CPI

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ล็อคหัวข้อ
lychee not log in

CPI

โพสต์ โดย lychee not log in » ศุกร์ ก.ค. 02, 2004 11:55 pm

พี่ ๆ คนไหนมีความเห็นอย่างไร เกี่ยวกับหุ้นตัวนี้ครับ ชุมพรอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม อยู่ในข่ายหุ้นห่านทองคำไหมครับ

กำไรไตรมาสแรกปี 2547 ตก 32 สต. ต่อหุ้น ราคา 5.60 PER ยังไม่ถึง 5 เท่าเลย P/BV ก็ไม่เกิน 1.1 เท่า ปันผลล่าสุด 45 สตางค์สำหรับผลดำเนินการปี
46

ราคาน้ำมันปาล์มปีนี้เฉลียก็สูงกว่าปีที่แล้วพอสมควร ผมได้แย็บ ๆ ไปบ้างแล้ว แต่อยากรู้ข้อมูลมากกว่านี้

หากใครตามตัวนี้กรุณาแบ่งปันด้วยครับ



cpi

โพสต์ โดย cpi » เสาร์ ก.ค. 03, 2004 8:37 am

คุณ hot ไงครับ ปีที่แล้ว เห็นพูดถึงบ่อย ๆ ปีนี้ไม่รุ้ขายไปหรือยัง ถ้าอ่านอยู่ แนะนำให้ข้อมูลด้วยครับ



บุคคลทั่วไป

โพสต์ โดย บุคคลทั่วไป » เสาร์ ก.ค. 03, 2004 8:53 am

มีคุยกันเรื่องน้ำมันปาลม์ใน

กระทู้ อยากเรียนถามความเห็นทุกท่านเรื่องหุ้นน้ำมันปาล์มต่างๆค่ะ

http://www.thaivalueinvestor.com/webboa ... php?t=5138



lychee not log in

โพสต์ โดย lychee not log in » เสาร์ ก.ค. 03, 2004 10:13 am

ขอบคุณมากครับ



เพื่อนมายู

โพสต์ โดย เพื่อนมายู » อาทิตย์ ก.ค. 04, 2004 12:29 am

ดูจากข้อมูลแล้ว น่าสนนะครับหุ้นตัวนี้ ผู้บริหารก็ดูกระตือรือร้นที่จะพัฒนาดี ราคาหุ้นก็ใช้ได้ การขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น2เท่าในอีกปีกว่าๆ รัฐบาลก็สนับสนุนให้เร่งปลูกปาล์มเพิ่มในประเทศให้มากขื้นกว่าปัจจุบัน

ติดอยู่ปัญหาเดียวครับที่ยังไม่ค่อยแน่ใจ ก็เรื่องอาฟต้า จะมีผลแค่ไหนในอนาคตและจะมีผลเมื่อไหร่ เพราะต้องแข่งกับมาเลเซีย(จ้าวตลาด)

ไม่ทราบคุณลูกอีสาน และคุณpk8 มีความคิดเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไรบ้างครับ และถ้าจะเปรียบเทียบราคาขายของ cpi กับราคามาเลเซีย จะสามารถดูได้จากที่ไหนบ้างครับ เพราะในอนาคตคงต้องสู้ราคากับมาเลเซียที่ไม่ต้องเสียภาษีแน่ๆนะครับ

อีกเรื่องครับ ความต้องการไบโอดีเซล จะเกิดผลดีกับcpiมั้ยครับ จากข่าวตอนนี้ทหารเรือเริ่มนำไปทดลองใช้กับเรือรบแล้ว เห็นว่าใช้ได้ดี แต่ติดปัญหาราคายังแพงกว่าน้ำมันดีเซล(ต้นทุนไบโอดีเซลตกอยู่ประมาณ27.50บาทต่อลิตร)เรื่องนี้เป็นสาเหตุให้รัฐบาลเร่งสนับสนุนการปลุกปาล์มในประเทศครับ คิดว่ายังไงกันบ้างครับ ขอความเห็นหน่อย



