหัสฯ. พ.ย. 20, 2003 10:25 pm

คุณ thanwa

ผมยังถือหุ้น TCB อยู่ไม่ได้ขายเลยแม้แต่หุ้นเดียว เหตุผลต่างๆ ผมได้ชี้แจงไปแล้ว อีกอย่างผมเคยชินกับการเป็นนักลงทุนระยะยาวมาก หุ้นในพอร์ตผมส่วนใหญ่จะถือมานาน แทบไม่ได้ขายเลย ราคาส่วนใหญ่เพิ่ม 2-3 เท่า บางตัวเพิ่มเกือบ 20 เท่า (ตัวที่หลายๆท่านชอบมากในตอนนี้)

ผมถือหุ้นเหมือนทำธุรกิจร่วม ที่ผ่านมามีกำไรเยอะมาก ผมจึงเชื่อว่า เป็นแนวทางที่เหมาะสมกับผม และเป็นแนวทางที่ผมประสบผลสำเร็จ

ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผมจึงดำเนินการตามแนวทางที่ว่านี้มาตลอด ใครถามผม ผมก็บอกว่า ผมเป้นนักลงทุนระยะยาวพันธุ์แท้ ซึ่งมีหลักการแน่นอน

คำตอบของผม คงพอจะบอกได้ว่า ผมจะทำอย่างไรกับหุ้น TCB

สำหรับแนวทางของคุณ thanwa หรือคุณ ayethebing หรือ ท่านอื่น ท่านคงมีแนวทางการลงทุนของแต่ละท่านซึ่งเหมาะกับลักษณะนิสัยของแต่ละท่าน ซึ่งแต่ละแนวทางของแต่ละท่านก็สามารถประสบผลสำเร็จในการลงทุนในตลาดหุ้นได้เช่นกัน



No Name

โพสต์ โดย No Name » พฤหัสฯ. พ.ย. 20, 2003 10:43 pm

คุณ thanwa

คุณลูกอีสาน ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับ TCB ทั้งหมดแล้ว เป้นคำตอบที่ให้ภาพของ TCB ได้ชัดเจนมากและเป็นคำตอบที่ดีมากด้วย

ผมเห็นด้วยเรื่องราคาหุ้นเคลื่อนไหวหวือหวา และราคาได้รับรู้ผลการดำเนินในอนาคตแล้ว

ส่วนตัว ผมไม่ทราบว่า ราคาจะขึ้นไปที่ใด หรือจะลงไปที่ระดับใด

แต่ผมจะยังคงถือหุ้นบริษัทนั้นอยู่ตราบใดที่แนวโน้มธุรกิจยังดีอยู่

การเคลื่อนไหวของราคาบางครั้งไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของผม ดังที่ผมได้ชี้แจงไปแล้วว่า ผมเป็นนักลงทุนระยะยาว อีกประการหนึ่ง ต้นทุนของผมจะต่ำมาก จึงทำให้ผมสามารถถือหุ้น TCB ได้โดยไม่ต้องกังวลใดๆ



No Name

โพสต์ โดย No Name » พฤหัสฯ. พ.ย. 20, 2003 11:31 pm

คุณ ayethebing

หุ้นที่ว่าโต 20 เท่า คือ หุ้น STANLY ไงละครับ จำไม่ได้ว่าถือมานานเท่าไร

วัตถุประสงค์ของผมเพียงแต่จะบอกว่า

หากคุณลงทุนหุ้นถูกตัว และถือไว้ในระยะยาวพอสมควร คุณอาจจะได้รับผลตอบแทนหลายเท่า หุ้น STANLY เป็นตัวอย่างที่ดีตัวอย่างหนึ่งครับ

ลองเปิดใจให้กว้าง รับฟังความเห็นของผู้อื่นอย่างมีสติ คุณอาจจะพบหุ้นที่จะทำกำไรให้อย่างมหาศาล

เพียงคุณเปิดใจให้กว้าง..........



No Name

โพสต์ โดย No Name » ศุกร์ พ.ย. 21, 2003 12:06 am

คุณ ayethebing

หุ้นส่วนใหญ่ที่ผมขาย เนื่องจาก เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพื้นฐานไปในทางที่ไม่ดี หรือ มีหุ้นตัวอื่นที่น่าสนใจกว่า ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้สำหรับผมจะต้องมีการประเมินต่อเนื่องครับ

หากธุรกิจที่ถืออยู่มีแนวโน้มดี ผมจะถือหุ้นนั้นไปเรื่อยๆครับ

คำถามที่ว่า จะถือนานเท่าไร

ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน อาจจะตลอดไปก็ได้ครับ



CEO

โพสต์ โดย CEO » ศุกร์ พ.ย. 21, 2003 2:29 am

_ลูกอีสาน เขียน:ไม่ต้องสังสัยเลยครับ ว่า TCB เป็นบริษัทที่เป็นเิลิศในหลายๆด้าน..

