ตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลง ผมดู ITV น้อยลงมากจนเกือบเรียกว่าไม่ได้ดูเลย เพราะโดยปกติก็ไม่ค่อยดูเกมส์โชว์ หรืออะไรทำนองนั้นอยู่แล้ว ช่อง 3 ก็ยังเป็นช่องที่ดูประจำ ไม่รู้ทำไม แต่เวลาส่วนใหญ่ก็จะหมดไปกับ UBC มากกว่า
เข้าใจว่า Rating ช่อง ITV ดีขึ้นเล็กน้อย แต่เท่าที่ดูนี่ก็น่าไม่เชื่อว่าจะได้ไปมากกว่านี้ ไม่เหมือนกับที่บริษัทเคยพูดเมื่อมีปัญหาการให้เปลี่ยนบริษัท Rating ช่อง 3 และ 7 ก็ยังเป็นช่องที่คนโดยส่วนใหญ่นิยม ช่อง9 ดูแล้วเป็นช่องที่มีการเติบโตที่ดี
ถ้าหาข้อมูล Rating เจอจะเอามาลงให้ดู
ถ้าเราไม่มองในเชิงปริมาณ คิดยังไงกับ ITV ครับ ?
-
doremonไม่ได้LOG
ผมอยู่วงการนี้น่ะ ท่านคัดท้าย
ตามความเห็นของผม คิดว่าในวงการTVนับวันจะหากำไรยากขึ้นเรื่อยๆ
เพราะ
1.ต้นทุนการผลิตงาน สูงขึ้นทุกปีสม่ำเสมอ ทั้งข่าว ละคร รายการ สารคดี ถ้าลดต้นทุนพวกนี้ลง งานก็คุณภาพต่ำ ถูกด่ากันเกรียว
2.ไม่สามารถขึ้นค่าโฆษณามากๆได้ ขึ้นได้ก็นิดเดียวในช่วงเวลาไพร์มไทม์ ที่เหลือล้วนแต่เป็นภาระ เน่าสนิท
3.เดี๋ยวนี้มีสื่อหลากประเภทให้เอเยนซี่เลือกลงโฆษณา ด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ที่ก้าวหน้า
ผมมองเคเบิลทีวี ดีกว่า เหตุผลยังไม่แน่ใจ
ตามความเห็นของผม คิดว่าในวงการTVนับวันจะหากำไรยากขึ้นเรื่อยๆ
เพราะ
1.ต้นทุนการผลิตงาน สูงขึ้นทุกปีสม่ำเสมอ ทั้งข่าว ละคร รายการ สารคดี ถ้าลดต้นทุนพวกนี้ลง งานก็คุณภาพต่ำ ถูกด่ากันเกรียว
2.ไม่สามารถขึ้นค่าโฆษณามากๆได้ ขึ้นได้ก็นิดเดียวในช่วงเวลาไพร์มไทม์ ที่เหลือล้วนแต่เป็นภาระ เน่าสนิท
3.เดี๋ยวนี้มีสื่อหลากประเภทให้เอเยนซี่เลือกลงโฆษณา ด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ที่ก้าวหน้า
ผมมองเคเบิลทีวี ดีกว่า เหตุผลยังไม่แน่ใจ
-
บุคคลทั่วไป
อย่างที่คุณคัดท้ายเกริ่นไว้นะครับ ในอนาคตอันใกล้ บริษัทที่ได้เปรียบที่สุดในการทำธุรกิจ entertainment to home ต้องเป้นบริษัทสื่อสารที่มีโครงข่ายเข้าถึงบ้านคนมากที่สุด
เนื่องจากปัจุบัน technology ADSL (ซึ่งผมเชื่อว่าหลายคนในที่นี่ใช้อยู่) ต้นทุนจะถูกลงเรื่อยๆ ในขณะที่ technology ก็พัฒนาขึ้นมาก
ในบ้านเรา ADSL ที่ใช้อยู่เป็นยังเป็น version เก่า ซึ่งให้ความเร็วสูงสุด 8/1 Mbps (downlink/uplink) แต่ในต่างประเทศตอนนี้เขา implement ADSL 2plus กันแล้ว ซึ่งมีความเร็วเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า (24/3 Mbps) โดยที่ต้นทุนการลงทุนยังคงเท่าเดิม
ที่ความเร็วเท่านี้บริษัทสื่อสารจะส่งอะไรให้เราก็ได้ครับ คำถามที่จะตามมาคือ แล้วอะไรล่ะที่จะต้องใช้ Bandwidth มากขนาดนี้ .........
