ผมละงงกับ PSL มากๆเลยครับ
คร้าบ ที่ฤดูกาลนี้ กลุ่ม Shipping ขึ้นไปสูงเป็นเพราะจีนสั่งนำเข้าพวกถ่านหิน,เชื้อเพลิง ไม้ ฯลฯ เพราะว่าประเทศจีนไม่มีเรือ ขนาดใหญ่ในการขนครับจึงส่งผลให้กลุ่ม Shipping ได้ค่าระวางกันทั่วหน้านะครับ แต่ปีหน้าจีนจะผลิตเรือขึ้นมาเองครับ คาดว่าปีหน้าคงจะมีเรือของจีนออกมาเพ่นพ่านตาม น่านน้ำอีกเยอะครับ อาจจะส่งผลให้ PCL ราคาตกลงก้อได้นะครับ
ปู่เองเคยมีและตามตัวนี้มาตลอด ปู่ดูรู้ว่าเจ้า...เล่นเอง
ปู่เตือนที่ห้องโน้นบ่อยเพราะเห็นว่าเชียร์กันจนหน้ามืดตามัวคล้ายๆลัทธิ(มือใหม่เยอะ)
บางอย่างที่เราเห็นข้อต่างแต่ขัดแย้งคนหมู่มาก(ลัทธิ)ย่อมได้รับการตอบโต้
ปู่ทำยียวนกวนประสาท ปู่ก็จะแทรกความสั้นๆ(fact)ให้เสมอ
ปู่เห็นเขาทำตั้งแต่50ลงมา37 หรือถ้าจะลงไปที่30ปู่ก็ยังโดนด่าอยู่ดี
(มีหลายปู่สวมรอยเป็นปู่เต็มไปหมด)
ปู่ไม่ยวนห้องนี้เพราะปู่ได้ทดสอบแล้วว่าที่นี่ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์
ปู่ได้ความรู้จากที่นี่และจะให้ในสิ่งที่ปู่รู้เช่นเดียวกัน
ปู่เตือนที่ห้องโน้นบ่อยเพราะเห็นว่าเชียร์กันจนหน้ามืดตามัวคล้ายๆลัทธิ(มือใหม่เยอะ)
บางอย่างที่เราเห็นข้อต่างแต่ขัดแย้งคนหมู่มาก(ลัทธิ)ย่อมได้รับการตอบโต้
ปู่ทำยียวนกวนประสาท ปู่ก็จะแทรกความสั้นๆ(fact)ให้เสมอ
ปู่เห็นเขาทำตั้งแต่50ลงมา37 หรือถ้าจะลงไปที่30ปู่ก็ยังโดนด่าอยู่ดี
(มีหลายปู่สวมรอยเป็นปู่เต็มไปหมด)
ปู่ไม่ยวนห้องนี้เพราะปู่ได้ทดสอบแล้วว่าที่นี่ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์
ปู่ได้ความรู้จากที่นี่และจะให้ในสิ่งที่ปู่รู้เช่นเดียวกัน
ถ้าผมเป็นเจ้าของ บ.psl แต่บ.psl ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์
ผมจะนำกระแสเงินสดที่ได้มาไปซื้อหุ้นคืนหรือจ่ายหนี้
การใช้กระแสเงินสดอันไหนจะมีประสิทธิภาพมากกว่ากัน ?
ผมว่ามันขึ้นอยู่กับความคิดของผู้บริหารแต่ละท่านนะครับ ความคิดแรกผู้บริหารอาจนำเงินสดที่มีมากเกินไป จ่ายหนี้ให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อลดภาระดอกเบี้ยจ่ายที่อาจมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น โดยคาดการธุรกิจของตนเองอยู่ในช่วงขาขึ้นด้วย ซึ่งวิธีนี้จะทำให้บริษัทมีกำไรที่แน่นอนจากการดำเนินธุรกิจ
ส่วนผู้บริหารที่คิดว่าจะนำเงินสดที่เหลือนั้นซื้อหุ้นคืน ก็คงคาดการว่าจะได้ส่วนต่างมูลค้าหุ้นที่เพื่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในภาวะช่วงขาขึ้นของเศรษฐกิจและของบริษัทฯ ซึ่งวิธีนี้ผมว่าเป็นวิธีวัดดวงโดยอาศัยภาวะเศรฐกิจที่เป็นขาขึ้นทำกำไรก้าวกระโดดให้กับบริษัทเอง
ผมจะนำกระแสเงินสดที่ได้มาไปซื้อหุ้นคืนหรือจ่ายหนี้
การใช้กระแสเงินสดอันไหนจะมีประสิทธิภาพมากกว่ากัน ?
