นิเทศศาสตร์จุฬา การแก้คุณสมบัติ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ล็อคหัวข้อ
ไทย.

นิเทศศาสตร์จุฬา การแก้คุณสมบัติ

โพสต์ โดย ไทย. » เสาร์ เม.ย. 24, 2004 2:45 pm

http://www.matichon.co.th/matichon/mati ... 2004/04/23

"น้องอุ๊งอิ๊ง"สมัครเรียนคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ หลักสูตรภาษาอังกฤษ ผู้บริหารคณะถกแก้คุณสมบัติ เกรดต่ำกว่า 2.75 ก็สมัครได้ ผู้อำนวยการสำนักทดสอบกลาง กอ. แจง กมธ.ศึกษาฯ แฉ "วรเดช"เปิดดูข้อสอบเอ็นทรานซ์คนเดียวกว่าครึ่งชั่วโมง ชี้ปมผิดปกติสั่งเก็บข้อสอบนอกห้องมั่นคง
วันเดียวกัน รายงานข่าวจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ประมาณวันที่ 6-7 เมษายนที่ผ่านมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง บุตรสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สมัครเข้าเรียนคณะนิเทศศาสตร์ภาคภาษาอังกฤษ สาขาการบริหารจัดการสื่อสารมวลชน ซึ่งเปิดเป็นปีแรก รับสมัครนิสิตตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม-7 เมษายน

ทั้งนี้ ตามประกาศรับสมัครผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติผู้สมัคร 1.ได้คะแนนเฉลี่ยสะสม ม.ปลาย หรือจีพีเอ 2.75 ขึ้นไป 2.มีผลคะแนนอย่างใดอย่างหนึ่งในต่อไปนี้ คือ 2.1 คะแนนเอ็นทรานซ์ ในวิชาภาษาไทย สังคมศึกษา ภาษาอังกฤษ วิชาเลือกอีก 1 วิชา รวมไม่ต่ำกว่า 200 คะแนน 2.2 คะแนน SAT(Verbal Score) 450 ขึ้นไป 2.3 คะแนน ACT 24 ขึ้นไป 2.4 คะแนน IB คะแนน A Level ผลสอบ Form 7 หรือ Australian Entrance ซึ่งสอบวิชาคณิตศาสตร์ ภาษาและสังคมศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ ที่มีคะแนน 60% ขึ้นไป หรือผลทดสอบอื่นๆ และ 3.คะแนนทดสอบวิชาภาษาอังกฤษแบบใดแบบหนึ่งใน 4 ประเภท ดังนี้ CU-TEP 60 ขึ้นไป TOEFL 500 ขึ้นไป IELTS 5.0 ขึ้นไป หรือ SAT(Verbal Score) 450 ขึ้นไป

นายสุรพล วิรุฬห์รักษ์ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า ในการเปิดรับสมัครมีนักเรียนสนใจมาสมัครกว่า 400 คน โดยส่วนใหญ่ได้คะแนนจีพีเอต่ำกว่า 2.75 จึงอนุโลมยอมรับสมัครนักเรียนกลุ่มนี้ด้วย เพราะเห็นว่ามีความตั้งใจอยากเรียน จึงเปิดโอกาสเข้ารับการคัดเลือกด้วย ซึ่งสามารถทำได้ เพราะในประกาศรับสมัครก็ได้ระบุว่าสามารถเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติผู้สมัครได้ โดยอยู่ในดุลพินิจของคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ในวันที่ 23 เมษายน เวลาประมาณ 10.00 น. จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารคณะนิเทศศาสตร์เพื่อพิจารณาผู้ผ่านการคัดเลือกรอบแรก ซึ่งจะประกาศผลในวันที่ 26 เมษายน

แหล่งข่าวระดับสูงจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า ใบประกาศรับสมัครนิสิตดังกล่าวกำหนดชัดเจนว่า ต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดทั้ง 3 ข้อ จึงไม่ควรลดคุณสมบัติข้อใดลง โดยเฉพาะคะแนนจีพีเอ ซึ่งเท่าที่พูดคุยกับกรรมการบริหารคณะหลายๆ คนก็คงไม่ยอม เพราะจะทำให้มีผู้สมัครบางคนอาจถูกเบียดสิทธิออกไป และอาจเกิดการฟ้องร้องศาลปกครองภายหลังได้