WPONG NOT LOGIN

โพสต์ โดย WPONG NOT LOGIN » อาทิตย์ ก.ค. 04, 2004 2:58 pm

ผมเคยมีหุ้นน้ำมันปาล์มอยู่ 99 % ของพอร์ท แต่หลังจากพบข้อมูลราคาน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์เปรียบเทียบระหว่างไทยและมาเลเซีย พบว่า ราคาน้ำมันปาล์มดิบพอๆกัน แต่ราคาน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ไทยแพงกว่า 30 - 40 % ครับ
รายละเอียดอยู่ในจดหมายข่าวปาล์มของม.สงขลาครับ พอดี URL เก็บไว้ที่ทำงาน จะนำมา Post ใหเอีกครั้งหนึ่งครับ หรือใครมีเมล์รับเป็นศูนย์กลางส่งต่อให้ท่านอืนๆ ช่วยแจ้งให้ทราบด้วยผมจะส่งข้อมูลไปให้
ผมขายหุ้นน้ำมันปาล์มทิ้งหมดแล้วครับ
CPI เพิ่งผ่านการตีมูลค่าทรัพย์สินใหม่ (ที่ดิน)ดังนั้นไม่ควรให้ความสำคัญกับ bv มากนักครับ หากคุณไปดู UPOIC ซึ่งมีที่ดินที่ครอบครองแต่ไม่เป็นโฉนดเป็นพันไร่ดิดถนนสาย 44 (4 เลน land bridge) ให้ทายราคาในบัญชีว่าถึง 10 ล้านหรือเปล่า
CPI มีการทำบัญชี conservative กว่า LST หากพิจารณาเรื่องการตัดค่าเสื่อม
และป้จจุบันยังได้รับผลบุญจากการขาดทุนในบริษัทย่อยทำให้เสียภาษีไม่มาก

ผมเคยสำรวจราคาน้ำมันปาล์มบริสุทธ์พบว่าตราแววถูกที่สุด รองลงมาจะเป็นตรา Lotus กับหยก ครับ
ไม่จำเป็นต้องเชื่อครับ :P