ผมว่ามันขึ้นอยู่กับความคิดของผู้บริหารแต่ละท่านนะครับ ความคิดแรกผู้บริหารอาจนำเงินสดที่มีมากเกินไป จ่ายหนี้ให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อลดภาระดอกเบี้ยจ่ายที่อาจมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น โดยคาดการธุรกิจของตนเองอยู่ในช่วงขาขึ้นด้วย ซึ่งวิธีนี้จะทำให้บริษัทมีกำไรที่แน่นอนจากการดำเนินธุรกิจ
ส่วนผู้บริหารที่คิดว่าจะนำเงินสดที่เหลือนั้นซื้อหุ้นคืน ก็คงคาดการว่าจะได้ส่วนต่างมูลค้าหุ้นที่เพื่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในภาวะช่วงขาขึ้นของเศรษฐกิจและของบริษัทฯ ซึ่งวิธีนี้ผมว่าเป็นวิธีวัดดวงโดยอาศัยภาวะเศรฐกิจที่เป็นขาขึ้นทำกำไรก้าวกระโดดให้กับบริษัทเอง
-ซื้อหุ้นคืนเพราะบริษัทรู้ว่าสามารถทำกำไรได้สุงในปีนี้ และต้องการควบคุมราคาได้ง่ายขึ้น
-ช่วงนี้บริษัทยังไม่ต้องการขยายตัวเพิ่ม เงินกู้ที่ได้มาเหลือ นำมาหาผลประโยชน์ก่อน
-เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ จะนำไปซื้อเรือเพื่อกำไรในอีกสองปี หรือเลือกซื้อหุ้นที่รู้ว่าสามารถทำกำไรเท่าตัวใน 1 ปี
ลองคิดว่าหากบริษัทนี้เป็นของคุณ คุณจะยังมีอีกหลายวิธีในการทำให้มูลค่าเพิ่มขึ้นในช่วงที่มีโอกาส
-ช่วงนี้บริษัทยังไม่ต้องการขยายตัวเพิ่ม เงินกู้ที่ได้มาเหลือ นำมาหาผลประโยชน์ก่อน
-เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ จะนำไปซื้อเรือเพื่อกำไรในอีกสองปี หรือเลือกซื้อหุ้นที่รู้ว่าสามารถทำกำไรเท่าตัวใน 1 ปี
ลองคิดว่าหากบริษัทนี้เป็นของคุณ คุณจะยังมีอีกหลายวิธีในการทำให้มูลค่าเพิ่มขึ้นในช่วงที่มีโอกาส
ยังไม่เข้าใจอีก บ.ซื้อหุ้นตัวเองมันจะไปทำกำไรได้ไง เหมือนกะเอาเงินออกจาก บ. ไปจ่ายให้คนในตลาด หุ้นทีได้เหมือนจะสูญเปล่า เพราะหุ้นที่ได้มาจะโดนละลายหายไป ยกเว้นว่า ราคาหุ้นในตลาดมันต่ำกว่าความเป็นจริงมากๆ ถึงจะคุ้มค่า เพราะจำนวนหุ้นที่น้อยลง ทำให้ตัวหารกำไรน้อยลง กำไรต่อหุ้นมากขึ้น ถ้าผมถือหุ้นตัวนี้ แล้วผู้บริหารทำอย่างนี้ ผมขายทิ้งดีกว่าAnswer เขียน:-ซื้อหุ้นคืนเพราะบริษัทรู้ว่าสามารถทำกำไรได้สุงในปีนี้ และต้องการควบคุมราคาได้ง่ายขึ้น
-ช่วงนี้บริษัทยังไม่ต้องการขยายตัวเพิ่ม เงินกู้ที่ได้มาเหลือ นำมาหาผลประโยชน์ก่อน
-เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ จะนำไปซื้อเรือเพื่อกำไรในอีกสองปี หรือเลือกซื้อหุ้นที่รู้ว่าสามารถทำกำไรเท่าตัวใน 1 ปี
