STANLY
- - - - - - - - - - - Board - - - - - - - - - - - - Position
MR. VITYA LEEISSARANUKUL - - - - - - - CHAIRMAN
MR. HIROYUKI NAKANO - - - - - - - - - - PRESIDENT
MR. TOMOICHIRO HORI - - - - - - - - - - VICE CHAIRMAN
MR. HIROYUKI NAKANO - - - - - - - - - - DIRECTOR
MR. THANONG LEEISSARANUKUL - - - - DIRECTOR
MR. AKIRA HOSODA - - - - - - - - - - - - - DIRECTOR
MR. TOSHIO UCHIKAWA - - - - - - - - - - DIRECTOR
MR. MASAHIRO NAKAMURA - - - - - - - - DIRECTOR
MR. APICHART LEEISSARANUKUL - - - - DIRECTOR
MR. YUJI MUNECHIKA -- - - - - - - - - - - DIRECTOR
MRS. PORNTIP SETHIWAN -- - - - - - - - DIRECTOR
MRS. PIMJAI LAOCHINDA - - - - - - - - - DIRECTOR
MR. AKIHIRO NAKAMURA - - - - - - - - - DIRECTOR
MRS. PORNDEE LEEISSARANUKUL - - - - DIRECTOR
MR. KIAT SHINNO - - - - - - - - - - - - - - INDEPENDENT DIRECTOR
MR. CHOKECHAI TANPOONSINTHANA - INDEPENDENT DIRECTOR
MR. KIAT SHINNO - - - - - - - - - - - - - - CHAIRMAN OF THE AUDIT COMMITTEE
DR. KRISADA VISAVATEERANON - - - - - AUDIT COMMITTEE
MR. CHOKECHAI TANPOONSINTHANA - AUDIT COMMITTEE
MR. VITYA LEEISSARANUKUL - - - - - - - CHAIRMAN
MR. HIROYUKI NAKANO - - - - - - - - - - PRESIDENT
MR. TOMOICHIRO HORI - - - - - - - - - - VICE CHAIRMAN
MR. HIROYUKI NAKANO - - - - - - - - - - DIRECTOR
MR. THANONG LEEISSARANUKUL - - - - DIRECTOR
MR. AKIRA HOSODA - - - - - - - - - - - - - DIRECTOR
MR. TOSHIO UCHIKAWA - - - - - - - - - - DIRECTOR
MR. MASAHIRO NAKAMURA - - - - - - - - DIRECTOR
MR. APICHART LEEISSARANUKUL - - - - DIRECTOR
MR. YUJI MUNECHIKA -- - - - - - - - - - - DIRECTOR
MRS. PORNTIP SETHIWAN -- - - - - - - - DIRECTOR
MRS. PIMJAI LAOCHINDA - - - - - - - - - DIRECTOR
MR. AKIHIRO NAKAMURA - - - - - - - - - DIRECTOR
MRS. PORNDEE LEEISSARANUKUL - - - - DIRECTOR
MR. KIAT SHINNO - - - - - - - - - - - - - - INDEPENDENT DIRECTOR
MR. CHOKECHAI TANPOONSINTHANA - INDEPENDENT DIRECTOR
MR. KIAT SHINNO - - - - - - - - - - - - - - CHAIRMAN OF THE AUDIT COMMITTEE
DR. KRISADA VISAVATEERANON - - - - - AUDIT COMMITTEE
MR. CHOKECHAI TANPOONSINTHANA - AUDIT COMMITTEE
As of========== 2003===== 2002===== 2001===== 2000===== 1999
========= 31/01/2003= 31/01/2002= 31/01/2001= 31/01/2000= 31/01/1999
Assets======= 3,438.87 ===2,783.39 === 2,473.85 === 2,388.89 ===2,129.78
Liabilities====== 1,192.68 ==== 911.18 ==== 863.72 ==== 972.65 ==== 826.15
Equity======= 2,246.19 === 1,872.21 === 1,610.14 === 1,416.24 ===1,303.63
Paid-up Capital====383.12 ==== 383.12 ==== 383.12 ==== 383.12 ==== 383.12
Revenue======4,535.02 === 3,868.41 === 3,469.47 ===2,553.04 === 1,926.12
Net Profit=======483.17 ==== 338.28 ==== 236.04 ==== 112.61 = === -61.13
EPS(Baht)*====== 12.61 ======8.83 ======6.16 ======2.94 ======= -
ROA(%)*======= 21.55 =====17.83 ===== 11.61 ======7.41 ===== 0.78
ROE(%)*======= 23.46 =====19.43 ===== 15.60 ======8.28 ===== -4.69
Net Profit Margin(%)=10.65 ===== 8.74 ====== 6.80 ======4.41 ===== -3.17
As of====== 15/08/2003 = 27/12/2002 = 28/12/2001 = 29/12/2000 = 30/12/1999
P/E===========15.60 =====11.78 ===== 5.72 ====== 3.92 ===== N.A.