คำตอบเดียวก็คือ Entertainment ครับ ผู้ให้บริการในปัจจุบันที่ให้บริการเสียงเป็นหลัก ( one player) จะเปลี่ยนเป็น three players คือ ให้บริการ Voice Data และ Video
Modem ADSL ที่บ้านคุณจะเปลี่ยนไป ในปัจจุบันที่มีportต่อเข้า computer อย่างเดียวก็จะมี 4-5 port เอาไว้ต่อ เข้าที่ TV เพื่อใช้บริการ IPTV อีก Port ต่อเข้า computer ใช้ hi-speed internet และอื่นๆบริการที่จะสรรหา
คำถามต่อมาก็คือแล้วบริษัทสื่อสาร(โดยเฉพาะพวกมีสาย) จะหาแหล่ง CONTENT อย่างไร
ตอนนี้ที่เห็นก็คงเป็น true ที่เริ่มหาพันธมิตรทาง content รวมถึงการสร้าง Content ของตัวเองผ่าน UBC แต่ประเด็นปัญหาของ true คือ จะทำอย่างไรในเมื่อมี UBC ที่ให้บริการ cable TV อยู่แล้ว
สำหรับราคาการให้บริการในต่างประเทศ ถูกจนน่าตกใจครับ ในอินเดียมีผู้ให้บริการเสนอราคาเหมาจ่าย unlimted uasge ที่ประมาณ US$ 10 เท่านั้น หรือประมาณ แค่ 400 บาทเองครับ ทั้งใช้ Internet และ IPTV
แต่ถ้าต้องการดูแบบ PAY PER VIEW ต้องจ่ายเพิ่ม เช่นถ่ายทอดสดมวย บอล หรือ หนังใหม่ๆ
ในการให้บริการสามารถเลือกระดับความเร็วที่ต้องการได้ เมื่อต้องการใช้ความเร็วเพิ่มขึ้น สามารถเข้า web เพื่อ upgrade ได้เลย เช่นสมมุติคุณของใช้ความเร็วที่ 1 Mbps แต่เกิดต้องการดู pay per view ซึ๋งการดู Video Streming ถ้าจะให้ภาพ smooth อย่างน้อยต้อง 2 Mbps ก็สามารถเข้า web เพื่อ upgrade ความเร็วที่ใช้ในช่วงดูหนังเท่านั้น เป็น Bandwidth on Demand เป็นต้น
พิมพ์เหนื่อยเลยครับ ผมพิมพ์ช้าสุดๆ
เนื่องจากปัจุบัน technology ADSL (ซึ่งผมเชื่อว่าหลายคนในที่นี่ใช้อยู่) ต้นทุนจะถูกลงเรื่อยๆ ในขณะที่ technology ก็พัฒนาขึ้นมาก
ในบ้านเรา ADSL ที่ใช้อยู่เป็นยังเป็น version เก่า ซึ่งให้ความเร็วสูงสุด 8/1 Mbps (downlink/uplink) แต่ในต่างประเทศตอนนี้เขา implement ADSL 2plus กันแล้ว ซึ่งมีความเร็วเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า (24/3 Mbps) โดยที่ต้นทุนการลงทุนยังคงเท่าเดิม
ที่ความเร็วเท่านี้บริษัทสื่อสารจะส่งอะไรให้เราก็ได้ครับ คำถามที่จะตามมาคือ แล้วอะไรล่ะที่จะต้องใช้ Bandwidth มากขนาดนี้ .........
คำตอบเดียวก็คือ Entertainment ครับ ผู้ให้บริการในปัจจุบันที่ให้บริการเสียงเป็นหลัก ( one player) จะเปลี่ยนเป็น three players คือ ให้บริการ Voice Data และ Video
Modem ADSL ที่บ้านคุณจะเปลี่ยนไป ในปัจจุบันที่มีportต่อเข้า computer อย่างเดียวก็จะมี 4-5 port เอาไว้ต่อ เข้าที่ TV เพื่อใช้บริการ IPTV อีก Port ต่อเข้า computer ใช้ hi-speed internet และอื่นๆบริการที่จะสรรหา
คำถามต่อมาก็คือแล้วบริษัทสื่อสาร(โดยเฉพาะพวกมีสาย) จะหาแหล่ง CONTENT อย่างไร
ตอนนี้ที่เห็นก็คงเป็น true ที่เริ่มหาพันธมิตรทาง content รวมถึงการสร้าง Content ของตัวเองผ่าน UBC แต่ประเด็นปัญหาของ true คือ จะทำอย่างไรในเมื่อมี UBC ที่ให้บริการ cable TV อยู่แล้ว
สำหรับราคาการให้บริการในต่างประเทศ ถูกจนน่าตกใจครับ ในอินเดียมีผู้ให้บริการเสนอราคาเหมาจ่าย unlimted uasge ที่ประมาณ US$ 10 เท่านั้น หรือประมาณ แค่ 400 บาทเองครับ ทั้งใช้ Internet และ IPTV
แต่ถ้าต้องการดูแบบ PAY PER VIEW ต้องจ่ายเพิ่ม เช่นถ่ายทอดสดมวย บอล หรือ หนังใหม่ๆ
ในการให้บริการสามารถเลือกระดับความเร็วที่ต้องการได้ เมื่อต้องการใช้ความเร็วเพิ่มขึ้น สามารถเข้า web เพื่อ upgrade ได้เลย เช่นสมมุติคุณของใช้ความเร็วที่ 1 Mbps แต่เกิดต้องการดู pay per view ซึ๋งการดู Video Streming ถ้าจะให้ภาพ smooth อย่างน้อยต้อง 2 Mbps ก็สามารถเข้า web เพื่อ upgrade ความเร็วที่ใช้ในช่วงดูหนังเท่านั้น เป็น Bandwidth on Demand เป็นต้น
พิมพ์เหนื่อยเลยครับ ผมพิมพ์ช้าสุดๆ