ลองคิดว่าหากบริษัทนี้เป็นของคุณ คุณจะยังมีอีกหลายวิธีในการทำให้มูลค่าเพิ่มขึ้นในช่วงที่มีโอกาส
อีกคำถามที่คาใจ
นิชิต้า ชาห์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 25/02/2547 23/02/2547 2,536,300 40.00 ซื้อ
นิชิต้า ชาห์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 27/02/2547 25/02/2547 463,700 40.00 ซื้อ
Click here
มีการใช้อินไซด์เดอร์เทรดดิ้หรือเปล่า
ถือว่ามีธรรมาภิบาลหรือไม่
นิชิต้า ชาห์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 25/02/2547 23/02/2547 2,536,300 40.00 ซื้อ
นิชิต้า ชาห์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 27/02/2547 25/02/2547 463,700 40.00 ซื้อ
Click here
มีการใช้อินไซด์เดอร์เทรดดิ้หรือเปล่า
ถือว่ามีธรรมาภิบาลหรือไม่
ผมถือหุ้นนี้อยู่พอสมควร ไม่เคย post ในกระทู้เกี่ยวกับหุ้นตัวนี้ ทั้งที่บอร์ดนี้หรือบอร์ดอื่น แต่อ่านเรื่องซื้อหุ้นคืนแล้วอยากแสดงความเห็นหน่อย
ตามทฤษฎีการเงิน ต้นทุนของทุน จะสูงกว่าต้นทุนของ Debt เพราะ Debt จะหักภาษีได้ (และเหตุผลอื่น ๆ อีกเยอะ) ถ้าอ่านทบ.การเงินหลาย ๆ เล่ม การซื้อหุ้นคืนมีผลดีต่อผู้ถือหุ้นมากกว่าการจ่ายชำระหนึ้คืน ดังนั้น ผมจึงไม่เห็นมีอะไรซับซ้อนหรือมี Hidden Agenda ตรงไหนเลย
ถามว่ากู้หนี้มาซื้อหุ้นคืนดีมั้ย ถ้าแบงค์เค้าให้แล้วผู้ถือหุ้นจะกลัวอะไรครับ แบงค์เค้าก็ต้องกรองให้เราชั้นหนึ่งก่อนแล้วว่ามันโปร่งใส อีกอย่าง ถ้าดูตาม ทบ.แล้วก็สอดคล้อง
ถ้าผมเข้าใจอะไรผิดไป รบกวนช่วยแย้งผมด้วยครับ ถือว่าเอาบุญ ผมจะได้ออกจากกะลา
ตามทฤษฎีการเงิน ต้นทุนของทุน จะสูงกว่าต้นทุนของ Debt เพราะ Debt จะหักภาษีได้ (และเหตุผลอื่น ๆ อีกเยอะ) ถ้าอ่านทบ.การเงินหลาย ๆ เล่ม การซื้อหุ้นคืนมีผลดีต่อผู้ถือหุ้นมากกว่าการจ่ายชำระหนึ้คืน ดังนั้น ผมจึงไม่เห็นมีอะไรซับซ้อนหรือมี Hidden Agenda ตรงไหนเลย
ถามว่ากู้หนี้มาซื้อหุ้นคืนดีมั้ย ถ้าแบงค์เค้าให้แล้วผู้ถือหุ้นจะกลัวอะไรครับ แบงค์เค้าก็ต้องกรองให้เราชั้นหนึ่งก่อนแล้วว่ามันโปร่งใส อีกอย่าง ถ้าดูตาม ทบ.แล้วก็สอดคล้อง
ถ้าผมเข้าใจอะไรผิดไป รบกวนช่วยแย้งผมด้วยครับ ถือว่าเอาบุญ ผมจะได้ออกจากกะลา
ผมเอาข้อความเหตุผลเกี่ยวกับการใช้เงินซื้อหุ้นคืนของ PSL ให้ด