P/BV===========3.94 ===== 2.46 ===== 1.02 ====== 0.57 ===== 1.08
Dvd. Yield(%)===== 1.67 ===== 2.12 ===== 4.19 ====== 4.73 ===== N.A.
Last Price(Baht)===252.00 ====137.00 ==== 47.75 ===== 23.25 ======38.50
Market Cap.====9,654.75 ===5,248.81 == 1,829.42 =====890.77 === 1,475.03
========= 31/01/2003= 31/01/2002= 31/01/2001= 31/01/2000= 31/01/1999
Assets======= 3,438.87 ===2,783.39 === 2,473.85 === 2,388.89 ===2,129.78
Liabilities====== 1,192.68 ==== 911.18 ==== 863.72 ==== 972.65 ==== 826.15
Equity======= 2,246.19 === 1,872.21 === 1,610.14 === 1,416.24 ===1,303.63
Paid-up Capital====383.12 ==== 383.12 ==== 383.12 ==== 383.12 ==== 383.12
Revenue======4,535.02 === 3,868.41 === 3,469.47 ===2,553.04 === 1,926.12
Net Profit=======483.17 ==== 338.28 ==== 236.04 ==== 112.61 = === -61.13
EPS(Baht)*====== 12.61 ======8.83 ======6.16 ======2.94 ======= -
ROA(%)*======= 21.55 =====17.83 ===== 11.61 ======7.41 ===== 0.78
ROE(%)*======= 23.46 =====19.43 ===== 15.60 ======8.28 ===== -4.69
Net Profit Margin(%)=10.65 ===== 8.74 ====== 6.80 ======4.41 ===== -3.17
As of====== 15/08/2003 = 27/12/2002 = 28/12/2001 = 29/12/2000 = 30/12/1999
P/E===========15.60 =====11.78 ===== 5.72 ====== 3.92 ===== N.A.
P/BV===========3.94 ===== 2.46 ===== 1.02 ====== 0.57 ===== 1.08
Dvd. Yield(%)===== 1.67 ===== 2.12 ===== 4.19 ====== 4.73 ===== N.A.
Last Price(Baht)===252.00 ====137.00 ==== 47.75 ===== 23.25 ======38.50
Market Cap.====9,654.75 ===5,248.81 == 1,829.42 =====890.77 === 1,475.03
มาช่วย update ให้ค่ะ..
STANLY สรุปผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) ตรวจ สอบ
สิ้นสุดวันที่ 31 มกราคม (หน่วย : พันบาท) งวด 1 ปี 2547 46 กำไร(ขาดทุน)สุทธิ 764,059 483,172 กำไร(ขาดทุน)สุทธิต่อหุ้น(บาท) 19.94 12.61
ไตรมาสที่ 3 งวด 9 เดือน ปี 2546 2545 2546 2545 กำไร(ขาดทุน)สุทธิ 188,306 157,830 642,185 371,612 กำไร(ขาดทุน)สุทธิต่อหุ้น(บาท) 4.92 4.12 16.76 9.70
16 มีนาคม 2547เรื่อง
ขอชี้แจงเหตุผลเกี่ยวกับผลการดำเนินงานเปลี่ยนแปลง
เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมนี้ บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) ขอชี้แจงเกี่ยวกับผลการดำเนินงานมีการเปลี่ยนแปลงเกินกว่าร้อยละ 20 จากงวดเดียวกันของปีก่อน ดังนี้
ยอดขาย ในช่วงปี 2546 ที่ผ่านมา บริษัท มียอดขายทั้งสิ้น 6,053.227 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน(2545) ซึ่งมียอดขาย 4,403.515 ล้านบาท ถึง 1,649.712 ล้านบาท หรือ 37.46% อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ มีการปรับตัวดีขึ้น อย่างมาก ธนาคารได้มีการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ตลาดหลักทรัพย์มีการปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับ จึงส่งผลต่อการกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องจากปีที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบริษัทโดยตรง โดยในปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมรถยนต์มียอดจำหน่ายในประเทศทั้งสิ้น 533,000 คัน เพิ่มขึ้น 30.31% ส่วนยอดจำหน่ายจักรยานยนต์ในประเทศทั้งสิ้น 1,755,000 คันเพิ่มขึ้น 32.25%ยอดกำไร (ขาดทุน) ในช่วงปี 2546 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดกำไรทั้งสิ้น 764.059 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกับของปีก่อน ซึ่งมียอดกำไร 483.172 ล้านบาท ถึง 280.887 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 58.13% อันเป็นผลสืบเนื่องมาจาก ปัจจัยดังต่อไปนี้
1. บริษัทมีการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตอย่างต่อเนื่องโดยนำเอาระบบ SNAP (Stanley New Access for higher Productivity) เข้ามาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการใช้ทรัพยากร อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและมีการขยายผลไปยังทุกหน่วยงานในบริษัท
2. บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมาก ถึง 37.46% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นระดับยอด ขายสูงสุดของบริษัท จึงส่งผลทางด้าน ECONOMICAL OF SCALE
3. บริษัทมีการพัฒนาแหล่งวัตถุดิบภายในประเทศทดแทนการนำเข้าอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้ มีต้นทุนวัตถุดิบที่ต่ำลงเป็นลำดับ
4. บริษัทมีการบริหารและจัดการด้านการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ดังจะเห็นได้จากการลดวงเงิน กู้ การลดลงของหนี้สิน ทั้งระบบ ในขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 37.46%
5. บริษัทมีการบริหารสินค้าคงเหลืออย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ สินค้าคงเหลือกลับลดลงถึง 19.30%
....เอ copy มาวางทำไมมันดูเละเทะยังงี้เนี่ย แฮ่ะๆ อ่านยากกันนิดนึงนะคะ ..