wpong not login

โพสต์ โดย wpong not login » อาทิตย์ ก.ค. 04, 2004 10:20 pm

พี่ลูกอีสานครับ คือผมถือหุ้นนำมันปาล์มแล้วเสียวครับ ถ้าไม่มีกำแพงภาษีเมื่อไร หรือ อัตราภาษี 5 % ที่กำหนดปัจจุบันเนี่ยมีผลทางปฎิบัติจริงเมื่อไร โรงกลั่นเราลำบากแน่ ซึ่งผมมีคติว่าไม่ถือหุ้นที่ทำให้กังวลครับ
URL จะโพสต์ให้พรุ่งนี้
อย่างไรก็ตาม โรงกลั่นของ LST กลั่นน้ำมันอื่นๆเช่นน้ำมันถั่วเหลืองก็ได้ครับ แต่ถ้าเรามั่นใจว่า Gross Margin ลดลง จะถือทำไมครับ
:roll: CPI อยากให้ไป search ที่ผมโพสต์ไว้ว่ากำไรไตรมาสนี้จะลดลงครับ ผมได้โพสต์ URL ของกรมการค้าภายในที่แสดงราคารับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกร ซึ่งจะพบว่าช่วง ก.พ. - เมย.CPI ซื้อแพงกว่าที่อื่นครับ
UPOIC เราลองคิดดูว่า ผู้ถือหุ้นเจ้าเดิมเขาขายถูกให้ LST จริงหรือ ลองคิดดูว่าต้นปาล์มให้ผลผลิตตั้งแต่ อายุ 3 - 15 ปี และสัมปทานที่ดินเหลืออีก 10 ปีแล้วไม่รู้จะได้ต่อหรือเปล่า ถ้าผมมีที่ว่างในเขตสัมปทานเนี่ย ผมควรปลูกเพิ่มเพื่อรับผลผลิตเพียงแค่ 7 ปีหรือเปล่า หากดูในงบกระแสเงินสดจะพบว่า เขาปลูกเพิ่มในปี 44 - 45 แต่พอ 46 หยุดเลยทั้งๆที่เคยมีนโยบายที่จะปลูกเพิ่มเรื่อยๆ
ส่วนเรื่อง biodiesel เนี่ยคงไม่มีผลอะไร ราคาน้ำมันปาล์มดิบ แพงพอๆกับน้ำมันดีเซล และผันผวน และควบคุมปริมาณยากกว่า
UVAN ปัจจุบันมี 2 โรง โรงแรกเก่ามาก กลั่นเมล็ดในยังไม่ได้เลย แต่เขาเป็น Trader ถึงได้อยู่รอด และน่าสนใจ การทำกำไรแต่ละครั้งเกิดจากความสามารถของผู้บริหาร เช่นปี 44 น้ำมันปาล์มดิบล้น เลยช่วยรัฐโดยการรับซื้อและส่งออก แต่ได้เก็บไว้ส่วนหนึ่ง พอปี 45 น้ำมันปาล์มแพง เลยเอาในสตอกมาขายได้กำไรบาน ผมไม่แน่ใจว่าเขาจะเก่งได้ตลอดไปครับ แต่ผมยอมแพ้กับการเกษตรครับ เพราะคาดเดายาก
ตอนนี้ผมพบหุ้นที่คิดว่าฝากผีฝากไข้ได้จึงไม่คิดกับเป็นชาวสวนอีกครับ
ผมนับถือพี่ หากมีอะไรให้ช่วยยินดีครับ ที่เขียนทั้งหมดมาจากความจำอาจมีผิดพลาดบ้าง



wpong not login

โพสต์ โดย wpong not login » อาทิตย์ ก.ค. 04, 2004 10:27 pm

Inventory turnover ถ้านับจาก ซื้อปาล์มดิบ ถึง ขายน้ำมันบริสุทธ์ ประมาณ 1 - 1.5 เดือน คราวนี้ลองคิดดูว่าราคาน้ำมันปาล์มดิบและน้ำมันปาล์มบริสุทธ์ที่ลดลงในช่วงไตรมาส 1 - 2 จะมีผลอย่างไร ถ้าไม่ใช่ซือวัตถุดิบแพงแต่ต้องมาขายราคาถูกครับ
ผิดพลาดอย่างไรขออภัยด้วยครับ



เพื่อนมายู

โพสต์ โดย เพื่อนมายู » จันทร์ ก.ค. 05, 2004 1:21 am

ขอบคุณครับ คุณwpong สำหรับข้อมูล ถ้ามีเวลา รบกวนช่วยpost url ด้วยนะครับ

ผมลองคิดเล่นๆแบบง่ายๆนะครับ
ณ ปัจจุบัน P/E ของ CPI =5 ที่กำลังการผลิต 300ตัน/วัน
ถ้าสมมุติทุกอย่างเหมือนเดิม ที่การผลิตในอนาคต 600ตัน/วัน P/E จะ=2.5
แต่ราคาของมาเลเซียทำให้ต้องลดราคาตามลงมา30% - 40% พร้อมทั้งมีต้นทุนโรงงานใหม่เข้ามาหักกำไรออกอีก สมมุติ20%(ไว้ค่อยคำนวนละเอียดอีกที) แสดงว่ากำไรจะหายไปรวม50% - 60% P/E ก็น่าจะประมาณ5 -6 ใกล้เคียงกับปัจจุบัน ผมว่าเค้าคิดเผื่อ อาฟต้าไว้แล้วนะ
ในขณะเดียวกัน ราคานี้สามารถส่งออกสู้กับมาเลเซียได้แล้ว เป็นการเปิดตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น ทีนี้ก็ต้องมาตัดสินกันที่ demand