เห็นแต่ละท่านก็มีเหตุผลในการมองแต่ละแบบ ผมเป็นคนหนึ่งที่เคยแย้ง PSL กับ K.Loso มาตลอดแต่ในแง่เรื่องที่ชอบเอาเหตุผลบางอย่างมากระแทกหุ้น RCL เพื่อให้หุ้น PSL วิ่งขึ้น แต่ครั้งนี้ผมเห็นว่า การซื้อหุ้นคืนไม่เห็นจะทำให้เสียประโยชน์ตรงไหนมีแต่ทำให้ ผู้ถือหุ้นได้ประโยชน์ เพราะไม่ได้บอกว่าต้องซื้อจนครบและเป็นภาระของบริษัทต่อไป แต่ถ้าเจ้าหนี้ให้เป็นระยะเวลาปลอดหนี้เงินกู้ รวมทั้งฝ่ายบริหารก็คาดการว่าจะมีกระแสเงินสดเหลือเฟือ การทำเช่นนี้ก็ไม่เห็นมีอะไรผิด เพราะในที่สุดหากมีการจ่ายปันผลคราวหน้าทุกคนที่ยังถือหุ้นอยู่ก็จะได้ในอัตราเพิ่มขึ้น แต่ระยะยาวต้องขึ้นกับการมองธุรกิจของผู้บริหาร อ้อหากใครคิดว่า PPPC กลุ่มผู้ถือหุ้นน่าเชื่อถือผมขอบอกว่า เป็นกลุ่มเดียวกันคือโกลเบ็กส์
2. ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท
2.1 ข้อมูลกำไรสะสมและสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทและบริษัทย่อย
ข้อมูลจากงบการเงินตรวจสอบงวดล่าสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2546
- กำไรสะสมของบริษัทและบริษัทย่อย เท่ากับ 563,637,665 บาท
- หนี้สินของบริษัทและบริษัทย่อยที่ถึงกำหนดชำระภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่จะซื้อหุ้นคืน
ประมาณ 770,000,000 บาท
- อธิบายความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทที่ถึงกำหนดชำระภายใน 6 เดือน
นับแต่วันที่จะซื้อหุ้นคืน โดยระบุแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการการชำระหนี้คืนบริษัทและบริษัทย่อย
มีการสะสมเงินสด ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2546 และคาดว่าจะสามารถสะสมเงินสดจนถึงวันที่
30 มิถุนายน 2547 เนื่องจากเจ้าหนี้ตกลงให้เป็นระยะเวลาปลอดหนี้เงินกู้เป็นเวลา 1 ปี ยิ่งไปกว่านั้น
บริษัทและบริษัทย่อยคาดว่าจะมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่สูงใน 12-18 เดือนข้างหน้า
อันเนื่องมากจากอัตราค่าระวางที่สูงและบริษัทและบริษัทย่อยได้เซ็นต์สัญญาให้เช่าเรือระยะยาว
ในอัตราคระวางที่สูง
2. ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท
2.1 ข้อมูลกำไรสะสมและสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทและบริษัทย่อย
ข้อมูลจากงบการเงินตรวจสอบงวดล่าสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2546
- กำไรสะสมของบริษัทและบริษัทย่อย เท่ากับ 563,637,665 บาท
- หนี้สินของบริษัทและบริษัทย่อยที่ถึงกำหนดชำระภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่จะซื้อหุ้นคืน
ประมาณ 770,000,000 บาท
- อธิบายความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทที่ถึงกำหนดชำระภายใน 6 เดือน
