Concept Stock/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

บทความต่างๆที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
ตอบกลับโพส
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
กระทู้: 1243
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 11, 2012 10:42 pm

Concept Stock/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ โดย Thai VI Article » จันทร์ ส.ค. 18, 2014 2:49 pm

โค้ด: เลือกทั้งหมด

    ในช่วงนี้ถ้ามี  “ข่าวลือ”  หรือมีการประกาศว่าบริษัทจะทำ  “Solar Farm” ราคาหุ้นก็มักจะ  “วิ่งระเบิด”  ว่าที่จริงแค่บอกว่าบริษัทจะหันมาทำกิจการ  “พลังงานทดแทน” ราคาหุ้นก็ “วิ่ง” แล้ว  ดูเหมือนว่านักลงทุนหรือคนเล่นหุ้นจำนวนมากต่างก็คิดว่าพลังงานทดแทนนั้นเป็นธุรกิจที่มีอนาคตที่สดใสและเติบโตมาก  ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ  คนคิดว่าบริษัทที่จะทำพลังงานทดแทนนั้น  จะต้องประสบความสำเร็จและจะมีกำไรที่เติบโตมาก  ดังนั้น  ค่า PE ที่ให้กับหุ้นก็จะสูงลิ่ว  บางทีเป็นหลายสิบเท่า  หรือบางทีก็เป็นร้อยเท่า  ทำให้คนที่เข้าไปเล่น “รวย” ไปตาม ๆ  กัน  แต่ความเป็นจริงนั้น  ราคาหุ้นก็อาจจะขึ้นไปในระยะสั้นเพียงแค่ไม่กี่เดือนหรือน้อยกว่านั้นซึ่งทำให้คนที่เข้าไปเล่นในช่วงที่ราคาขึ้นไปแล้วขาดทุน  บางบริษัทที่ดูมี  “น้ำหนัก”  เช่น  บริษัทมีใบอนุญาตหรือมีสัญญาที่จะขายพลังงานให้กับหน่วยงานรัฐชัดเจนแล้วในระดับหนึ่ง  ราคาหุ้นก็อาจจะวิ่งไปได้ยาวและอาจจะสูงอยู่ได้นานเป็นปีหรืออาจจะมากกว่านั้น  อย่างไรก็ตาม  จากการวิเคราะห์ดูถึงผลตอบแทนที่บริษัทจะได้จากการลงทุนในเรื่องพลังงานทดแทนแล้วเราก็จะพบว่า  ผลตอบแทนที่แท้จริงของแต่ละโครงการก็เป็นผลตอบแทน “ปกติ”  เช่น  ประมาณ 10%  ต่อปี บวก-ลบ จากเงินลงทุน  ดังนั้น  มูลค่าของกิจการหรือราคาหุ้นก็ไม่ควรจะขึ้นไปมาก  แต่การที่หุ้นวิ่งขึ้นไปมากนั้น  ผมคิดว่ามันคงมีลักษณะของการเป็นหุ้น  “ขายฝัน”  หรือเป็น  “Concept Stock”(CS)

    เรื่องของ CS นั้น  เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดเวลาโดยเฉพาะในยามที่ตลาดหุ้นบูมเป็นกระทิง  หุ้นที่จะเป็น CS นั้น  จะเป็นบริษัทที่อยู่ในธุรกิจที่กำลังเป็นแนวโน้มหรือเป็นเทรนด์ใหม่ของเศรษฐกิจหรือสังคม  ดังนั้น  การเติบโตจะสูงมากและยังไม่มีผู้ชนะที่เด็ดขาดหรือชัดเจนหรือยังไม่รู้ว่าใครจะล้มเหลว  ทุกบริษัทต่างก็มี  “ความฝันที่ยิ่งใหญ่”  นั่นคือ  บริษัทจะเติบโตและทำกำไรเพิ่มขึ้นมหาศาล  บริษัทที่อยู่ในตำแหน่งที่ดีก็จะมีคนเข้าไปซื้อมากมายทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นเหนือกว่ามูลค่าจากการประเมินราคาทุกวิธี  บริษัทที่ดูเหมือนว่ายังไม่มีประสบการณ์พอหรือมีขนาดเล็กเองก็ยังได้ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นเพียงแค่เอ่ยว่าจะเข้ามาทำธุรกิจหรือแค่เปลี่ยนชื่อบริษัท  มาดูกันว่าอะไรที่เป็น  เคยเป็น  หรือมีโอกาสที่จะกลายเป็น  Concept Stock ได้