ปัจจุบันราคาน้ำมันปาล์มขึ้นเพราะ ถั่วเหลือง บราซิลมีปัญหาติดเชื้อรา ในอนาคตความต้องการน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้นทุกปีๆละ8%(ตามสถิติที่วิจัยไว้) และในที่สุดผมว่า ไบโอดีเซลจะกลายมาเป็นความหวังพลังงานทดแทนเชื้อเพลิงได้ เนื่องจากน้ำมันใกล้จะหมดโลกในอีก 30-40 ปีข้างหน้านี้ ราคาดีเซลจะต้องขึ้นไปสูงกว่าปัจจุบันอีกหลายเท่าในเร็วๆนี้ demandของน้ำมันปาล์มจะเพิ่มขึ้นอย่างมากทันที (ถ้าไม่มีการค้นพบเชื่อเพลิงทดแทนที่ราคาถูกกว่า)

ไม่ทราบว่าคิดเล่นๆแบบนี้ ผิดถูกอย่างไรบ้างครับ วิจารณ์ได้ครับ ไม่รู้ว่าคิดไกลเกินไปหรือเปล่า
ว่าแต่คุณ wpong หันไปจับหุ้นต้วไหนแทนเหรอครับ ที่ว่าฝากผีฝากใคร่ได้ พอจะกระซิบๆกันได้มั้ยครับ



wpong not login

โพสต์ โดย wpong not login » จันทร์ ก.ค. 05, 2004 9:04 am

URL http://www.psu.ac.th/natural_res/oilpalm/
เข้าไปที่ Newsletter เลือกปีที่ 4 ฉบับที่2ของจดหมายข่าวน้ำมันปาล์ม

ผมว่าสินค้าการเกษตรเนี่ย เราจะตั้งสมมติฐานว่าทุกอย่างเหมือนเดิม เนี่ยเสี่ยงเกินไปครับ
CPI มีลูกค้าหลักเป็นโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งหากเพิ่มการผลิตจะต้องมาต่อสู้กับ หยก แวว Tesco ลองไปดูสิครับว่าใครผลิตให้ TESCO ทั้งๆที่ Brand เขาเองก็ติดตลาดอยู่แล้ว
อันที่จริงน้ำมันปาล์มดิบสามารถนำไปเพิ่มคุณค่าได้หลายทาง แต่ประเทศเรายังไม่ครบวงจรดังนั้น Contribution Margin สู้มาเลย์ไม่ได้ แต่ที่น่ากลัวจริงๆน่าจะเป็นยักษ์หลับ อย่างอินโด

จดหมายข่าวที่นำเสนอมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์อยู่เยอะ ลองดูครับผมอาจผิดก็ได้ครับ

ผมไม่อยากบอกชื่อหุ้นทีกำลังสะสมอยู่ตอนนี้ ไม่ใช่ว่าหวงนะครับ คือ
ตอนผมถือหุ้นน้ำมันปาล์มก็มั่นใจสุดๆ ชวนใครต่อใครซื้อ พอพบข้อมูลนี้ผมจึงขาย และต้องโทรไปบอกคนอีกมาก ผมคิดว่าเลิกบอกดีกว่าว่าเราสนใจอะไรอยู่ ถ้าเขาซื้อตามมันเป็นภาระทางใจเหมือนกันครับ คุยหุ้นแต่ละตัวเหมือนเราไม่เป็นเจ้าของ สุขใจกว่าครับ

