APRINT

[บุคคลทั่วไป]

ผมว่า..บ่อยครั้งที่ aprint มักถูกเปรียบกับ se-ed แต่ผมกลับไม่คิดอย่างนั้นเสียทีเดียว..เนื่องจาก ซีเอ็ด คือร้านขายหนังสือ(วารสาร,นิตยสาร.นสพ.,ช.ม.เนท,....จิปาถะ)รายได้เกิดจากการขาย(ดังที่กล่าวมา)
ขณะที่ อมรินทร์ คือ แพรว แพรวสุดฯ ชีวจิต และอื่นๆ รายได้หลักน่าจะมาจาก การขาย โฆษณาในพ.ท.ของ หนังสือ รายได้รองมา คือการขายหนังสือ และรับจ้างพิมพ์สื่อสิ่งพิมพ์

from ..BUZZ..

[บุคคลทั่วไป]

..ต่อ..
หากแนวความคิดนี้ไม่ผิด..
ซีเอ็ด ..ถ้าต้องการตัวเลขเพิ่มขึ้นจากการขาย..(นอกจากทำ promotion
และสรรหา หนังสือดีๆ มาจำหน่ายแล้ว..) สิ่งสำคัญ..ที่ต้องทำคือ.." การเปิด สาขา เพิ่มขึ้น เรื่อยๆ " เพื่อให้ร้านค้าของตน เข้าถึง ล/ค ทั่วประเทศ ......ถึงตรงนี้ ผมไม่มั่นใจ ว่าจะทำได้ดี เนื่องจาก ภาพลักษณ์เดิม ของ ซีเอ็ด มักจะเป็นร้านหหนังสือ ในห้างฯ ไม่ค่อย stand alone
ซึ่งจะทำขยายสาขา ได้ช้า เพราะห้างเปิดใหม่มีไม่มาก.................
กลับมามองที่ อมรินทร์ จากที่ผมว่า รายได้ เขามาจากไหนแล้ว
หากลองมองดูว่า ถ้าเขาต้องการรายได้เพิ่ม จะมาจากไหน
ลองคิดเล่นๆนะครับ หลายปีก่อน ผมขายแพรว แล้วก็มามีแพรวสุดฯ
ต่อมามีชีวจิต(ตรงนี้ ผมว่าเขาสร้างกระแส คนรักสุขภาพ และก็ทำได้ดีมากๆด้วย ) แล้วก็มามี health&cuisine : ด้านบ้าน&สวน ต่อมามี room
ณ.วันนี้ national geo อีก
from ..BUZZ..

[บุคคลทั่วไป]

..ต่อ..
การเปิดร้านนายอินทร์ ยิ่งเป็นการเอื้อ ประโยชน์ ให้กับหนังสือในเครือ ไม่มากก็น้อย และกล้าเปิดแบบ stane alone เช่น สาขา ท่าพระจันทร์,รามฯ concept ที่ผมชอบมากเป็นพิเศษ คือ ร้านมีที่นั่ง อ่านฟรีก่อน ไม่ซื้อไม่ว่า (ถึงตรงนี้ความเห็น คงแตกต่างกันไป ว่า อ่านเสร็จแล้ว ทำให้ไม่ซื้อ หนังสือ ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ไม่เป็นไรครับ ผมถือว่า เป็นการคืนกำไรให้สังคม อย่างไรก็ตามรายได้ ของร้านนายอินทร์ +ร้านกาแฟ 94 ดีกรี
ก้อไม่ได้ถูกบรรทึกในบ/ช (อันนี้เสียดาย สุดๆ --ถ้ามีผมต้องทุ่มสุดตัวแน่)

ป.ล.1.ถ้ามีความคิดแตกต่างจากนี้ช่วยชี้แจงด้วยครับ
2.ถ้าข้อมูลส่วนใดผิดพลาด กรูณาเสริมด้วยครับ(มือใหม่นะครับ)
3.ข้อมูลเชิงปริมาณ คุณพี่ jeng ชี้แจง ยอดเยี่ยมมากครับ

from..BUZZ..

[ป๋า]

This is the stock I am holding most in my port. I started buying at 23 Bht and took profit a few times (trying to collect back at lower price) but finally had to collect it back at higher price as the price never decline. These are sad "selling pig".

My average cost is around 40 (should have been 23).

Good stock is always worth long term holding.