ทำธุรกิจ แก้กฎหมาย พรบ. ลูกเรียนแก้คุณสมบัตรผู้สมัคร ยังมีอะไรที่ท่านยังทำไม่ได้อีกนะ



บุคคลทั่วไป

โพสต์ โดย บุคคลทั่วไป » จันทร์ เม.ย. 26, 2004 11:30 am

ถ้าลูกผมจะเรียนบ้างจะมีใครแก้คุณสมบัติให้บ้าง



บุคคลทั่วไป

โพสต์ โดย บุคคลทั่วไป » อังคาร เม.ย. 27, 2004 10:19 am

ลูกของคนดังนี่ถูกจับตาเป็นพิเศษเลยนะครับ กฎเกณฑ์ต่างๆที่ปรับเปลี่ยนไปจะมองโยงไปถึงผลประโยชน์ต่างๆเลย

จะไปจับผิดอะไรเด็กครับ



เชื่อหรือไม่

โพสต์ โดย เชื่อหรือไม่ » พุธ เม.ย. 28, 2004 11:18 am

ความเก่ง ( โกง ) อย่างเหลือเชื่อของลูกสาวนายก

เปรียบเทียบคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัย 2 ครั้งของลูกสาวนายก แล้วจะเห็นชัดว่าเก่งหรือโกง

ภาษาไทย ( เดิม52 ) ในช่วง50-60คะแนนมีจำนวน 34,805คน
เพิ่มเป็น72 ในช่วง70- 75 คะแนนมีจำนวน 787คน

สังคม ( เดิม41.25 )ในช่วง 40-50 คะแนนมีจำนวน 74,836คน
เพิ่มเป็น 67.5ในช่วง 60-70 คะแนนมีจำนวน 4,328 คน

อังกฤษ(เดิม64) ในช่วง60-70คะแนนมีจำนวน 5158คน
เพิ่มเป็น 84 ในช่วง 80- 85คะแนนมีจำนวน 252คน

คณิตศาสตร์ 2 ( เดิม27 ) ในช่วง 20-30คะแนนมีจำนวน 53,684คน
เพิ่มเป็น 63 ในช่วง 60-70 คะแนนมีจำนวน 716 คน

วิชาเหล่านี้เป็นวิชาหลักในการเลือกคณะที่ต้องการ..ซึ่งคะแนนใหม่ติดแน่นอน..แต่ที่ลงช่วงคะแนนให้ดูเพื่อเปรียบเทียบพัฒนาการอันสุดยอด

ภาษาไทยเธอเข้าไปอยู่ในช่วง 800 คนของประเทศแล้ว จากที่เคยอยู่กลุ่มเดียวกับเด็กอีก 35,000 คน
สังคมที่เคยอยู่ในกลุ่ม 75,000 คน เธอกระโดดทีเดียวข้ามเด็กอื่นมาได้กว่า 70,000คน
อังกฤษเธอคือสุดยอดติด top 250 ของประเทศ ทำเพิ่มมาได้อีกตั้ง 20 คะแนน ทำลายสถิติเด็กที่เข้าสอบ 158,833 คนกระจุย
คณิตศาสตร์ 2 วิชาที่ต้องอาศัยความเข้าใจตั้งแต่เริ่มต้น ครั้งแรกเธอได้แค่ 27 อยู่ในกลุ่ม 53,000 คนของเด็กที่สอบทั้งหมด ต่อมาอีก 3เดือนเธอพัฒนาการทางคณิตศาสตร์อย่างสูง มาอยู่ในช่วงสุดยอด1 ใน1,000คนของประเทศ นับว่าเพิ่มขึ้น 133 % เก่งกระทันหัน อย่างเหลือเชื่อ

ที่น่าสังเกตคือ คณิตศาสตร์ 1 ที่เธอไม่ต้องใช้นับคะแนนในการสอบครั้งนี้ เธอได้แค่ 12 คะแนน อยู่ในกลุ่ม 34,317 คน นี่คือไอคิวจริง จึงไม่เก่งกระทันหันเหมือนคณิตศาสตร์ 2 ซึ่งไอคิวกระฉูด