ปล. ผมเชือว่าถ้าเราขายน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ในราคาเดียวับมาเลย์ เราน่าจะขาดทุนครับ :evil:



wpong not login

โพสต์ โดย wpong not login » อังคาร ก.ค. 06, 2004 8:24 am

ตอบคุณเมย์ครับ
หุ้นที่ผมเลือกมีข้อดีในด้านจิตใจของผู้ถือครับ เป็นบริษัทที่ Made to order และขยายกิจการได้โดยไม่ต้องขยายโรงงาน ดังนั้นจะไม่เกิดเหตุการณ์คล้ายๆ FANCY
สามารถติดตามความก้าวหน้าของกิจการได้ง่ายจากงบกระแสเงินสดในส่วนของการลงทุน ไม่ใช่แบบ tttm หรือ topp
ไม่มีบริษัทลูกซึ่งทำให้เราติดตามกิจการยากเช่น BGH หรือทำให้ P/E ดูเหมือนดีแต่กระแสเงินสดที่ส่งมาถึงบ.แม่เป็นเงินปันผลเล็กๆเช่น TR ซึ่งถ้าเกิดหมีมาเยือนคงดิ่งต่อ ไม่มีขาดทุนสะสมเยอะๆแบบ CSC ที่ต้องรออีกนานกว่าจะปันผลได้
พยากรณ์อนาคตง่ายเนื่องจากสินทรัพย์ส่วนใหญ่เป็นสินทรัพย์ที่ทำกำไร ไม่ใช่มีที่ดินเยอะๆแต่ไม่รู้เมื่อไรจะสร้างประโยชน์ได้เช่น SUC
ไม่มีเรื่องในศาลที่มีผลกระทบต่อกิจการอย่าง DTC
นโยบายของรัฐไม่มีผลต่อกิจการมากเหมือนบ.อุตสาหกรรมหนัก
เป็นเบอร์ 1 ในธุรกิจนั้น และมีความได้เปรียบอย่างยั่งยืน
ปัจจุบันหุ้นตัวนี้อยู่ใน 100คน100หุ้น มี PE ต่ำกว่า8 ราคาไม่ไปใหนพราะถูกจัดอยู่ในหมวดของกิจการที่อนาคตมืดมน ค่า ROA ไม่สูงมากประมาณ 10 แต่ ROE สูงเนื่องจาก D/E สูง บางคนไม่ชอบเพราะหนี้เยอะ แต่ผมชอบ เพราะเป็นกิจการที่พยากรณ์เงินสดง่าย ดังนั้นการจ่ายดอกเบี้ยไม่ใช่ปัญหา
ข้อเสียคือราคาไม่ไปใหน แต่ผมชอบจะได้ซื้อเพิ่มทุกเดือน
ผมขอแนะนำให้อ่านใน 100 คน 100 หุ้นครับ
พี่ลูกอีสานครับ ผมคิดว่าอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มมีโอกาสดีได้ถ้า
1.ภาครัฐให้การสนับสนุนเช่นเดียวกับมาเลย์
2.ความต้องการของจีน และอินเดียมากพอที่จะเพิ่มราคาของน้ำมันปาล์ม

ผมเห็นด้วยที่บ.น้ำมันปาล์มกำไรมาตลอดเพราะ
1.บ.กลั่นน้ำมันปาล์มบริสุทธ์มีกำไร เพราะ FTA ยังไม่มีผลในทางปฏิบัติ
2. บ.ได้รับสัมปทานที่ดินในราคาถูกแสนถูก พี่ลองดู Gross Margin ของ UPOIC ดูครับ
แต่ 2 ข้อนี้กำลังจะเปลี่ยนไป พี่ลองเปรีบเทียบราคาน้ำมันปาล์มบริสุทธ์ของเขา กับน้ำมันดิบของเราดูแล้วจะพบว่าราคาแทบไม่แตกต่างกันครับ
สิ่งที่เราน่าจะสนใจคือ บ.เหล่านี้ตั้งรับอย่างไร
ส่วนตัวผมชอบบ.ที่จะดีขึ้น และมีความเสี่ยงน้อยครับ ผมซื้ออนาคตครับ
ต้องขอโทษอย่างแรงถ้าล่วงเกินหุ้นของท่านใดไปบ้างครับ