The president Mr. Chukiat U. is a very good man in my view but unfortunately has passed away last December (when I did my panic sell off a bit at Bht 86). We have to see how well his daugther (Khun Rarin) and wife can maintain this good company.

Who can share how good is other management in this company? PE is now >12. Yield is much lesser than before

[ป๋า]

Great information Khun Buzz, thanks.

Maybe Grammy is making the same story as the 4-Me. MaMa is what I have been eating and will continue eating. มาม่า อร่อย :lol: :lol:

I wonder how the printing subject is changed to noodle.

I think I will just keep holding APRINT.

Do you have any info of their printing business (ie office forms)?
Are they still making books for the Royal family?

[ป๋า]

Dear Khun Jeng,

I confirm that APRINT has some stakes in Nai-In. As far as I can remember, the company is called Amarin Book Center PCL.but I'm not sure how many percent. If it is only 40% then it is right that the accoutn will not be consolidated to the APRINT's.

I guess you can find such info in the annual report or 56-1. It should basically list subsidiaries and affiliated companies.

[ป๋า]

Thank you so much, khun Buzz.

Some more questions if you can reply:

A yaer back or more, APRINT invested new factory and high-tech printing machine. Are they already in operation? You can noticed that since last their cash holding became lesser than before because the new investment. Do we expect a high growth from now onward?

Thanks in advance

[AAA_Thailand]

เป็นหุ้นที่ดีครับ วิเคราะห์และถือไว้ตั้งแต่ 2001 ครับ ปัจจุบันขายไปหมดแล้วครับ
เวลาวิเคราะห์ โปรดอ่านหมายเหตุประกอบงบด้วยครับ
บริษัทย่อยที่สำคัญถือหุ้นโดย Aprint แค่บางส่วนครับ ทำไม??
ที่เหลือถือโดย....
ไปดูเองแล้วกันครับ
ข้อนี้แหละทำให้เป็นบริษัทที่ดี ผู้บริหารที่เก่งแต่ ???

[คิม]

ถามคุณ เจ๋ง มือใหม่ หัดวิเคราะห์ ไม่ ทราบ ว่า ข้อมูลเหล่า นี้ ผมจะหาได้จากไหน
1.การหาค่า GROWT ของ EPS 15%
2.EPS ใน 10 ปีข้างหน้า หาจากสู ตร อะไรครับ
3. หาผลตอบแทน ดอกเบี้ยทบต้น 20 % จากสูตร Pn=Po(1+i)n เปิดต ร .CVIF
หรือให้ คอม หา
รบกวนถามแค่นี้ ปกติผมจะไม่ค่อยถาม ชอบเปิดตำรา แล้วลงทำตาม แต่หาไม่ได้จริงๆ จีงรบกวน
ช่วยแนะนำด้วย อ๋อ .... ชอบสไตล์ ลีลา ในงาน MEETING VI 2 มาก

[คิม]

ผมจะลองทำตามดู ไม่นึกว่า คุณ เจ๋ง จะตอบกะทู้เร็ว ขนาดนี้ คืดว่า คุณเจ๋งไม่มีเวลา มาดูโครงการ 100คน 100 หุ้น ผมจะลองทำตามดู ค่อย ค่อย ทำตาม อย่าที่ คุณ เจ๋ง เคยพูดในงาน MEETING VI
นส หรือ ตำรา ถ้าอ่านแล้วไม่ลองทำดู ก็ไม่มีประโยชน์ อะไร ต้องทำ ผม ก็จะทำตาม ผิดถูก ก็โพสม์ มาถาม คุณ เจ๋ง อีกที ขอบคุณ ครับ

[ป้ามด]

รบกวนคุณ เจ่ง ช่วยเขียนสูตร ให้ ป้าหน่อย ป้าลืมไปหมดเเล้ว
สูตร การหา GROWTH ของ EPS กับการ หาสูตร ดอกเบี๋ยทบต้น เปิดใน MS. EXCEL ตรง
FUNCTION ได้หรือเปล่า ป้าจะได้แทนค่าถูก
รบกวนแค่นี้ ขอบคุณจ๋า

[หนุ่มพะเยา1]

พี่เจ๋งเอาสูตรมาจาก The new Buffet ใช่มั้ยครับ

[บุคคลทั่วไป]