สอบครั้งแรก 4 วิชานี้ คะแนนเต็ม 400 ได้แค่ 184.25 แต่สอบครั้งหลังได้ตั้ง 286.50 โอ ! มายก็อด ได้เพิ่มมาอีกตั้ง 102.25คะแนน เด็กๆที่สอบโดยสุจริตใครทำได้บ้าง

สรุป..ภาพคะแนน..โดยรวมเธอเป็นนักเรียนเรียนเก่งระดับประเทศเลยเชียวนะเนี่ย..ทั้งๆที่อยู่เซ็นต์โยฯ เธอเรียนอ่อน ย้ายมาอยู่มาแตร์ฯ ก็ยังเรียนอ่อน เพื่อนมาแตร์ฯช่วยออกมาบอกหน่อยว่าเวลาเรียนในโรงเรียนเก่งอย่างนี้หรือเปล่า..

การเป็นเด็กเรียนไม่เก่ง ไม่ใช่ความผิด แต่การโกงตั้งแต่ยังเด็กเป็นความผิดมหันต์ เพราะเรื่องนี้มีเด็กที่สอบร่วมกับเธอเป็นแสนคน มีพ่อแม่ ผู้ปกครองที่เกี่ยวข้องด้วยนับล้านคน ทุกครอบครัวต่างใช้เวลาหลายปี ใช้ความสามารถและมีค่าใช้จ่ายมากมายเพื่อเตรียมตัวลูกหลานที่เข้าสอบให้พร้อม เด็กๆต้องเรียนหนัก ขยันเรียน เลิกเรียนต้องไปกวดวิชาหรือเรียนพิเศษจนค่ำ วันหยุดก็ต้องไปเรียน ตัวเลขคะแนนอย่างนี้ เด็กที่ไหนก็อ่านออกว่า ตัวเองถูกโกง แล้วอีก 4 ปีที่เหลือในมหาวิทยาลัย จะไม่โกงตลอดเพื่อให้สอบผ่านหรือ ของเก๊ก็เป็นของเก๊วันยังค่ำ

เรียนแย่มาทั้งชีวิต เพิ่งจะมาฉลาดเฉียบพลัน ไอคิวกระฉูดภายใน 3 เดือน หลอกคนทั้งประเทศไม่ได้ จึงต้องตกเป็นจำเลยของสังคม อาจารย์โรงเรียนกวดวิชาที่สยามสแควร์เล่าว่า เธอเคยมาเรียนกวดวิชาเหมือนกัน แต่มาเป็นตัวป่วน ส่งเสียงดัง พูดคุยเสียงดังเวลาเรียน ทำให้เด็กอื่นเสียสมาธิ เด็กๆที่เคยเรียนกับเธอรู้ดีกันทุกคน

เงินทองก็มีเหลือล้น จะไปเรียนที่ไหนก็ได้ในโลกนี้ จะเอามหาวิทยาลัยระดับดีเลิศแค่ไหนก็ได้ แต่เธอไม่ทำ เธอไม่เลือกไปเรียนต่างประเทศ แต่เจาะจงเข้าเรียนที่จุฬาฯ โดยทำอย่างไร โกงอย่างไรก็ได้เพื่อให้เข้าจุฬาฯให้ได้เพราะเธอและครอบครัวมีเป้าหมายที่สำคัญ เธอคิดล่วงหน้าเอาไว้ 1 ปี เอาไว้เมื่อถึงปีหน้า สังคมจะได้รู้ว่า เพราะอะไร

ถ้าเธอเป็นลูกนาย ก. นาย ข. ก็ว่าไปอย่าง แต่เธอเป็นลูกผู้นำประเทศ เป็นเบอร์ 1 ของประเทศ การทำอย่างนี้ทำให้ถูกจับตามอง ความถูกต้อง คุณธรรม ความยุติธรรม จริยธรรมที่จะเป็นตัวอย่างที่ดีกับเด็กทั้งประเทศ ไม่มีเลยหรือ เธอไม่ได้เป็นเด็กโชคดี แต่โชคร้ายที่สุดที่ได้รับการอบรมสั่งสอนและดูแลอย่างนี้ พ่อแม่ ตัวเธอและพี่น้องของเธออาจจะโกหกคนอื่นบางคนได้บ้าง แต่โกหกตัวเองไม่ได้ บาปนี้จะติดตัวไปตลอด