wpong not login

โพสต์ โดย wpong not login » พุธ ก.ค. 07, 2004 8:55 am

คุณ Stockms ครับผมเคยโพสต์เรื่องของ cpi ไว้ดังนี้
ผมเคยแปลกใจว่าทำไม q1 - 2 /03 ของ LST ถึงกำไรมาก แต่ cpi ขาดทุน ผมพบราคารับซื้อปาล์มด้านล่างจากhttp://www.oae.go.th/cgi-bin/database/price/da ... one=market
พบว่าบางเดือน cpi รับซื้อปาล์มดิบ แพงกว่าที่อื่นมาก เดือนมีค นี้เป็นอย่างนั้นอีกแล้วครับ
อ.อ่าวลึก อ.พระแสง CPI
Dec-02 4.71 4.47 4.58
Jan-03 3.51 3.44 4.95
Feb-03 2.53 2.45 -
Mar-03 1.99 1.98 -
Apr-03 1.7 1.57 -
May-03 1.75 1.65 -
Jun-03 2.15 2.11 -
Jul-03 2.34 2.33 -
Aug-03 2.4 2.3 -
Sep-03 2.66 2.63 -
Oct-03 3.37 3.29 -
Nov-03 3.61 3.5 -
Dec-03 3.49 3.43 -
Jan-04 3.06 3.07 3.1
Feb-04 3.27 3.29 3.28
Mar-04 3.22 3.25 3.5

ผมไม่กล้าถือบริษัทที่ซื้อวัตถุดิบแพงกว่าชาวบ้านเขาครับ
สำหรับ UVAN ผู้บริหารเก่งมากเคยผ่านเหตุการณ์ร้ายๆมาได้หลายครั้ง แต่พี่อย่าหวังผลกำไรจากโรงงานใหม่มากนักนะครับ เพราะปัจจุบันเรามีกำลังการกลั่นน้ำมันปาล์มดิบมากกว่าผลผลิตประมาณ 2 เท่า ก็ต้องแย่งซื้อจน Gross Margin เป็นอย่างที่เห็นอีกทั้งโรงงานใหม่ต้องซื้อผลผลิตจากภายนอกทั้งหมด พี่สามารถหาค่า IRRจาก หนังสิอชี้ชวนของ UVAN ได้ครับ อย่าลืม discount ด้วยการซื้อหุ้นที่แพงกว่า book value หลายเท่าด้วยครับ

พี่ลูกอีสานครับ ผมเห็นด้วย 1000% ครับว่าต้นทุนทางการเงินส่วนสำคัญ เพียงแต่ว่าผมไม่มีความสามารถในการประเมิน บ.โอริค และเชื่อว่าตลาดกว้างใหญ่เพียงพอสำหรับทั้ง 2 บริษัทครับ
เรื่องดอกเบี้ยคงกระทบทุกบริษัท ผมจึงไม่ได้เอามาคิดครับ
กำไรจากการขายรถมือสอง ผมว่าไม่ผันผวนนะครับ
โดยสรุปแล้วผมซื้อบริษัทนี้โดยพิจารณาข้อมูลด้านคุณภาพน้อยกว่าพี่ลูกอีสานเยอะครับ ผมแค่เห็นว่าบ.อยู่ในช่วง Growth และมี PE ประมาณ 7 ยิ่ง PEG แล้วยิ่งน้อยใหญ่ อีกทั้งไม่ต้องหวั่นเกรงการยักยอกของผู้บริหาร เพราะถ้าเขาซื้อรถ Altis เราก็รู้อยู่แล้วว่าราคาเท่าไร ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ก็ได้ประโยชน์จาก ประกันภัย และดอกเบี้ยในระดับ MRR ซึ่งผมว่าแพงไปหน่อยแต่ก็เอาเถอะดีกว่าเขาเอานอกรอบ หุ้นตัวนี้มีพี่สามัญชนช่วย update อยู่สม่ำเสมอ อีกทั้งมีคนคุมราคาไม่ให้ตกอยู่ทุกวัน
ปัจจุบัน Market Cap ไม่สูงแต่หากขยายธุรกิจได้ จะกลายเป็นหุ้น Blue Ship ที่ติดพอร์ทกองทุนครับ
ความคิดเห็นผมเบี้ยวๆไปหน่อยครับ
ตอบคุณเมย์ครับ ผมไม่มีหลักในการเลือกหุ้นที่แน่นอนครับ เปลี่ยนไปตามอารมณ์ตัวเอง และผู้ลงทุนอื่นๆครับ :twisted:



เพื่อนมายู

โพสต์ โดย เพื่อนมายู » พฤหัสฯ. ก.ค. 08, 2004 12:43 am

ขอบคุณครับคุณ wpong สำหรับ url ผมแวะเข้าไปดูมาแล้ว ราคาน้ำมันปาล์มกลั่นถูกกว่าของไทยมากจริงๆครับ แสดงว่าเค้าเก่งจริง

แต่มีข้อสังเกตุนึง ที่ไม่ควรมองข้าม.......ราคาวัตถุดิบของไทยถูกกว่ามาเลเซียมาก ปัจจุบันถูกกว่าเป็น100กว่าเปอร์เซนต์(ตามข้อมูลดังกล่าว)

แล้วเมื่อเวลานั้นมาถึง...สัญญาอาฟต้ามีผล (ซึ่งยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่) ถ้าผมเป็นเบอร์ล่ากรุ๊ป ผมต้องหาทางตั้งฐานผลิตในไทยให้ได้เนื่องจากเป็นแหล่งวัตถุดิบราคาถูก วิธีแรกที่ผมจะทำคือเจรจาร่วมทุนกับโรงงานที่น่าสนใจเพราะจะทำให้เริ่มได้เร็วและลดคู้แข่งลง แล้วค่อยขยายโรงงานออกไปอีก หนึ่งในน้ันน่าจะเป็น CPIเพราะจะมีเครื่องจักรใหม่ที่ทันสมัยที่สุด

แล้วถ้าผมเป็น CPI บ้าง ผมได้รับข้อเสนอให้ร่วมทุน...ถ้าผมไม่ยอมรับ ก็แสดงว่าผมสู้ไหวได้อย่างสบายๆ เพราะถ้าต้องสู้อย่างเหนื่อย...ผมยอมร่วมทุนดีกว่า ได้ตังมาแล้วค่อยไปหาอย่างอื่นทำแทนหรือทำเสริม โดยไม่ต้องมาแข่งกันแบบแพ้กันเห็นๆ

นิยายเรื่องนี้เขียนให้อ่านกันเล่นๆครับ สนุกดี......แต่ผมคิดอย่างนี้จริงๆนะ(เดี๋ยวว่างๆผมจะไปคุยกับเบอร์ล่ากรุ๊ป....อิอิอิ)



wpong not login

โพสต์ โดย wpong not login » พฤหัสฯ. ก.ค. 08, 2004 12:31 pm

ขอบคุณมากครับสำหรับคำขอบคุณ ทั้งๆที่ผมโพสท์ในแง่ลบของกิจการซึ่งอาจทำให้มูลค่าสินทรัพย์ของเพื่อนๆลดลง
ลองคิดดูนะครับ ผลจากการปกป้องของรัฐในอดีตทำให้เกษตรกรยังคงขายปาล์มได้ราคาถูก และเราซื้อน้ำมันพืชในราคาแพง แล้วใครได้ประโยชน์ครับ

ฝากพิจารณา PL ด้วยครับ การทำ Operating Lease ทำกำไรขั้นต้นประมาณ 30 % เชียวครับ ผมยังอยู่ในช่วงสะสมความรู้เกี่ยวกับ PL อยู่เหมือนกันครับ :lol:



ล็อคหัวข้อ