คนมันยังไม่เคยทำอ่ะ ครั้งแรกเลยนะเนี่ย ถ้าใครมีเทคนิคในการทำให้ง่ายและ
ดูดีกว่านี้ ช่วยบอกบ้างจิ ...วันหลังจะได้คาบข่าวมาฝากอีกเยอะๆเลย........
....เอ ว่าแต่เพื่อนๆพี่มีความเห็นยังไงกันบ้างเกี่ยวกะผลการดำเนินงานล่าสุดนี่มั่งคะ......
...อ้อ ลืมอีกข่าว ปันผล 6.5 บาทค่ะ แถมแตกพาร์จาก 10 เป็น 5 บาทอีกต่างหาก....2 เด้งเลย...
STANLY สรุปผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) ตรวจ สอบ
สิ้นสุดวันที่ 31 มกราคม (หน่วย : พันบาท) งวด 1 ปี 2547 46 กำไร(ขาดทุน)สุทธิ 764,059 483,172 กำไร(ขาดทุน)สุทธิต่อหุ้น(บาท) 19.94 12.61
ไตรมาสที่ 3 งวด 9 เดือน ปี 2546 2545 2546 2545 กำไร(ขาดทุน)สุทธิ 188,306 157,830 642,185 371,612 กำไร(ขาดทุน)สุทธิต่อหุ้น(บาท) 4.92 4.12 16.76 9.70
16 มีนาคม 2547เรื่อง
ขอชี้แจงเหตุผลเกี่ยวกับผลการดำเนินงานเปลี่ยนแปลง
เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมนี้ บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) ขอชี้แจงเกี่ยวกับผลการดำเนินงานมีการเปลี่ยนแปลงเกินกว่าร้อยละ 20 จากงวดเดียวกันของปีก่อน ดังนี้
ยอดขาย ในช่วงปี 2546 ที่ผ่านมา บริษัท มียอดขายทั้งสิ้น 6,053.227 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน(2545) ซึ่งมียอดขาย 4,403.515 ล้านบาท ถึง 1,649.712 ล้านบาท หรือ 37.46% อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ มีการปรับตัวดีขึ้น อย่างมาก ธนาคารได้มีการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ตลาดหลักทรัพย์มีการปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับ จึงส่งผลต่อการกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องจากปีที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบริษัทโดยตรง โดยในปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมรถยนต์มียอดจำหน่ายในประเทศทั้งสิ้น 533,000 คัน เพิ่มขึ้น 30.31% ส่วนยอดจำหน่ายจักรยานยนต์ในประเทศทั้งสิ้น 1,755,000 คันเพิ่มขึ้น 32.25%ยอดกำไร (ขาดทุน) ในช่วงปี 2546 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดกำไรทั้งสิ้น 764.059 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกับของปีก่อน ซึ่งมียอดกำไร 483.172 ล้านบาท ถึง 280.887 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 58.13% อันเป็นผลสืบเนื่องมาจาก ปัจจัยดังต่อไปนี้
1. บริษัทมีการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตอย่างต่อเนื่องโดยนำเอาระบบ SNAP (Stanley New Access for higher Productivity) เข้ามาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการใช้ทรัพยากร อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและมีการขยายผลไปยังทุกหน่วยงานในบริษัท
2. บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมาก ถึง 37.46% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นระดับยอด ขายสูงสุดของบริษัท จึงส่งผลทางด้าน ECONOMICAL OF SCALE
3. บริษัทมีการพัฒนาแหล่งวัตถุดิบภายในประเทศทดแทนการนำเข้าอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้ มีต้นทุนวัตถุดิบที่ต่ำลงเป็นลำดับ
4. บริษัทมีการบริหารและจัดการด้านการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ดังจะเห็นได้จากการลดวงเงิน กู้ การลดลงของหนี้สิน ทั้งระบบ ในขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 37.46%
5. บริษัทมีการบริหารสินค้าคงเหลืออย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ สินค้าคงเหลือกลับลดลงถึง 19.30%
....เอ copy มาวางทำไมมันดูเละเทะยังงี้เนี่ย แฮ่ะๆ อ่านยากกันนิดนึงนะคะ ..