ช่วยไม่ได้ที่สังคมจะรู้ทันว่า การเข้าไปทำงานที่แมคโดนัลด์เป็นการสร้างภาพ เป็นการลดกระแสการต่อต้าน ทำตัวให้น่าเอ็นดู ซึ่งก็ทำได้ในระดับหนึ่ง แต่สังคมก็รู้ทันเกมนี้

คำว่ายิ่งรวยยิ่งโกง ที่ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล นำมาเล่าให้คนทั้งประเทศฟัง ไม่ทราบว่าหมายถึงใครที่โกง พี่ชายก็โกงเวลาสอบ พี่สาวก็เอ็นท์ไม่ติด แต่เข้าไปเรียนเกษตรได้โดยใช้วิชามาร ตัวเองก็มีคนช่วยให้โกง สรุปแล้วจะโกงกันทั้งครอบครัวเลยหรือ?

นายสมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวผลการสอบวัดความรู้ครั้งที่ 2 ของลูกนักการเมืองดีขึ้นจากครั้งแรกแบบผิดปกติ โดยเฉพาะวิชาภาษาไทย 70% และสังคม 63.64% ว่า ทำให้ตนค่อนข้างมั่นใจว่าข้อสอบเอ็นทรานซ์ที่เป็นข่าวใน 2 วิชาหลักนี้อาจรั่วจริง เพราะโดยปกติในฐานะที่ตนมีลูกซึ่งกำลังสอบและฟังจากนักวิชาการที่เกี่ยวข้องระบุว่า ต่อให้ทุ่มเทขนาดไหน มีการกวดวิชาอย่างไร คะแนนก็ไม่น่าเกิน 15-20% เพราะเป็นวิชาที่ต้องสะสมความรู้และต้องมีความรักในวิชานั้นจริงๆ ไม่มีใครทำคะแนนได้เกิน 100 สิ่งที่สะท้อนออกมาทำให้เห็นว่าข่าวที่ออกมาตอนแรกๆ น่าจะเป็นจริง คิดว่าปีนี้หลังทราบคะแนนแล้วหรือมีการประกาศผลว่าใครเข้ามหาวิทยาลัยไหนได้ต้องมีการฟ้องร้องกันเละอย่างแน่นอน คิดว่ากระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) คงต้องตอบคำถามสังคมได้ยากขึ้นทุกวันว่าข้อสอบไม่รั่วจริงหรือ

การบริหารการศึกษาเป็นการบริหารคน ถ้าคนมีคุณภาพดี ประเทศก็จะดีด้วย ไม่ว่าผลการตรวจสอบจะออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม ขอให้รัฐบาลผู้เกี่ยวข้องพิจารณาดูให้ดีว่าควรจะทำอย่างไร มัวแต่เพิกเฉยกันอยู่นี่แล้วประเทศไทยจะเหลืออะไรแม้กระทั่งการซื่อสัตย์ยังไม่มี การศึกษานะไม่ใช่ขายมือถึอ ไม่ใช่การทำธุรกิจ แต่ละเอียดอ่อน ต้องการคุณภาพ ไม่ใช่บริษัทฯ ที่เคยบริหาร ทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้ได้กำไร

คนคะแนนสูงปีนี้ต้องมี 2 พวก คือเก่งจริง กับ โกงจริง สมเพช กับการศึกษาไทยมากๆๆ เด็กไทย การศึกษาไทย ไม่เจริญ เพราะผู้ใหญ่แบบนี้