นับแต่วันที่จะซื้อหุ้นคืน โดยระบุแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการการชำระหนี้คืนบริษัทและบริษัทย่อย
มีการสะสมเงินสด ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2546 และคาดว่าจะสามารถสะสมเงินสดจนถึงวันที่
30 มิถุนายน 2547 เนื่องจากเจ้าหนี้ตกลงให้เป็นระยะเวลาปลอดหนี้เงินกู้เป็นเวลา 1 ปี ยิ่งไปกว่านั้น
บริษัทและบริษัทย่อยคาดว่าจะมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่สูงใน 12-18 เดือนข้างหน้า
อันเนื่องมากจากอัตราค่าระวางที่สูงและบริษัทและบริษัทย่อยได้เซ็นต์สัญญาให้เช่าเรือระยะยาว
ในอัตราคระวางที่สูง
ผมไม่อยากพูดอะไรมากครับ
แต่ผมว่า ถ้าขนาด KTB ปล่อยกู้ขนาดนี้ เขาคงคิดแล้วคิดอีกครับ
เงินขนาด หลายพันล้านบาท ขืนปล่อยง่ายๆ ไม่วิเคราะห์
หรือว่า ไม่มีเครดิต จริงๆ เขาไม่ปล่อยง่ายๆหรอก
........
อีกอย่าง NPL ก็พึ่งเจอกันมา ร้อนๆ ไม่กี่ปีนี่เอง พึ่งหายร้อนเอง
ถึงไง เขาไม่ถึงกับกล้าเสี่ยงกะ NPL อีกรอบนะครับ
ผมถึงว่า PSL TTA ยังไงๆ มันก็ไปได้ของมันอยู่แล้วหล่ะครับ
ผมว่าเขามีข้อมูลดีกว่าเรามากๆนะครับ
........
อยากให้ผู้ที่ถือหุ้น KTB ลองไปถามผู้บริหารของ KTB ว่า ทำยังไงถึงไปอนุมัติสินเชื่อให้ PS: ได้ ขนาดนั้น
มีความมั่นใจอะไรเหรอ
น่าจะถามกันนะครับ เพราะว่าถ้ามีปัญหาจริงๆแล้ว ส่งผลกระทบต่อ KTB สูงมากเหมือนกันนะครับ ขนาด 7 พันล้านเนี่ย
....เอ....แล้วจะมีใครถามผู้บริหารของ KTB ให้บ้างป่าวเนี่ย
........
หุ้นตัวนี้ ท่าทางต้องมี ศรัทธารึป่าวครับ
....
เอ หรือว่า พวกเราเป็นพวก ตาบอดคลำช้าง กันอยู่ครับ
.......
........ถึงยังไงผมก็ชอบของผมครับ กลุ่มเดินเรือครับ
.....
แต่ว่าทุกๆท่าน จะแซว....หรือมีความคิดเห็นที่ไม่ค่อยดีต่อกลุ่มนี้ ก็เชิญเถิดครับ ไม่มีปัญหาอะไร
ถือว่าเป็นความคิดเห็นที่แตกต่างกันนะครับ
ถึงยังไง ท้ายที่สุดก็ต้องมีคำตอบอยู่ดี
.......
จริงๆ ถ้าอยู่ที่ทำงานผมชอที่จะชวนคนที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน รอเวลาพิสูจน์กันโดยมีกำหนดเวลาที่แน่นอน
ก็แค่ข้าว 1 มื้อ มันเป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ นะครับ ดีกว่า ไม่มีอะไรเลย
.....
ผมเลยขอตั้งประเด็นว่า น่าจะนัดกันนะครับ 1-2 โต๊ะ จีน ครับ
......
ฝ่ายละกี่คนว่ากันไป
อย่าคิดว่าเป็นการพนันเลยคัรบ
ถือว่า จะได้มีคนมาช่วยกันคิดกัน แล้วก็เป็นค่าเหนื่อยของการช่วยกันคิด
.......