    กลุ่มแรกก็คือสิ่งที่ผมขึ้นต้นบทความนั่นก็คือ  พลังงานทดแทน  นี่คือ CS ที่กำลังร้อนแรงมากในตลาดหุ้นไทย  ในระดับโลกเองนั้น  ผมไม่ได้ศึกษาว่ากลุ่มหุ้นที่ทำพลังงานทดแทนนั้นเป็นหุ้น CS หรือไม่  ความรู้สึกก็คืออาจจะไม่  เพราะผมคิดว่าเรื่องนี้ในประเทศพัฒนานั้นมีการทำกันมานานแล้ว  เทคโนโลยีเองก็ไม่ได้มีอะไรที่เป็นลักษณะของการ  “ปฏิวัติ” อุตสาหกรรมพลังงานอะไร  ว่าที่จริงในช่วงหลังที่มีการค้นพบวิธีการขุดก๊าซธรรมชาติ Shale Gas ที่ทำให้ได้ก๊าซราคาถูกในอเมริกา  เทรนด์ของพลังงานทดแทนก็อาจจะชะลอตัวได้  ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร  การผลิตพลังงานทดแทนนั้น  อาจจะไม่ใช่ธุรกิจที่ทำกำไรอะไรได้มากมายนัก  เหตุผลอาจจะเพราะว่ามันยังเป็นพลังงานที่ยังไม่สามารถผลิตในเชิงพาณิชย์ล้วน ๆ ได้  ดังนั้น มันจึงไม่สามารถโตและทำกำไรได้ได้ด้วยตัวเอง

    CS ที่มักจะก่อให้เกิดความร้อนแรงของราคาหุ้นกลุ่มต่อมาก็คือ  หุ้น “Turnaround”  นี่คือหุ้นของบริษัทที่ถูกทำให้  “ฟื้นตัว”  จากภาวะวิกฤติของบริษัทโดยเฉพาะจากผู้บริหารและผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่ที่มีศักยภาพทางการเงิน   การฟื้นธุรกิจนั้นเองส่วนมากก็เป็นลักษณะของการเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่ทำอยู่  บ่อยครั้งก็เป็นการนำกิจการที่มีกำไรมาใส่ในบริษัทซึ่งทำให้ดูเหมือนว่าบริษัทจะประสบความสำเร็จในการฟื้นตัวอย่างแน่นอน  ผลก็คือ  คนก็แห่กันมาเล่นหุ้นและทำให้ราคาปรับตัวขึ้นไปมากมาย  บางทีเป็นสิบเท่าในเวลาไม่นาน  องค์ประกอบของความสำเร็จในการฟื้นกิจการอีกอย่างหนึ่งที่เริ่มจะมองเห็นในช่วงเร็ว ๆ  นี้ก็คือ  การมี “Turnaround Artist”  หรือนักฟื้นกิจการที่นักลงทุนเชื่อถือว่าจะสามารถทำการให้ประสบความสำเร็จ  อย่างน้อยในด้านของการเพิ่มราคาหุ้นในระยะเวลาอันสั้น

    CS อีกกลุ่มหนึ่งที่มีบางสิ่งบางอย่างใกล้เคียงกับหุ้นฟื้นตัวก็คือหุ้น “นัก Takeover” หรือบริษัทจดทะเบียนที่ใช้กลยุทธ์การเติบโตที่รวดเร็วโดยการซื้อกิจการไม่ว่าจะเป็นกิจการใหม่ที่เกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องกับกิจการเดิม  หรือเป็นการเทคโอเวอร์กิจการแบบเดียวกันซึ่งก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีกเนื่องจากบริษัทอาจจะได้ประโยชน์ในด้านของ Economies of Scale หรือการทำให้บริษัทมีขนาดใหญ่ขึ้นจนเกิดการประหยัดในด้านของต้นทุน  บริษัทที่ทำการ  “เทคโอเวอร์อย่างต่อเนื่อง”  ดูเหมือนจะกลายเป็น CS ที่ตลาดให้มูลค่าที่สูงลิ่วและโตขึ้นไปเรื่อย ๆ  ในช่วงเร็ว ๆ  นี้  และก็เช่นเดียวกับเรื่องของหุ้น Turnaround  ก็ก่อให้เกิด “Takeover Artist”  หรือ “ศิลปิน” หรือเซียนทางด้านการควบรวมกิจการ  ซึ่งก็จะกลายเป็นมหาเศรษฐีในแวดวงตลาดหุ้นไทย