คนมันยังไม่เคยทำอ่ะ ครั้งแรกเลยนะเนี่ย ถ้าใครมีเทคนิคในการทำให้ง่ายและ
ดูดีกว่านี้ ช่วยบอกบ้างจิ ...วันหลังจะได้คาบข่าวมาฝากอีกเยอะๆเลย........
....เอ ว่าแต่เพื่อนๆพี่มีความเห็นยังไงกันบ้างเกี่ยวกะผลการดำเนินงานล่าสุดนี่มั่งคะ......
...อ้อ ลืมอีกข่าว ปันผล 6.5 บาทค่ะ แถมแตกพาร์จาก 10 เป็น 5 บาทอีกต่างหาก....2 เด้งเลย...
จาก กิมเอ็ง
บมจ.ไทยสแตนเลยการไฟฟา (STANLY) ไดจัดประชุมนักวิเคราะหเมื่อวาน (23 มี.ค. 2547) ผูบริหารไดชี้แจงสาเหตุที่
ผลประกอบการไตรมาสสี่คอนขางนาผิดหวังเกิดจาก (1) มีการจายโบนัสใหพนักงานเพิ่มขึ้น 27 ลานบาท (2) มีการ
ปรับเปลี่ยนการลงบัญชีในการจายเงินเดือนที่เร็วขึ้นทําใหมีรายจายที่ไมใชตัวเงินเพิ่มขึ้น 30 ลานบาท (3) การตัดจายคา
เสื่อมเพิ่มขึ้นจากโรงงานแหงใหม และ (4) โรงงานแหงใหมที่นวนครเริ่มผลิตทําใหมีของเสียสูงในชวงแรก
บมจ.ไทยสแตนเลยการไฟฟา (STANLY) ไดจัดประชุมนักวิเคราะหเมื่อวาน (23 มี.ค. 2547) ผูบริหารไดชี้แจงสาเหตุที่
ผลประกอบการไตรมาสสี่คอนขางนาผิดหวังเกิดจาก (1) มีการจายโบนัสใหพนักงานเพิ่มขึ้น 27 ลานบาท (2) มีการ
ปรับเปลี่ยนการลงบัญชีในการจายเงินเดือนที่เร็วขึ้นทําใหมีรายจายที่ไมใชตัวเงินเพิ่มขึ้น 30 ลานบาท (3) การตัดจายคา
เสื่อมเพิ่มขึ้นจากโรงงานแหงใหม และ (4) โรงงานแหงใหมที่นวนครเริ่มผลิตทําใหมีของเสียสูงในชวงแรก
ส่วนแบ่งตลาดเมื่อเทียบกับคูแข่ง
ส่วนแบ่งการตลาดของคุณ สามารถบอกได้ไหมว่าคือ บริษัทไหน กีเปอร์เซ็นต์ สำหรับหลอดไฟรถยนตร์ และหลอดไฟรถจักรยานยนตร์
แค่ประโยคนี้ก็แสดงว่ายังไม่เข้าใจ VI แล้วครับIceberg_s เขียน:เพราะเข้าใจว่า vi ไม่ดูราคา แต่ดูปัจจัยพื้นฐาน
VI = Value Investment ก็คือการลงทุนโดยใช้เงินจำนวนน้อยกว่า (หรือสมกับ) มูลค่าของสินทรัพย์ที่เราได้มา
แต่การหามูลค่าที่เหมาะสมนั้น มีหลากหลายวิธีมาก จากง่ายไปหายาก
เราต้องศึกษาว่าวิธีไหน เหมาะกับธุรกิจประเภทใด และที่สำคัญเหมาะสมกับเรามากที่สุด
ต่อให้ปัจจัยพื้นฐานสูงส่งยังไง ถ้าราคาแพงเกินราคาเหมาะสมไปมากก็ไม่สนครับ
เสี่ยงเกินไป ถ้าบริษัทไม่ได้เติบโตอย่างที่หวังไว้