บริษัทที่มีค่าใช้จ่ายเครื่องจักรสูง(ค่าเสื่อม)

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ล็อคหัวข้อ
บุคคลทั่วไป

บริษัทที่มีค่าใช้จ่ายเครื่องจักรสูง(ค่าเสื่อม)

โพสต์ โดย บุคคลทั่วไป » อังคาร ต.ค. 19, 2004 1:15 pm

บริษัท ที่มีค่าใช้จ่ายเครื่องจักรสูง แล้วดำเนินงานมานาน
ถ้าด้ายรายได้เติบโตตามปกติ ไม่หวือหวา
แต่ด้านรายจ่ายเริ่มลดลง เนื่องจากทางบัญชีเริ่มถยอย ไถ่ค่าเครื่องจักรหมดบางตัว
ถ้าเครื่องจักรเหล่านั้นยังอยู่ในสภาพสามารถสร้างรายได้ให้บริษัทได้
จะทำให้ต้นทุนพื้นฐานค่าเครื่องหมด มีแต่ค่าซ่อมเครื่อง
ส่วนเครื่องจักรใหม่ ก็ปล่อยให้ทำงานไถ่ค่าตัวไปเรื่อย ๆ
พี่ ๆ ที่ถือหุ้นระยะยาว คิดว่าประเด็นนี้ควร เอามาประเมินมูลค่าหุ้นด้วยหรือไม่ครับ
จะทำให้ value หรือ ratio ต่างๆ ของหุ้นตัวนั้น เติบโตรวดเร็วกว่าข้อมูลในอดีตหรือไม่ครับ



บุคคลทั่วไป

โพสต์ โดย บุคคลทั่วไป » อังคาร ต.ค. 19, 2004 9:37 pm

อธิบายแล้ว เห็นภาพแจ่มแจ๋วเลยครับ ถ้ามีอย่างนี้บ่อยๆก็ดีมากเลยครับ
เพราะอ่านหนังสือแล้วยังไม่ค่อยเข้าใจอย่างตัวอย่างด้านบนเลยครับ



AAA_Thailand

โพสต์ โดย AAA_Thailand » พุธ ต.ค. 20, 2004 10:29 am

จริงๆต้องระวังเรื่อง Restricted dividen นะครับ ถ้าเป็นบริษัทที่ใช้เงินลงทุนสูงถึงจะมีหรือไม่มีค่าเสื่อมยังๆไงก็ต้องมีCapex สูงหรือมีค่าใช้จ่ายเพื่อทำให้เกิดรายได้สูงในระยะยาวครับ ถึงทำให้จะเสียบเปรียบในระยะยาวเมื่อเกิดเงินเฟ้อ



เก๋าเก่าๆ เจ้าเดิม

โพสต์ โดย เก๋าเก่าๆ เจ้าเดิม » พฤหัสฯ. ต.ค. 21, 2004 7:43 pm

คิดมากเยียวเหลืองครับ
ถ้าผมเห็นงบแล้วต้องตัดสินใจเลือกบริษัทที่ผมเข้ามาลงทุนจากสมมุติฐานข้างต้น + ถ้างบดุลทั้ง 2 บริษัทเหมือนกันนะ
บริษัท A ได้เปรียบในเรื่องเอาค่าเสื่อมไปหักภาษีได้ ทำให้กระแสเงินสดในช่วงที่บริษัทยังมีค่าเสื่อมสูงกว่า บริษัท B ครับ
เพราะฉะนั้นไม่ต้องคิดมาเลย บริษัท A เพิ่ม Wealth ได้มากกว่า บริษัท B แน่นอน (ถ้านับจากช่วงเวลาเดียวกันนี้ไปจนถึง Terminal Value)
และสุดท้ายในอนาคตถ้าบริษัท A ตัดค่าเสื่อมหมดงบก็จะไปเหมือนกันบริษัท B ตอนนี้ครับ ก็จะได้เห็นกำไรเป็นตัวเลขเท่ากับบริษัท A ครับ
แต่ กระแสเงินสดก็จะลดลงเท่ากับบริษัท B เช่นกัน (ทั้งนี้ทั้งนั้นความแตกต่างของงบตรงนี้เกิดจาก ตัวค่าเสื่อมที่เอามาช่วยลดภาษีได้นั่นเอง)



เก๋า & น้องโฟร์

โพสต์ โดย เก๋า & น้องโฟร์ » ศุกร์ ต.ค. 22, 2004 6:27 am

ถ้าพิจารณาเพียงคล่าวๆ
ต้นทุนของบริษัท A นั้นสูงกว่า B
ยอดขายเท่ากัน และโตเท่ากัน
ราคาหุ้นถูกเท่ากันผมเลือก B ครับ เพราะควบคุมต้นทุนได้ดีกว่า
แต่ ณ ระดับราคานี้ถ้า A สามารถ Optimize ต้นทุนได้แบบบริษัท B
NI ของ A ก็จะพุ่งขึ้น จะส่งผลให้ราคาหุ้นถูกขี้นเยอะเลย
แต่ข้างต้นเป็นการพิจารณาแบบคล่าวๆครับ

แต่ว่าถ้าเรามาพิจารณาลึกๆ ว่าทำไมต้นทุนของ A สูงกว่า อาจเป็นเพราะมีค่าเสื่อมราคาสูงก็ได้
ถ้าต้นทุนของ A ที่มากกว่า B 100 บาทนั้นเป็นค่าเสื่อมราคา
เพราะฉะนั้น กระแสเงินสด A กับ B ก็จะเท่ากันเด๊ะ ราคาหุ้นก็ควรจะเท่ากันด้วยครับ
เพราะฉะนั้นหุ้น A ก็จะเป็นหุ้นที่น่าลงทุนกว่าครับ เพราะถูกกว่ากัน ถึง 20 บาทครับ ^_^



Beethowen

โพสต์ โดย Beethowen » เสาร์ ต.ค. 23, 2004 7:11 am

แล้วข้อ 2 พี่ Chatchai จะลงทุนบริษัทไหนล่ะยังไม่เฉลยเลย



ล็อคหัวข้อ