    หุ้นที่อาจจะถือว่าเป็น  Concept Stock กลุ่มหนึ่งของตลาดหุ้นไทยโดยเฉพาะในอดีตย้อนหลังไปซัก 10 ปีก็คือหุ้นกลุ่ม Modern Trade หรือค้าปลีกสมัยใหม่ นี่คือบริษัทจดทะเบียนที่ค้าปลีกสินค้าผ่านเครือข่ายทั่วประเทศซึ่งเริ่มเติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็วแทนร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม  เมื่อแนวคิดนี้เริ่มต้นขึ้นมาก็จะพบว่าเกิดจากสินค้าจำเป็นก่อน  ต่อมาสินค้าอย่างอื่นก็เริ่มซื้อขายผ่าน Modern Trade มากขึ้นเรื่อย ๆ  จนกลายเป็นกระแส  หุ้นในตลาดที่ทำธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่เกือบทุกตัวก็ทยอยปรับตัวขึ้นไปจากหุ้นที่มีค่า PE ประมาณ 10 เท่าหรือต่ำกว่าก็กลายเป็นหุ้นที่มี PE สูงลิ่วหลายสิบเท่าจนถึงปัจจุบัน

    หุ้นที่จะเป็น CS นั้น  น่าจะเป็นสิ่งที่นักลงทุนที่หวังสร้างผลกำไรหรือผลตอบแทนสูงต่างก็แสวงหา  แนวทางนั้นน่าจะอยู่ที่การมองไปข้างหน้า  ดูว่าอะไรเป็นสิ่งที่เราขาดแคลนและต้องการเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาสำคัญของประเทศหรือสังคมในขณะที่ผู้เล่นหรือผู้ผลิตหรือให้บริการมีไม่พอ  ในอีกด้านหนึ่งการมองหา CS ก็อาจจะต้องเป็นเรื่องของการสังเกตหรือติดตามเหตุการณ์หรือเรื่องราวที่เกิดขึ้นรอบตัว  มองว่ามีสินค้าใหม่อะไรที่คนกำลังเริ่มใช้มากขึ้นและมีแนวโน้มว่าจะใช้ต่อไปอีกนานและมีผู้ให้บริการที่เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีศักยภาพสูงในการเข้ามาให้บริการหรือแข่งขัน   แต่แม้ว่าเราจะชำนาญหรือมีประสบการณ์มากเพียงไรก็ยังเป็นเรื่องยากอยู่ดีที่จะบอกได้ชัดเจนว่าอะไรจะเป็น CS ในอนาคต   ถ้าจะให้ผมเดาว่าภาคไหนของธุรกิจหรืออุตสาหกรรมอะไรที่น่าสนใจและอาจจะมีโอกาสเกิด CS ได้  ผมก็คิดว่าเรื่องของ Logistic ที่เกี่ยวกับการคมนาคมขนส่งเป็นกลุ่มหนึ่ง  อีกกลุ่มหนึ่งก็อาจจะเป็นเรื่องของการขายปลีกผ่านช่องทางที่เกี่ยวข้องกับอินเตอร์เน็ตก็อาจจะมาได้  ว่าที่จริงในต่างประเทศก็เกิดขึ้นแล้ว  นอกจากนั้นก็อาจจะมีเรื่องของธุรกิจที่  “ก้าวสู่ประชาคมอาเซียน” ที่ใกล้จะรวมเป็นหนึ่งเดียว  เป็นต้น

    ก่อนที่จะจบบทความผมคงต้องเตือนให้เห็นถึง “อันตราย”  จากการเล่นหุ้น CS ด้วยว่ามันมาพร้อม ๆ  กับผลตอบแทนสูงที่คาดว่าจะได้รับ  ว่าที่จริงคนที่ขาดทุนอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ  เหตุผลก็เพราะว่าเมื่อกลายเป็น  “Concept”  ไปแล้ว  นักลงทุนก็มักคิดไปว่าหุ้นทุกตัวที่ทำธุรกิจหรือมีแนวทางการทำธุรกิจแบบนั้นก็จะต้องดีหรือประสบความสำเร็จไปด้วยซึ่งไม่จริง  ดังนั้น  ถ้าเราเข้าไปซื้อหุ้นโดยโดยเฉพาะที่ราคาขึ้นไปสูงมากแล้วเราก็อาจจะขาดทุนได้มาก  นอกจากนั้น  ค่าที่คนเชื่อและเข้าไปเล่นมาก  ก็มีโอกาสที่จะเกิดการ “ฉ้อฉล”  โดยผู้บริหารบริษัทเจ้าเล่ห์บางคนที่ต้องการ  “ปั่นหุ้น”  โดยอาศัย Concept ที่กำลังเป็นที่นิยม  ตัวอย่างหุ้น  Enron ในธุรกิจพลังงาน และหุ้น World Com ในกลุ่มสื่อสารของอเมริกาควรจะเป็นเรื่องเตือนใจพวกเราให้ระมัดระวังเป็นพิเศษเวลาคิดเล่นหุ้น CS
[/size]



ตอบกลับโพส