ผู้นำองค์การที่เก่งมากๆ Mr.Srinivasan....
ผู้นำด้านคุณภาพระดับโลก Demming prize และกำลังทำ TQM...
อยู่ในอุตสาหกรรมที่สดใสคือยานยนต์ และได้รุกตลาดไปที่จีน...
เป็นบริษัทในเครือ Adiya Birla ซึ่งเป็นผู้นำด้านคาร์บอนแบล็คของโลก โดยมีโรงงานในอินเดีย ไทย และอียีปต์....

(เคยมีเพื่อนอินเดียที่ทำงานอยู่ที่ Cabot พอมันรู้ว่าผมลงทุนในหุ้นคาร์บอนแบล็คในประเทศไทย มันก็พูดเกทับผมว่า รู้ไหมโรงงานที่ไทยน่ะ กำลังจะไปไม่รอด จนต้องมาขอให้บริษัทมัน (Cabot) ช่วยซื้อกิจการ..
ผมได้ฟังแล้ว ไม่เชื่อมันครับ...จะเป็นไปได้อย่างไร..บริษัทมีกำไรตั้งมากมายทำไมต้องขายทิ้ง...ผมก็เลยไม่เชื่อมัน คิดว่ามันคงขี้คุยตามประสาแขกอินเดีย
ถ้าเชื่อมันคงขาดทุนกำไรไปหลายอัฐ)

แต่เรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจต่อ TCB คือเรื่องราคาตอนนี้ครับ ที่ขึ้นไปสูงมาก เสมือนรับรู้โครงการในอนาคตไว้ทั้งหมดแล้ว...ผมก็เลยต้องขอลา ทั้งที่ยังรักกัน..
รอวันใดราคาตกลง ค่อยมารับอีกที....ได้เงินมาก็เอาไปซื้อตัวใหม่ครับ ที่คิดว่าดี
และราคาสมเหตุสมผลครับ...

ขอชี้แจงนิดนะท่านลูกอีสาน
ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับราคาหุ้นตัวนี้นะครับ

บริษัทที่ได้ Demming Prize นั้นจะต้องทำ TQM และได้ผลอย่างยอดเยี่ยมถึงจะได้รางวัลนี้

ปรกติแล้วผมก็ยังเชื่อคติที่ว่า *เจอแขกพร้อมกับงูนั้น ให้ตีแขกก่อน*
เดี๋ยวรุ่นน้องที่ไม่มีความรู้จะไขว้เขวครับ



No Name

โพสต์ โดย No Name » ศุกร์ พ.ย. 21, 2003 11:06 am

เคยมีความเชื่อเช่นกันว่า เห็นงูกับแขกแล้วต้องตีแขกก่อน

แต่หลังจากที่ได้คุยกับหลายท่านรวมถึงผู้รู้ทั้งหลายในวงการ ผมได้เปลี่ยนความเชื่อดังกล่าวแล้ว เพราะผมพบว่า

แขกกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่เชื่อถือได้ ได้รับการไว้วางใจในวงการ ทำธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิ มีต้นทุนต่ำในการผลิต สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก

เท่าที่จำได้ เมื่อ 1-2 ปีที่แล้ว TCB ได้รับการจัดอันดับจาก Fobe ว่าเป็นบริษัทขนาดเล็กที่ยอดเยี่ยมของไทย

นอกจากนี้ กลุ่มนี้จะเน้นทำธุรกิจ ไม่เข้ามาเกี่ยวข้องกับราคาหุ้น



No Name

โพสต์ โดย No Name » ศุกร์ พ.ย. 21, 2003 11:56 am

ขอบคุณครับ คุณลุกอีสาน สำหรับข้อมูลที่นำมาเผยแพร่

คุณลูกอีสาน มีการจัดเก็บข้อมูลไว้ดี จะเป็นประโยชน์มากในการค้นคว้าและอ้างอิงในอนาคต

ขอให้ทำต่อเนื่องครับจะเป็นประโยชน์มากต่อการลงทุน



wpk

โพสต์ โดย wpk » จันทร์ พ.ย. 24, 2003 8:44 pm

ผมมีหุ้นนี้อยู่ที่ต้นทุนเฉลี่ย 13.5
เห็นราคาไหลลงมาจาก 44 -> 30 วันนี้ รู้สึกเสียดายจัง

แต่ผมยึดถือไว้ตั้งแต่เริ่มลงทุนแล้วว่าหุ้นตัวนี้จะถือยาว ไม่ขาย
เป็นหุ้นอีกตัวที่ทำให้ผมมีกำไรมาก ลบขาดทุนตัวอื่นได้หมด (ตีแตก)