ข่าวที่ทุกคนตะลึง ! บุกฉกข้อสอบเอ็นทรานซ์รอบสอง "บิ๊ก"สกอ.ส่งเจ้าหน้าที่ล้วง 9 วิชาหลักถึงโรงพิมพ์ หลังประธานกรรมการกลั่นกรองชุดวิชาภาษาไทย-สังคม สั่งเปลี่ยนข้อสอบใหม่แล้วเมื่อพบปมผิดปกติ "อดิศัย โพธารามิก"อุ้ม"วรเดช"บอกไม่ติดใจเปิดซอง คนออก-คนพิมพ์ก็เห็น คนเป็นประธานดูจะเสียหายอะไร เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษาฯออกตัวเรื่องท้าให้ไล่ออก อ้างแค่คุยสนุกๆ ฟังแล้วเศร้าใจ คนอย่างนี้หรือเป็นผู้บริหารการศึกษาของประเทศ

ทางด้านนางกาญจนา นาคสกุล ประธานคณะกรรมการกลั่นกรองชุดวิชาภาษาไทย กล่าวว่า ยังรู้สึกคลางแคลงใจกับคำชี้แจงของ ร.ต.อ.วรเดช ที่ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการศึกษาฯว่า เปิดซองเพื่อตรวจดูคำผิดถูก แต่ดูได้ 2 วิชาไม่รู้เรื่อง จึงไม่ดูต่อ แต่กลับให้สัมภาษณ์สื่อว่าไม่มีเวลาพอ จึงดูได้แค่ 2 วิชา

อาจารย์กาญจนา นาคสกุล ( ที่ทุกคนยอมรับว่าเป็นผู้ทรงคุณธรรม ท่านเป็นคนแรกที่ยืนขึ้นไม่ยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่โดยดี เป็นคนที่เปิดเผยพฤติกรรมของนายวรเดช ) ท่านบอกว่า" เข้าใจสภาพจิตใจของเด็กที่สอบเอ็นทรานซ์ดี แต่ขอให้พวกเรายอมรับสภาพที่เกิดขึ้น แม้จะอยู่ในลักษณะที่ต้องจำใจก็ตาม ขอให้คิดซะว่า พวกที่เค้ามีอภิสิทธิ์แค่คนสองคนเนี่ย ทำบุญมาแต่ชาติปางก่อนแล้วกัน เค้าถึงมีอภิสิทธิ์ตรงนี้"

ส่วนอาจารย์คนหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับการจัดทดสอบวัดความรู้ครั้งนี้ เปิดเผยปัญหาพฤติกรรมผิดปกติที่เกิดขึ้นในปีนี้ ไม่ใช่มีแค่การเปิดดูข้อสอบ ทั้งนี้ ยังมีเงื่อนปมใหม่อีกว่า ภายหลังจากประธานคณะกรรมการกลั่นกรองชุดวิชาภาษาไทยและสังคม ได้ทำบันทึกถึงผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) เพื่อแจ้งว่าจะปรับปรุงชุดข้อสอบภาษาไทยและสังคมใหม่ โดยไม่ใช้ข้อสอบชุดที่ถูกเปิดซอง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เข้าสอบทุกคนแล้ว ปรากฏว่าในช่วงก่อนถึงช่วงวันหยุดมาฆบูชาศุกร์ที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา ผู้บริหาร สกอ.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ สกอ. 2 คน เข้าไปยังโรงพิมพ์ที่ใช้เป็นสถานที่จัดพิมพ์ข้อสอบวัดความรู้ครั้งที่ 2 ทั้งหมด และได้นำข้อสอบวิชาหลักทั้งหมดออกไป ทั้งวิชาภาษาไทย สังคม อังกฤษ คณิตศาสตร์ 1 และ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพชีวภาพ ฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยา ก่อนขั้นตอนการส่งมอบให้กับศูนย์สอบมหาวิทยาลัยต่างๆ นำไปใช้ในการสอบตั้งแต่วันที่ 8-10 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความตกตะลึงให้กับผู้เกี่ยวข้องอย่างมาก แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะมีการอ้างผู้มีอำนาจสั่งการให้มานำข้อสอบวิชาหลักออกไป

