โค้ด: เลือกทั้งหมด
ก่อนอื่นต้องขอกล่าวสวัสดีปีใหม่ 2559 กับท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้เป็นวันเปิดทำการวันแรกสำหรับกิจการเกือบทุกกิจการ
ปี 2558 ที่ผ่านไปเป็นปีมะแมที่ทุกคนรู้สึกว่า มีความผันผวนมากกว่าที่คนส่วนใหญ่คาดคิดเอาไว้ และเป็นปีที่ยาก ในแง่ของการลงทุน เพราะเริ่มจากต้นปีทำท่าว่าจะฝืดๆ แต่ก็มีโมเมนตัม และมีแรงส่งเยอะมากในตลาดหุ้นเกือบทั่วโลก จนทำให้คนเผลอลืมๆไปว่าเป็นปีที่ต้องใช้ความระมัดระวัง จึงเกิดฟองสบู่ตลาดทุนขึ้นอย่างมากในเดือนเมษายน โดยเฉพาะในตลาดหุ้นฮ่องกงและจีน และเริ่มแสดงอาการไม่ค่อยดีในพฤษภาคม มาแตกแรงๆในเดือนกรกฎาคม สิงหาคม พยายามฟื้นตัวในเดือนกันยายนและตุลาคม และอ่อนตัวลงอีกในเดือนพฤศจิกายน จนปิดปีไปด้วยตัวเลขติดลบเป็นส่วนใหญ่
รูปแบบการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นของโลกในปีที่แล้วจะคล้ายๆกันอย่างนี้ ต่างเพียงระยะเวลาที่อาจจะช้าหรือเร็วกว่ากันนิดหน่อย เช่น ตลาดหุ้นไทยขึ้นไปสูงสุดเร็วกว่าเพื่อนๆ คือทำสถิติสูงสุดของปีด้วยการบวกประมาณ 8%จากต้นปี ในเดือนกุมภาพันธ์ ตลาดหุ้นฮ่องกงบวกไปเกือบ 20%ในเดือนเมษายน พร้อมกับตลาดหุ้นอังกฤษที่ขึ้นไปประมาณ 8% ในขณะที่ตลาดหุ้นจีนขึ้นไปสูงสุด 60%ในเดือนมิถุนายน
การปรับตัวของตลาดหุ้นทั่วโลกในปี 2558 เริ่มมาจากตลาดของจีนในเดือนมิถุนายนนั้นเอง เมื่อทางการพยายามใช้มาตรการสกัดการเก็งกำไรในตลาด และเกิดการปรับตัวลงของตลาดหุ้นทั่วโลก
สำหรับของไทยนั้น แม้จะเริ่มปรับตัวลงไปก่อนหน้านั้นจากการออกมาเตือนของกูรูต่างๆแล้ว แต่เมื่อตลาดหลักๆมีการปรับตัวครั้งใหญ่ในเดือนเมษายน ตลาดไทยก็ปรับตัวลดลงอีก จนดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเดือนมิถุนายนปรับลดลงมาเท่ากับดัชนีเมื่อต้นปี
ส่วนตลาดญี่ปุ่นนั้น ไม่ได้ปรับตัวลดลงในรอบแรก แต่มาปรับตัวลดลงอย่างแรงๆในเดือนกรกฎาคมพร้อมกับตลาดจีน ฮ่องกง สหรัฐ
เมื่อเปรียบเทียบถึงสิ้นปีแล้ว ตลาดหุ้นของไทยปรับตัวลดลงมากที่สุดในบรรดาตลาดที่ดิฉันกล่าวถึงนี้ค่ะ โดยติดลบไปประมาณ 14% ขณะที่ตลาดอังกฤษลดไปประมาณ 8% ฮ่องกงติดลบประมาณ 7% สหรัฐ (S&P500) ติดลบไม่ถึง 1% ญี่ปุ่น(Nikkei 225)ให้ผลตอบแทนประมาณ 8% และตลาดจีน (เซี่ยงไฮ้) ให้ผลตอบแทนประมาณ 10%
แรงส่งด้านลบที่เกิดขึ้นในปี 2558 จะส่งต่อมาถึงปี 2559 ด้วยคือ ราคาโภคภัณฑ์ต่างๆจะยังคงต่ำอยู่ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน เหล็ก หรือพืชผลเกษตร โดยปัจจัยบวกที่จะทำให้ราคาปรับขึ้นมีค่อนข้างน้อย เนื่องจากความต้องการในโลกชะลอลง
