เรามากันถูกทางกันแล้วใช่ไหม เพราะวอร์เรน บัฟเฟตต์..

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ล็อคหัวข้อ
The Beginner

โพสต์ โดย The Beginner » เสาร์ ก.ย. 18, 2004 2:10 pm

ผมเชื่อในแนวคิดนั้น เพราะมัน สมเหตุสมผลมากๆ แค่ซื้อกิจการที่ดีและจะดีในระยะยาว ในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง

เพียงแต่ว่า วิธีการคิด การประยุกต์ การคำนวน มุมมองการวิเคราะห์นั้น ต้องอาศัยหลายๆ อย่างประกอบกันมากๆ หลอมรวมเป็นหนึ่ง ดังนั้น ต้องอาศัยระยะเวลา ประสบการณ์ ความมุ่งมั่น ความอดทนมาก

ขอให้กำลังใจเพื่อนๆ ด้วยนะครับ



บุคคลทั่วไป

โพสต์ โดย บุคคลทั่วไป » อาทิตย์ ก.ย. 19, 2004 12:54 pm

Buffett เคยเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดไปแล้วครั้งนึงเมื่อปี 1993 ครับ อย่างไรก็ตาม ความมั่งคั่งที่ว่ามักจะคิดจากราคาหุ้น ฉะนั้น ถ้าจะวัดกันแบบจริงๆ ผมว่าต้องดูด้วยว่า ราคาหุ้น Microsoft และ Berkshire นั้น undervalued , fairly valued หรือ overvalued ครั้งหนึ่ง เมื่อเดือนกุมภา ปี 2000 Masayoshi Son เจ้าของ Softbank ซึ่งถือหุ้น Yahoo, E-Trade , Geocities เคยรวยถึง$ 76 billion รวยกว่า Bill Gates เสียอีก แต่มันก็เป็นเพียงช่วงสั้นมากเท่านั้น เนื่องจากในช่วงนั้น หุ้น Internet มีราคาที่ overvalued มากๆๆๆๆ
แต่ถ้าเราตั้งสมมติฐานว่า ราคาหุ้น Berkshire สะท้อนพื้นฐานของบริษัท ราคาที่ว่าก็สะท้อนถึงการลงทุนในตลาดหุ้นน้อยลงไปทุกทีครับ ปี 1997 asset ของ Berkshire ถึง 73% เป็นการลงทุนในตลาดหุ้น พอมาถึงปี 2002 การลงทุนในตลาดคิดเป็นเพียง 26% ของ asset ของ Berkshire เท่านั้นครับ พักหลัง Buffett หันไปซื้อบริษัทนอกตลาดมากขึ้นๆ ซึ่งปี 2002 คิดเป็น 30% ของ asset ของ ฺBerkshire ทีเดียว การซื้อบริษัทนอกตลาดของ Buffett เป็นความสามารถเฉพาะตัวซึ่งยากที่ใครจะเลียนแบบ ซึ่งผู้ถือหุ้น Berkshire ก็กังวลไม่น้อยว่าตรงจุดนี้ใครจะมาทำแทน Buffett ได้ เจ้าของบริษัทหลายๆแห่งที่อยากจะรักษาวัฒนธรรมองคํกรและเอกลักษณ์ของบริษัทไว้ ขณะเดียวกันก็อยากจะมีสภาพคล่องและยังทำงานในบริษัทต่อไป จะเลือกขายบริษัทให้ Buffett ในราคาที่สมเหตุผลแทนที่จะเอาบริษัทเข้าตลาดหรือขายให้คนอื่น Buffett สร้างความน่าเชื่อถือตรงนี้ไว้อย่างยาวนานมากว่าพอซื้อบริษัทมาแล้วจะไม่เข้าไปปรับเปลี่ยนซึ่ง Buffett จะบริหารแบบไม่เข้าไปบริหาร Buffett จะคอยให้คำปรึกษาเมื่อถูกร้องขอ และจะเน้นเรื่อง asset allocation เท่านั้น ส่วนนี้มีความสำคัญกับ Berkshire มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่ง Buffett เองก็บอกว่ามองตัวเองเป็น manager มากขึ้นๆ
อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ครับว่า วันนี้ของท่านมาจากการลงทุนในตลาดหุ้นและเป็นการใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบเน้นคุณค่า จึงน่าจะสรุปได้ว่า การลงทุนแบบ VI นั้นสามารถสร้างความมั่งคั่งได้แน่
สรุปของสรุปก็คือ ทั้ง Gates และ Buffett ต่างก็ประสบความสำเร็จในแง่ที่ได้ทำงานที่ตัวเองรัก ซึ่งจริงๆแล้วอาจจะเป็นความสำเร็จที่เราๆสามารถไข่วคว้าได้ไม่ยากนัก เมื่อไรที่เราได้ทำงานที่ตัวเองรัก เราอาจจะพอลืมๆคำว่าอิสรภาพทางการเงินลงไปได้บ้าง นักกีฬาประเภทอื่นที่หันไปเล่นเทนนิสเพียงเพราะเห็นภราดรทำเงินได้มากมายคงประสบความสำเร็จได้ยากฉันใด คนที่เข้ามาลงทุนในตลาดเพียงเพราะอยากรวยก็คงจะประสบความสำเร็จได้ยากฉันนั้น ผมว่านักลงทุนที่จะประสบความสำเร็จได้ต้องมีความรักในกระบวนการครับ ความเห็นส่วนตัวนะครับ บางท่านอาจจะไม่เห็นด้วย



Boring Stock Lover

โพสต์ โดย Boring Stock Lover » ศุกร์ ก.ย. 24, 2004 11:03 pm

พอดีเห็นผลของปีนี้ เลยตัดตอนมาฝาก

Bill Gates may not have had much of a pay raise this year, but he did manage to add $2 billion to his fortune, bringing the total to $48 billion and keeping him on top of the Forbes 400 list of the wealthiest Americans.

And while being a billionaire isn't as prestigious as it used to be--there are 313 on the list this year, compared with 262 last year--Gates is a couple of lengths ahead of his nearest competitor, the legendary "Sage of Omaha" investor Warren Buffett, who has $41 billion. And Gates is half the track ahead of No. 3 Paul Allen, who sits on a mere $20 billion, after dropping $2 billion since last year.

This is the 11th year that Gates has topped the Forbes list.



ผ่านมา

โพสต์ โดย ผ่านมา » เสาร์ ก.ย. 25, 2004 11:55 pm

ผมมีความเห็นที่แตกต่าง แต่ไม่กล้าเสนอเพราะมันจะกระทบหลักการ ของVI พันธ์แท้ อยู่บ้าง เดี่ยวจะหาว่ามาป่วน :lol:



ล็อคหัวข้อ