เท่าที่ฟังเหตุผลคำแก้ตัวยังไงก็ฟังไม่ขึ้น สำหรับคำแก้ตัวข้อง คุณ"วรเดช" ในเมื่อทุกๆอย่างมันมีประเด็นไปทางลูกนายก ตอนนี้สังคมก็เชื่อว่ามันอาจจะเป็นจริง เพราะขนาดลูกคนที่2ของท่านายกฯ ก็ยังไม่โปร่งใส มีการย้ายคณะจากอุตสาหกรรมภาคพิเศษ ไปอยู่คณะสังคมภาคปกติ มันก็ไม่ปกติแล้วล่ะ

รัฐบาลนี้ เอะอะอะไรก็เอื้ออาทร นี่ลามปามเข้ามาถึงข้อสอบเอื้ออาทร แล้วตามมาติดๆด้วย คะแนนเอื้ออาทร อีก 3-4 ปีถัดไป แน่นอนว่า ต้องมี ปริญญาเอื้ออาทร ตามมาแน่ๆ เพราะสมองแค่นี้ จะให้จบเองได้อย่างไร ? เลยต้องโกงเบ็ดเสร็จแบบบูรณาการ

ปัญหาข้อสอบเอ็นทรานซ์รั่วที่ผ่านมา เห็นถึงความพยายามของร.ม.ต.อดิศัย ที่ช่วยอุ้มกันไปอุ้มกันมา สมกับเป็นรัฐบาลเอื้ออาทรจริงๆ รัฐบาลชุดนี้ขยันสร้างปัญหาใหญ่ๆ ปัญหาใหม่ๆ ตามมาอีกหลายๆปัญหาด้วยเหมือนกัน บางปัญหาเป็นปัญหาที่ดูจะบานปลาย ทำลายศรัทธาของคนทั้งประเทศ และยังไม่มีท่าทีว่าจะจบลงง่ายๆเสียด้วย

Website ที่มีเด็กๆเข้าไปดูหลายหมื่นคนและออกความเห็นเกือบ 1,000 คน คือhttp://www.dek-d.com/board/view.php?id=156281 ก็ถูกลบ ดูไม่ได้ ก่อนการประกาศผลรอบ 2 จะออก เรียกว่าปิดหู ปิดตา ปิดปากเด็กได้ แต่อย่าลืมว่า ทำยังไงก็ ปิดใจ เด็กๆที่สอบไม่ได้

ข้างล่างนี้เป็นส่วนหนึ่งของความเห็นของเด็กๆ จาก Website ดังกล่าว



ความคิดเห็นที่ 25

ทำไมต้องโกงกับเด็กๆๆด้วย ผู้ใหญ่โกงกันเองยังไม่พอเหรอ ไม่มีความยุติธรรมในสังคมไทยแล้วหรือนี่ แปลกจังนะคนเราสมัยนี้ ชอบว่าแต่วัยรุ่นเลวอย่างนั้นเลวอย่างนี้ แต่ไม่ยักกะดูตัวเองก่อน ผู้ใหญ่อ่ะทำตัวให้ดีดีก่อนเถอะ ฝากไว้ด้วย

จาก : อนาคตของชาติ [ IP : 202.129.48.162=>192.168.90.3 ]

เข้า ใจเลือกวิชาเปิดนะ เพราะเป็นวิชาที่.........สอบป่าว แล้วเปิดตกลงมีไรผิดพลาดมะ แก้ไรไปมั่งล่ะ เหอะๆไม่ต้องตอบก็รู้ว่าไม่ เพราะก็คงรู้ๆกันอยู่ว่าเปิดทำไม ทีวิชาอื่น เลข อังกฤษ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ไม่ยังกะกลัว ข้อสอบผิดมั่ง

..

ตอนแรกได้ข่าว ก้อไม่อยากเชื่อ...คิดว่า คนเป็นผู้ใหญ่น่าจะมีหัวคิด

แต่ปรากฏว่าเปิดจริงๆ เปิดทำบ้าไรอ่ะ...ถ้าคะแนนเกิดเฟ้อ เกิดสูงขึ้นมา คุณจะรับผิดชอบยังไง จะเอาเด็กที่สอบได้คะแนนเยอะมาสอบใหม่อย่างงั้นหรอ ไม่ยุติธรรมเลย คนคะแนนสูงปีนี้ต้องมี 2 พวก คือเก่งจริง กับ โพยจริง

สมเพช กับการศึกษาไทยมากๆๆ เด็กไทย การศึกษาไทย ไม่เจริญ เพราะผู้ใหญ่แบบนี้

.