ส่วนทองคำซึ่งหมดรอบเล่นไปแล้ว ก็จะไม่ปรับตัวไปไหนมากนัก ราคาน่าจะอยู่ในช่วง 1,000 – 1,100 เหรียญต่อออนซ์ เว้นแต่จะเกิดสงครามขึ้น
อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ว่าปี 2559 จะไม่มีอะไรดีนะคะ ข้อดีคือ น่าจะเป็นปีที่เห็นราคาต่ำสุดของโภคภัณฑ์หลายๆประเภท เพียงแต่ราคาต่ำน่าจะลากยาว อาจจะยาวไปครึ่งปี หรือทั้งปี หรือยาวเลยไปถึงปี 2560 ไม่มีใครสามารถตอบได้ โดยเหตุการณ์อาจจะพลิกผันได้ตลอดเวลา ดิฉันจึงอยากจะให้ท่านผู้อ่านพิจารณาลงทุนด้วยความระมัดระวัง
หากใช้ข้อมูลเรื่องปีวอกมาประกอบ โหราศาสตร์จีนบอกว่า ปีวอก หรือลิง ประกอบด้วยธาตุโลหะและน้ำ โลหะเชื่อมโยงกับทองและลม ซึ่งหมายถึงสถานการณ์ต่างๆจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และน้ำเชื่อมโยงกับความเฉลียวฉลาดและอันตราย ประกอบกับลิงเป็นสัตว์ที่ฉลาดและซุกซน ไม่หยุดนิ่ง ดังนั้น ถ้าจะเอาชนะลิง หรือแปลความอีกอย่างหนึ่งคือ ถ้าต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดี ต้องเก่งกว่าลิง
การเก่งกว่าลิง คือ ต้องมีความพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนให้รับกับสถานการณ์ ต้องรับแรงกดดันได้ดี ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ มีพลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง อย่าใช้อารมณ์ความรู้สึกตัดสินใจ ต้องใช้ข้อเท็จจริง และต้องวางแผนรับมือกับความเสี่ยง ที่เรียกกันว่า take calculated risk หมายถึง ยอมเสี่ยงโดยคำนวณแล้วว่า “คุ้มค่าเสี่ยง”
ก่อนที่จะเสี่ยงต้องประเมินสถานการณ์ไว้ว่า หากพบกับสถานการณ์ต่างๆเหล่านี้ จะทำอย่างไรและเตรียมแผนป้องกัน หรือรับมือให้พร้อม เมื่อพร้อม เราจะรู้ว่าหากสถานการณ์เลวร้ายที่สุด จะมีความสูญเสียเกิดขึ้นเท่าไหร่ และคุ้มไหมกับโอกาสทำกำไร
คำแนะนำขอโหราจารย์ซึ่งดิฉันเห็นว่าน่าจะนำมาใช้ในการลงทุน และการดำเนินชีวิตในปีวอกบอกว่า ให้คิดทบทวนสองรอบก่อนการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงทางการเงิน ทางการงาน ความสัมพันธ์ในงาน และความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ
ขอให้ท่านโชคดี และมีความรอบคอบ ระมัดระวังในการลงทุน และดำเนินชีวิต ในปีที่หลายสิ่งหลายอย่างจะมีความผันผวนอีกปีหนึ่ง และขอให้มีสติ มีการวางแผนให้ดี และประสบความสำเร็จในการลงทุนและในด้านอื่นๆของชีวิต ตลอดปี 2559 และตลอดไปค่ะ