มองให้ยาวเข้าไว้ ผลกระทบตอนนี้มันแค่ระยะสั้นเท่านั้น



wpk

โพสต์ โดย wpk » อังคาร พ.ย. 25, 2003 9:50 am

โห....... จะให้ลงไปถึง 14-16 บาทเลยหรือครับ
ยังงี้ต้องหาเงินมาซื้อเพิ่มอีก

กะว่าจะลอง short sell ดูบ้าง แต่ก็ไม่กล้าซะที กลัวซื้อกลับไม่ได้
มองย้อนหลังไปถ้าทำได้ คงกำไรน่าดู



wpk

โพสต์ โดย wpk » อังคาร พ.ย. 25, 2003 12:50 pm

ข่าวใหม่วันนี้

TCB ขยายฐานธุรกิจ ลงทุนในบริษัทร่วมค้ากับอิยิปต์ 27.50%

นายสุบารามาน ศรีนิวาสาท ประธานบริษัทบริษัท ไทยคาร์บอนแบล็ค จำกัด
(มหาชน) (TCB) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ ครั้งที่ 5/2003
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2546 ได้มีมติอนุมัติการลงทุนในประเทศอียิปต์ เพื่อผลิต
และจำหน่าย Acrylic Fiber
สำหรับรายละเอียดการลงทุนในประเทศอียิปต์นั้น เป็นบริษัทร่วมค้า โดย
เป็นการลงทุนร่วมค้าระหว่าง
1. THAI CARBON BLACK PUBLIC COMPANY LIMITED, Thailand
2. THAI RAYON PUBLIC COMPANY LIMITED, Thailand
3. SAUDI EGYPTIAN INDUSTRIAL INVESTMENT COMPANY,
Egypt
4. SIDI KERIR PETROCHEMICALS COMPANY, Egypt
5. ARAB PETROLEUM INVESTMENT CORPORATION, Saudi
Arabia
6. ALEXANDRIA CARBON BLACKCO., SAE, Egypt
ชื่อบริษัทร่วมค้า ALEXANDRIA FIBER CO. S.A.E., Alexandria,
Egypt มูลค่าการลงทุน ประมาณ Egyptian Pound LE 424.00 million หรือ
ประมาณ US$ 68.90 million โครงสร้างเงินลงทุน แบ่งเป็นส่วนทุน = Egyptian
Pound 150.00 million (ประมาณ US$ 24.12 million) เงินกู้จากสถาบันการเงิน =
Egyptian Pound 274.00 million (ประมาณ US$ 44.78 million)
โครงสร้างการถือหุ้น ส่วนทุนรวม Egyptian Pound 150.00 million
(ประมาณ US$ 24.12 million) THAI CARBON BLACK PUBLIC COMPANY
LIMITED, Thailand ประมาณ 27.50% (เทียบเท่ากับ US$ 6.63 million) THAI
RAYON PUBLIC COMPANY LIMITED, Thailand ประมาณ 27.50% (เทียบเท่า
กับ US$ 6.63 million) SAUDI EGYPTIAN INDUSTRIAL INVESTMENT
COMPANY, Egypt ประมาณ 20% (เทียบเท่ากับ US$ 4.83 million) ARAB
PETROLEUM INVESTMENT CORPORATION, Saudi Arabia ประมาณ
10% (เทียบเท่ากับ US$ 2.41 million) SAUDI EGYPTIAN INDUSTRIAL
INVESTMENT COMPANY, Egypt ประมาณ 10% (เทียบเท่ากับ US$2.41 million)
และ ALEXANDRIA CARBON BLACKCO., SAE, Egypt ระมาณ 5% (เทียบเท่า
กับ US$1.21 million) มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ LE 10 ต่อหุ้น
จำนวนหุ้นรวม 15,000,000 หุ้น เป็นส่วนของ บริษัท ไทยคาร์บอนแบล็ค
จำกัด (มหาชน) จำนวน 4,125,000 หุ้น ประเภทธุรกิจผลิตและจำหน่าย Acrylic Fiber
ด้วยกำลังการผลิต 18,000 เมตริกตัน ต่อปี ส่วนผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ เพื่อขยาย
ธุรกิจไปในธุรกิจ Acrylic Fiberเพื่อขยายฐานธุรกิจไปยังประเทศอียิปต์ และตลาดใกล้เคียง
เพื่อรับเงินปันผล
แหล่งเงินทุน บริษัท ไทยคาร์บอนแบล็ค จำกัด (มหาชน) ใช้เงินทุนของบริษัท
ในการลงทุน จะเริ่มลงทุนในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 หรือ ไตรมาสที่ 1 ของปี 2547
การลงนามใน MOU ลงนามใน MOU วันที่ 17 กันยายน 2546



CEO

โพสต์ โดย CEO » อังคาร พ.ย. 25, 2003 5:57 pm

โอ้โห เซ็น MOU กันไป 2 เดือนกว่าแล้ว
ปิดกันเงียบเชียบเชียวครับ



ล็อคหัวข้อ