ฝ่ายค้าน เรือ ก็ถือว่า มีเจตนา พยายาม ที่จะช่วยให้อีกฝ่ายนึง หูตา สว่าง จะได้ไม่เจ็บตัวมาก ก็ถือเป็นความปราถนาที่ดี เจตนาที่ดี
ฝ่ายสนับสนุน เรือ ก้ถือว่า เขาเชื่อแล้ว เขาก็เลยอยากให้คนอื่นได้ดีกะเขาด้วย
.........
อืมมม
ผมเองยืนอยู่ฝ่ายสนับสนุนครับ
ด้วยเหตุผลดังที่กล่าวมาแล้วข้างบนเกี่ยว กับ bank ที่ปล่อยกู้นะครับ
......ว่าไงครับ ท่านๆทั้งหลาย
.....
โต๊ะจีน ครับ โต๊ะจีน
......
เงื่อนไขมียังไง ช่วยกันคิดนะครับ
ยังไงๆ จะได้ช่วยกัน สร้างสรรคืสิ่งดีๆ ต่อไปครับ
..........
สังคมเปิดครับ......ความคิดเห็นแตกต่างกันได้นะครับ
แต่ผมว่า ถ้าขนาด KTB ปล่อยกู้ขนาดนี้ เขาคงคิดแล้วคิดอีกครับ
เงินขนาด หลายพันล้านบาท ขืนปล่อยง่ายๆ ไม่วิเคราะห์
หรือว่า ไม่มีเครดิต จริงๆ เขาไม่ปล่อยง่ายๆหรอก
........
อีกอย่าง NPL ก็พึ่งเจอกันมา ร้อนๆ ไม่กี่ปีนี่เอง พึ่งหายร้อนเอง
ถึงไง เขาไม่ถึงกับกล้าเสี่ยงกะ NPL อีกรอบนะครับ
ผมถึงว่า PSL TTA ยังไงๆ มันก็ไปได้ของมันอยู่แล้วหล่ะครับ
ผมว่าเขามีข้อมูลดีกว่าเรามากๆนะครับ
........
อยากให้ผู้ที่ถือหุ้น KTB ลองไปถามผู้บริหารของ KTB ว่า ทำยังไงถึงไปอนุมัติสินเชื่อให้ PS: ได้ ขนาดนั้น
มีความมั่นใจอะไรเหรอ
น่าจะถามกันนะครับ เพราะว่าถ้ามีปัญหาจริงๆแล้ว ส่งผลกระทบต่อ KTB สูงมากเหมือนกันนะครับ ขนาด 7 พันล้านเนี่ย
....เอ....แล้วจะมีใครถามผู้บริหารของ KTB ให้บ้างป่าวเนี่ย
........
หุ้นตัวนี้ ท่าทางต้องมี ศรัทธารึป่าวครับ
....
เอ หรือว่า พวกเราเป็นพวก ตาบอดคลำช้าง กันอยู่ครับ
.......
........ถึงยังไงผมก็ชอบของผมครับ กลุ่มเดินเรือครับ
.....
แต่ว่าทุกๆท่าน จะแซว....หรือมีความคิดเห็นที่ไม่ค่อยดีต่อกลุ่มนี้ ก็เชิญเถิดครับ ไม่มีปัญหาอะไร
ถือว่าเป็นความคิดเห็นที่แตกต่างกันนะครับ
ถึงยังไง ท้ายที่สุดก็ต้องมีคำตอบอยู่ดี
.......
จริงๆ ถ้าอยู่ที่ทำงานผมชอที่จะชวนคนที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน รอเวลาพิสูจน์กันโดยมีกำหนดเวลาที่แน่นอน
ก็แค่ข้าว 1 มื้อ มันเป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ นะครับ ดีกว่า ไม่มีอะไรเลย
.....
ผมเลยขอตั้งประเด็นว่า น่าจะนัดกันนะครับ 1-2 โต๊ะ จีน ครับ
......