ขอบอกกล่าวว่าไม่ได้มีเจตนาไม่ดีอะไรทั้งสิ้นนะครับ เพียงผมค่อนข้างที่จะรู้เกี่ยวกับเรื่องภายในบริษัทนี้ค่อนข้างมาก ไม่ได้เป็นคนในบริษัทแต่มีเพื่อนหลายคนอยู่ในบริษัทนี้ และอยากให้ข้อมูลอีกด้านหนึ่งของบริษัทครับ
ข้อที่1เมื่อประมาณปีที่แล้ว45ปลายปีมีการการโกงกันในบริษัทจำนวนเงินไม่มากครับไม่กี่ล้าน แต่ไม่มีการดำเนินคดีใดๆ ไล่ออกไป 2 คนเป็นระดับผู้บริหาร และที่สำคัญมีความใกล้ชิดกับระดับผู้อื่นหุ้น
ข้อที่2ผู้บริหารที่เติบโตมากับคุณชูเกียรติ์ค่อนข้างไม่ชอบรุ่นใหม่ที่ขึ้นมา มีความขัดแย้งกันอยู่ลึกๆ(อาจเพราะมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก ซึ่งต้องพิจารณาอีกทีว่าเปลี่ยนแปลงแล้วดีขึ้นหรือไม่)
ข้อที่3 รุ่นใหม่ที่ขึ้นมา(ไม่ขอกล่าวนาม)มีการทำงานส่วนตัวให้กับเพื่อนฝูงด้วยไม่ได้เก็บเงิน สร้างความปวดหัวให้กับผู้บริหารบางคนอย่างยิ่ง
ข้อที่4 มีการรับคนรุ่นใหม่เข้ามามากแต่ไม่มีประสบการณ์ ส่วนใหญ่เป็นเด็กจบใหม่

[วรานันทร์]

[quote="Jeng"]APRINT
กำไร 10 ปีซ้อน
36 37 38 39 40 41 42 43 44 45
7.17 3.23 2.18 4.12 3.5 3.05 3.83 4.58 6.01 10.17

EPS โต 15.42 เปอร์เซ็นต์ คิดจาก ปี 37-45 เพราะปี 36 ยังไม่เข้าตลาด

กำไรเป็นเงิน 10 ปีซ้อน
68.12 36.84 41.34 78.21 66.46 57.98 72.84 87.02 114.18 193.20

ยอดขาย 10 ปีซ้อน
393.65 421.37 508.35 791.25 574.43 686.77 857.10 963.43 1129.67 1424.79

ยอดขาย ก็โต 15.36 เปอร์เซ็นต์ตลอดระยะเวลา 9 ปี

ปันผล 10 ปีซ้อน
ปี36ไม่มีตัวเลข 1.2 1.35 2.0 1.5 2.0 2.3 2.75 3.6 5.0 รวม 21.70

EPS ในอีก 10 ปีข้างหน้า คิดได้จากปัจจุบัน 10.17 โต 15.42 = 42.67
ราคาในอนาคต สมมุติ PE = 11 ราคาเท่ากับ 469.37

ถามคุณjeng และผู้รู้ท่านอื่น ดิฉันใช้ฟังก์ชันทางการเงินในexcelคำนวนหาค่าอัตราการเติบโตของepsโดยใช้ฟังก์ชัน
การคำนวนหาอัตราดอกเบี้ย =Rrate(Nper,Pmt,Pv,[Fv]) โดยแทนค่าดังนี้
nper=9 pmt=-0 pv=-3.32 fv=10.17 จะได้ค่า=14% ซึ่งไม่ตรงกับที่คุณjengคำนวนได้=15.42% ไม่ทราบว่าดิฉันใชฟังก์ชันผิดหรือแทนค่าผิด ส่วนการหาค่าepsในอีก10ปีข้างหน้า ดิฉันใช้ฟังก์ชันหามูลค่าเงินฝากในอนาคต ถ้าใช้อัตราดอกเบี้ยที่15.42% จะได้ค่าeps=42.67เท่ากับที่คุณjengคำนวนได้ แต่ถ้าใช้14%จะได้=37.70 ค่ะ ผิดถูกอย่างไรช่วยตอบด้วยค่ะ

[big]

ฉบับแรก หนังสือในพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช (จากกระทู้ เรื่องทองแดง) เมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๔๕ และ ณ วันนี้เวลาผ่านไปเกือบ ๒ ปี กับหนังสือพระราชนิพนธ์เรื่องเดิม ฉบับปรับปรุงเป็นรูปแบบการ์ตูน เริ่มวางจำหน่ายวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๔๗