เพราะอยากให้ลูกของคนใหญ่คนโตติดมหาลัยดีๆใช่ป่ะ.....โทดดีนะ แบบนี้มันจะเห็นแก่ตัวมากไปหน่อยและ ลูกของคุณอาจจะได้เกรด 4.00 แต่ด้านปัญญาอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นเลย อาจจะ 2 กว่าๆ พวกอาจารย์ก็อย่างงี้แหละ เห็นว่าเป็นลูกของคนใหญ่คนโต เลยต้องเกรงใจ บ้าหรือป่าว คนเหมือนกัน มีสิทธิเท่าเทียมกัน ถึงไงตายไปก็ต้องลงหลุมเหมือนกัน แล้วจะเอาสิทธิพิเศษหรือไงห๊า



ฝากบอกพวกผู้ใหญ่ไว้เลยนะ....เชิญเข้ามาอ่านได้ พวกคุณมันไร้สมอง เห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่ความรู้ ไม่เห็นแก่มนุษยธรรม ไม่เห็นใจเด็กที่อ่านหนังสือแทบเป็นแทบตาย โกงอย่างหน้าด้านๆ



ฟังเสียงเด็กๆแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง ที่เรารู้กันว่า ตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน แล้วตัวอย่างอย่างนี้ จะสอนอะไรกับเด็กๆลูกหลานของเราได้ ?

อย่าลืมว่าคุณสามารถโกงคะแนนมาได้ แต่ไม่สามารถโกงไอคิวให้ลูกได้ ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหนก็ตาม น่าสงสารลูกจริงๆ เกิดมาโชคร้ายเหลือเกินที่ถูกสอนมาอย่างผิดๆ ทำผิดๆ ตั้งแต่ยังเด็ก



บุคคลทั่วไป

โพสต์ โดย บุคคลทั่วไป » พฤหัสฯ. เม.ย. 29, 2004 12:13 pm

เกิดเป็นลูกคนรวย+มีชื่อเสียง นี่ลำบากนะครับ สอบเข้ามหาลัยได้เขาก็ว่าโกง ถ้าลองสอบไม่ได้ เขาก็ว่าโง่ ถ้าจะลองไปเรียนต่อต่างประเทศ มหาลัยใด ๆ ก็ได้ในโลกนี้ (ที่ดัง ๆ ) ก็คงจะโดนว่าอีก ว่ารวยแล้วทำเป็นกระแดะต้องไปเรียนต่างประเทศทำไมให้เปลือง เรียนมหาลัยในประเทศก็ได้จะได้เป็นตัวอย่างให้เด็กไทยคนอื่น ๆ ได้บ้าง
สรุปถ้าเป็นคนเด่นคนดัง ไม่ว่าทำอะไรก็แล้วแต่ ก็จะถูกติฉินนินทาอยู่ร่ำไป ไม่ว่าจะทำด้วยความสุจริตหรือไม่ก็ตาม สมควรแล้วหรือครับ ที่เรา ๆ ท่าน ๆ จะเที่ยวติฉินนินทาเขา โดยที่เรายังมิได้ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด หรือ ทราบแค่เพียงบางส่วน มันยุติธรรมหรือไม่
ควรใช้หลัก กาลามสูตร ครับ ผู้ที่เป็นชาวพุทธคงทราบนะครับว่าหมายถึงอะไร

อีกอย่าง "ผู้ที่ไม่ถูกนินทาในโลก ไม่มี" จริงอย่างที่พทธองค์ ท่านตรัสไว้ เมื่อกว่า 2547 ปีที่แล้ว



บุคคลทั่วไป

โพสต์ โดย บุคคลทั่วไป » พฤหัสฯ. เม.ย. 29, 2004 4:48 pm

ก็นั้นสินะ ถ้าใช้ กาลามสูตร คงได้เห็นบางอย่างข้างในเปลือกนอกที่เป็นทอง



ล็อคหัวข้อ