ฝ่ายละกี่คนว่ากันไป
อย่าคิดว่าเป็นการพนันเลยคัรบ
ถือว่า จะได้มีคนมาช่วยกันคิดกัน แล้วก็เป็นค่าเหนื่อยของการช่วยกันคิด
.......
ฝ่ายค้าน เรือ ก็ถือว่า มีเจตนา พยายาม ที่จะช่วยให้อีกฝ่ายนึง หูตา สว่าง จะได้ไม่เจ็บตัวมาก ก็ถือเป็นความปราถนาที่ดี เจตนาที่ดี
ฝ่ายสนับสนุน เรือ ก้ถือว่า เขาเชื่อแล้ว เขาก็เลยอยากให้คนอื่นได้ดีกะเขาด้วย
.........
อืมมม
ผมเองยืนอยู่ฝ่ายสนับสนุนครับ
ด้วยเหตุผลดังที่กล่าวมาแล้วข้างบนเกี่ยว กับ bank ที่ปล่อยกู้นะครับ
......ว่าไงครับ ท่านๆทั้งหลาย
.....
โต๊ะจีน ครับ โต๊ะจีน
......
เงื่อนไขมียังไง ช่วยกันคิดนะครับ
ยังไงๆ จะได้ช่วยกัน สร้างสรรคืสิ่งดีๆ ต่อไปครับ
..........
สังคมเปิดครับ......ความคิดเห็นแตกต่างกันได้นะครับ
คุณ Financial Amature ทฤษฐีเรื่องต้นทุนทางการเงินผมก็รู้นาครับ
แต่เราต้องดูสถานะการณ์ของบริษัทประกอบด้วยครับ
1 สาเหตุที่เงินสดในบริษัทเยอะเพราะอะไร กู้มารึ หรือว่า มาจากผลการดำเนินงาน
2 หนี้ในบริษัทตอนนี้มีมากน้อยเพียงไร
ทางเลือก 3 ข้อ ถ้าเงินสดในบริษัทมีมากเกินไป
1 ซื้อหุ้นคืน (ข้อนี้ความผิดถูกอยู่ที่การประเมินมูลค่าหุ้นใช่ไหม)
ถ้าราคาหุ้น PSL ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงมากๆ จริง -> แง่ดี (ผู้ถือหุ้นเดิมชอบแน่นอนอยู่ๆหุ้นในมือก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้น)
หรือว่าเจตนาเอาเงินบริษัทไปพยุงราคาหุ้นจริง -> แง่ร้าย (สันนิษฐานว่าต่อไปบริษัทไม่น่าจะดีแล้ว เป็นรายการก๊อกสุดท้ายหรือมุขสุดท้ายที่จะทำได้แล้ว)
2 ปันผลออกมาให้ผู้ถือหุ้นเยอะๆกว่านี้ (ถ้าบริษัทดีและราคาหุ้นต่ำจริงผู้ลงทุนก็เอาเงินไปซื้อหุ้น PSL อยู่แล้ว ทำไมไม่ทำ)
3 เอาเงินไปลงทุนต่อ สาเหตุที่กู้มาเพราะว่าจะเอาเงินไปลงทุนต่อใช่ไหมแล้วทำไมไม่ทำ
4 เอาไปใช้เงินที่กู้มา บริษัทคงไม่ทำเพราะ เพิ่งกู้มา
แล้วแต่จะคิดล่ะครับ ผมไม่มีอยู่แล้วหุ้นตัวนี้
แต่เราต้องดูสถานะการณ์ของบริษัทประกอบด้วยครับ
1 สาเหตุที่เงินสดในบริษัทเยอะเพราะอะไร กู้มารึ หรือว่า มาจากผลการดำเนินงาน
2 หนี้ในบริษัทตอนนี้มีมากน้อยเพียงไร
ทางเลือก 3 ข้อ ถ้าเงินสดในบริษัทมีมากเกินไป