ฝีไม้ลายมือตัวการ์ตูน โดย "ชัย ราชวัตร" ผู้วาดการ์ตูนล้อการเมืองอย่าง ผู้ใหญ่มา กับทุ่งหมาเมิน เป็นผู้วาดภาพประกอบ (จากที่เคยวาดมาแล้วในเรื่องพระมหาชนก ฉบับการ์ตูน) ทั้งเล่มพิมพ์บนกระดาษอาร์ตมันสี่สี (ปกอ่อน) คาดว่าฉบับนี้คงไม่แตกต่างจากฉบับก่อนเมื่อสองปีที่แล้ว ที่ยอดพิมพ์ครั้งแรก ๑๐๐,๐๐๐ เล่มจะหมดไปอย่างรวดเร็ว

หนังสือเป็นแบบปกอ่อน อาร์ตมัน สี่สี หนา ๑๗๔ หน้า บทบรรยายภาษาไทยและอังกฤษ ราคาเล่มละ ๑๔๙ บาท จัดพิมพ์โดย บริษัท อัมรินทร์บุ้คเซ็นเตอร์ จำกัด

บรรณานุกรม
พระราชนิพนธ์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

เรื่องทองแดง ฉบับการ์ตูน
พิมพ์ครั้งแรก พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๗ จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ เล่ม

สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๔๗ โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

ผู้เขียนการ์ตูนประกอบพระราชนิพนธ์ : ชัย ราชวัตร
ผู้ช่วย : โอม รัชเวทย์
สละ นาคบำรุง
ทิววัฒน์ ภัทรกุลวณิชย์

ราคา ๑๔๙ บาท
ISBN 974-272-917-4


รายละเอียดเพิ่มเติม ติดตามได้จากเว็บร้านนายอินทร์ครับ

[Linzhichange]

เรื่องร้านนายอินทร์

(ผมถือหุ้นมานานแล้วครับ แต่ปัจจุบันเป็นสัดส่วนไม่มากในพอร์ตเลย ตามน้อยลงไป จะพยายามขุดขึ้นมา ใครทราบก็ช่วยแก้ด้วยนะครับ)

จำได้ว่าทีแรกก็ถือหุ้นในร้านนายอินทร์มากครับ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วย แต่ร้านไปไม่รุ่ง บริษัทเลยขายหุ้น (ให้กับผู้บริหาร)

ตอนนั้นบริษัทขยายสาขาพอสมควร แต่ยอดขายไม่ดีนัก

จริง ๆ สำหรับผู้บริหาร APRINT ไม่ควรจะโฟกัสเรื่องร้านนายอินทร์มาก เพราะขายทิ้งไปแล้ว ควรจะใช้เวลากับธุรกิจหลักที่มีอยู่มากกว่า ถ้าจะทำจริง ๆ ก็ควรซื้อหุ้นกลับมา

[sorawut]

เห็นด้วยครับ

ถ้าพูดถึงร้านนายอินทร์ ก็ต้องคิดถึง APRINT แต่ APRINT กลับถือหุ้นน้อย (19%) จนเป็นแค่เงินลงทุนในตราสารทุน ผลประโยชน์ที่เหลือตกเป็นของใครครับ

เราจะมั่นใจได้ไงว่ารายการระหว่างร้านนายอินทร์กับ APRINT จะไม่เป็นการผ่องถ่ายความมั่งคั่งผ่านรายการระหว่างกันครับ

[sorawut]

คุ้นๆว่าที่ลด% ถือหุ้นร้านนายอินทร์ เพราะมันฉุดกำไรไม่ใช่หรือครับ
อีกอย่างถ้าเอามารวมก็จะถูกพิจารณาเรื่องการแข่งขันกับ se-ed และ b2s อีกซึ่งคงสู้ไม่ได้แน่
สรุปแล้วไม่เอาร้านนายอินทร์มารวมหน่ะดีแล้วครับ

พอมันไม่เป็นบริษัทย่อย เราก็ไม่รู้ว่าอะไรไปดูดกำไรจากมันอีกที

เห็นแต่ยอดขาดทุน

การตรวจสอบบัญชีก็ไม่เข้มข้นเท่ากับการที่มันเป็นบริษัทย่อยด้วย

[sorawut]

เราทำอะไรไม่ได้มากครับ
ได้แต่คอยจับตามองรายการระหว่าง APRINT กับนายอินทร์ให้ดีครับ