โค้ด: เลือกทั้งหมด
ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติที่ผ่านมา คุณธันวา เลาหศิริวงศ์ ผู้เขียนหนังสือ “สูตร (ไม่) ลับ การลงทุน” และคุณวิบูลย์ พึงประเสริฐ ผู้เขียนหนังสือ “ตะแกรงร่อนหุ้น”, “คัมภีร์ VI : ลงทุนหุ้นแบบเน้นคุณค่า” และ “เคล็ดลับเซียนหุ้นบันลือโลก” ได้รับเชิญไปแจกลายเซ็นและพบปะพูดคุยกับผู้อ่านที่บูธจำหน่ายหนังสือของซีเอ็ดในศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ช่วงหนึ่งของการสนทนาระหว่างนักเขียนและผู้อ่าน ผมมีโอกาสได้อยู่ร่วมรับฟังด้วย และเห็นว่ามีประโยชน์สำหรับนักลงทุนหลายๆ ท่าน จึงขอนำมาถ่ายทอดไว้ ณ ที่นี้ครับ
มีแฟนหนังสือที่เป็นนักลงทุนท่านหนึ่งได้เปิดประเด็นกับคุณธันวาถึงข้อจำกัดของตนเองว่า ไม่ค่อยมีความเชี่ยวชาญด้านการอ่านงบการเงินมากนัก ซึ่งอาจเป็นข้อเสียเปรียบประการหนึ่งในการลงทุน
คุณธันวาให้คำแนะนำกับนักลงทุนท่านนั้นว่า “ควรลงทุนตาม Strength ของตัวเราเอง”
จากนั้นคุณธันวาได้อธิบายพร้อมยกตัวอย่างให้ฟังว่า ในฐานะนักลงทุน เราต้องรู้ว่า “Strength” หรือ “จุดแข็ง” ของเราอยู่ตรงไหน เราก็นำจุดแข็งนั้นมาใช้ให้เป็นประโยชน์ เราอาจจะเก่งทางด้านการมองธุรกิจว่า ธุรกิจใดมีความแข็งแกร่ง มีความได้เปรียบในการแข่งขัน เราอาจจะมีความสามารถในการมองเทรนด์หรือแนวโน้มของธุรกิจว่า ในอนาคตข้างหน้าธุรกิจประเภทใดจะเติบโตและมีบทบาทเพิ่มมากขึ้น เป็นต้น ซึ่ง Strength หรือจุดแข็งเหล่านี้อาจทำให้เราประสบความสำเร็จได้ไม่แพ้นักลงทุนคนอื่นๆ
พร้อมกันนี้คุณธันวายังกล่าวให้กำลังใจว่า ไม่ต้องกังวลว่านักลงทุนคนอื่นเขาเก่งเรื่องการอ่านงบการเงินแล้วเราจะลงทุนสู้เขาไม่ได้ คนที่เก่งงบการเงินอาจจะไม่เก่งในด้านอื่นๆ เหมือนกับเราก็เป็นได้ ดังนั้นต้องรู้จักใช้จุดแข็งของเราให้เป็นประโยชน์
ผมก็มีความเห็นเช่นเดียวกับคุณธันวาครับ คนเราทุกคนล้วนมีศักยภาพในตัวเองอยู่แล้วไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่ง อย่าโฟกัสแต่ส่วนที่เป็น “จุดอ่อน” หรือ “ข้อด้อย” จนทำให้เกิดความท้อแท้และหมดกำลังใจ ต้องไม่ลืมว่า คนแต่ละคนมีศักยภาพไม่เท่ากัน
สิ่งสำคัญที่ควรทำก็คือ ต้องค้นหาศักยภาพของตัวเองให้เจอ เพราะตัวเราเท่านั้นที่รู้ดีที่สุดว่า เรามี “จุดแข็ง” ตรงไหน มีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านใดเป็นพิเศษ แล้วรู้จักนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ให้มากที่สุด
ในขณะเดียวกัน การรู้จัก “จุดอ่อน” ของตนเองก็เป็นเรื่องสำคัญไม่น้อย แต่แทนที่จะนำมาเป็นประเด็นในการดูถูกหรือโทษตัวเองว่าอ่อนด้อยน้อยความสามารถ เราควรใช้มันเป็นโอกาสในการปรับปรุงแก้ไข เมื่อรู้ว่าขาดความรู้ทางด้านใด ก็ให้เวลาในการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมในด้านนั้นให้มากขึ้น เมื่อรู้ว่าขาดความเชี่ยวชาญทางด้านใด ก็ให้พยายามฝึกฝนเพื่อเติมเต็มศักยภาพให้เพิ่มพูนขึ้น
ผมเชื่อว่า การรู้จักนำ “จุดแข็ง” ของตนเองมาใช้ให้เป็นประโยชน์ และการรู้จักปรับปรุงแก้ไข “จุดอ่อน” ของตนเองให้ดีขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยที่สามารถหนุนส่งให้คนเราประสบความสำเร็จได้ ไม่ว่าจะเป็นในด้านของการลงทุนหรือการทำกิจการงานใดๆ ก็ตาม