1 ซื้อหุ้นคืน (ข้อนี้ความผิดถูกอยู่ที่การประเมินมูลค่าหุ้นใช่ไหม)
ถ้าราคาหุ้น PSL ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงมากๆ จริง -> แง่ดี (ผู้ถือหุ้นเดิมชอบแน่นอนอยู่ๆหุ้นในมือก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้น)
หรือว่าเจตนาเอาเงินบริษัทไปพยุงราคาหุ้นจริง -> แง่ร้าย (สันนิษฐานว่าต่อไปบริษัทไม่น่าจะดีแล้ว เป็นรายการก๊อกสุดท้ายหรือมุขสุดท้ายที่จะทำได้แล้ว)
2 ปันผลออกมาให้ผู้ถือหุ้นเยอะๆกว่านี้ (ถ้าบริษัทดีและราคาหุ้นต่ำจริงผู้ลงทุนก็เอาเงินไปซื้อหุ้น PSL อยู่แล้ว ทำไมไม่ทำ)
3 เอาเงินไปลงทุนต่อ สาเหตุที่กู้มาเพราะว่าจะเอาเงินไปลงทุนต่อใช่ไหมแล้วทำไมไม่ทำ
4 เอาไปใช้เงินที่กู้มา บริษัทคงไม่ทำเพราะ เพิ่งกู้มา
แล้วแต่จะคิดล่ะครับ ผมไม่มีอยู่แล้วหุ้นตัวนี้
ฝ่ายสินเชื่อ KTB ได้ประเมินว่าบริษัทมีหลักประกันที่คุ้มค่าและคงคิดดอกเบี้ยได้สูงพอสมควรจึงมั่นใจให้กู้ได้ KTB น่าจะเริ่มเสนอตัวให้สินเชื่อแก่ PSL ด้วยซ้ำไป
แม้จะมองในแง่ร้ายสุดๆ..การซื้อหุ้นคืนด้วยเงินกู้ เป็นการปรับโครงสร้างทางการเงินวิธีหนึ่ง ที่อาจจะดูแปลก เพราะหลายๆท่านคงเคยได้ยินแต่เปลี่ยนหนี้เป็นทุนในวิกฤติเศรษฐกิจ แต่ในช่วงที่เศรษฐกิจบูมสุดขีดแบบนี้ PSL ไม่ใช่บริษัทแรกที่ทำ ถ้าใครติดตามข่าวปีที่แล้ว KGI ก็ได้ปรับโครงสร้างทางการเงินด้วยการคืนทุนให้แก่ผู้ถือหุ้น และออกหุ้นกู้เพื่อให้มีเงินหมุนเวียนเพียงพอ ลองเอามาเป็นกรณีเปรียบเทียบได้ไหมครับ
สุดท้ายนี้ผมอยากให้ทุกท่านหยุดท้าทายกันเช่นนี้ ผมว่าเรามารักษาเวบนี้ให้คุยกันด้วยเหตุผลอย่างที่ควรจะเป็น
แม้จะมองในแง่ร้ายสุดๆ..การซื้อหุ้นคืนด้วยเงินกู้ เป็นการปรับโครงสร้างทางการเงินวิธีหนึ่ง ที่อาจจะดูแปลก เพราะหลายๆท่านคงเคยได้ยินแต่เปลี่ยนหนี้เป็นทุนในวิกฤติเศรษฐกิจ แต่ในช่วงที่เศรษฐกิจบูมสุดขีดแบบนี้ PSL ไม่ใช่บริษัทแรกที่ทำ ถ้าใครติดตามข่าวปีที่แล้ว KGI ก็ได้ปรับโครงสร้างทางการเงินด้วยการคืนทุนให้แก่ผู้ถือหุ้น และออกหุ้นกู้เพื่อให้มีเงินหมุนเวียนเพียงพอ ลองเอามาเป็นกรณีเปรียบเทียบได้ไหมครับ
สุดท้ายนี้ผมอยากให้ทุกท่านหยุดท้าทายกันเช่นนี้ ผมว่าเรามารักษาเวบนี้ให้คุยกันด้วยเหตุผลอย่างที่ควรจะเป็น